ตอนที่ 242 แต่งงานปลอม ๆ
ซูหวานหว่านมองไปที่คุณชายถังราวกับขอความช่วยเหลือ คุณชายถังจึงกระแอมออกมาพร้อมดึงมือของสตรีนางนั้นออกไป จับมือของซูหวานหว่านเดินเข้าไปในห้อง ท่านแม่! ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนไป! เรื่องนี้ข้ากับนางเพิ่งพูดปรึกษาหารือกันเท่านั้น!
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัวแล้วปิดประตูลง ชายหนุ่มมองไปที่ซูหวานหว่านด้วยสายตาขอโทษ แม่นางซู ข้าขอบอกตามตรงว่าตอนนี้ที่บ้านของข้ากำลังมีเรื่องเกิดขึ้น แม่ของข้ากำลังมองหาหญิงสาวจากทุกสารทิศเพื่อให้มาแต่งงานกับข้า แต่ว่าข้า…ข้ายังไม่อยากแต่งงาน ทว่าท่านยายของข้าป่วยหนัก ข้าจึงตอบรับไป
หลังจากพูดแบบคุณชายถังก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองซูหวานหว่าน เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความกังวลของอีกฝ่ายจึงพูดออกมาว่า แม่นางซู หากเป็นเช่นนี้พวกเราแกล้งแต่งงานกันปลอม ๆ ได้หรือไม่ ข้าสัญญาหลังการแต่งงานข้าจะไม่แตะต้องตัวเจ้า แต่ถ้าเจ้ามีคนที่เจ้าชอบอยู่แล้ว ข้าจะไม่ขัดขวางความสุขของเจ้า หลังจากที่ท่านยายของข้าจากไป เราจะหย่ากัน เจ้าจะว่าอย่างไร?
นี่มันจะไปกันใหญ่แล้ว ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าหลังจากนี้นางจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง แต่ว่าการทำเช่นนี้มันอาจจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของนางได้เช่นกัน
ซูหวานหว่านเกิดความรู้สึกกังวลทันทีและกล่าวว่า คุณชายถัง หลังจากข้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ข้าอาจจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าได้ เพราะว่าวันนี้ข้าก็ไปก่อปัญหากับฉีเต๋อหลงและเย่เสี่ยวโหวเอาไว้ อีกอย่างตระกูลของเจ้าล่ะ มันจะเสียหายอย่างไรข้าไม่อยากที่จะทำอะไรให้พวกเจ้าลำบากไปมากกว่านี้
แม่นางซู ข้าไม่ได้กลัวเรื่องนี้เลย ตระกูลถังของเราก็มีหน้ามีตาอยู่ ตระกูลการค้าของเราจัดหาอาหารทะเลมาขายในเมืองหลวงนี้ เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึง… มีอยู่แล้ว แม่นางซูอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป หากเจ้าแต่งงานมาอยู่บ้านข้าเมื่อพวกเขามีความคิดเห็นอื่น ๆ พวกเราค่อยมาช่วยกันหาวิธีการแก้ไขด้วยกัน คุณชายถังพูดออกมาอย่างจริงจัง และถอนหายใจออกมาทันที ถึงเจ้าไม่เห็นด้วย ข้าก็เข้าใจถึงเหตุผลดี และข้าก็จะไม่ไปบังคับเจ้า
ถ้าคุณชายต้องการจะแต่งงานปลอม ๆ เหตุใดเจ้าถึงไม่หาสตรีที่คุณชายถังชอบมาแต่งงานเสีย ทำไมจะต้องมาแต่งงานปลอม ๆ กับข้าด้วย? ซูหวานหว่านก็รู้สึกงุนงง นำเข้าของทะเลมาขายในเมืองนี้ แน่นอนว่าฐานะของเขาต้องดีมากแน่ ๆ เช่นนั้นแล้วคุณชายถังต้องกังวลสิ่งใดอีก
แม่นางซูอาจจะยังไม่รู้ข้าเคยแอบชอบหญิงสาวคนหนึ่งในชนบท แต่ใครจะไปรู้… ว่าเมื่อข้ากลับไป นางจะ… เฮ้อ! ตอนนี้ข้าไม่อยากที่จะไล่ตามความรักหรืออะไรแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ข้าหวังก็คือความก้าวหน้าของกิจการของตระกูลถัง คุณชายถังกล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อเห็นท่าทางหมดหนทางของคุณชายถัง หัวใจของซูหวานหว่านก็อ่อนยวบ ข้าตอบตกลงก็ได้ แต่…กฎและข้อบังคับของตระกูลเจ้านั้น ข้าจะไม่ยอมทำตาม ข้าจะเป็นตัวของตัวเอง หากเป็นแบบนี้ เจ้าอยากที่จะแต่งงานปลอม ๆ กับข้าหรือไม่?
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณชายถังรู้สึกตกใจและเกิดความประหลาดใจ แม่นางซูตอบตกลงแล้วอย่างงั้นรึ?
อืม ซูหวานหว่านพยักหน้า หูของคุณชายถังขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาจูงซูหวานหว่านเดินออกไป กำลังเอ่ยบอกแม่ของเขา แต่ก็เห็นฉีเฉิงเฟิงที่ยืนสวมหน้ากากครึ่งใบหน้ายืนอยู่กลุ่มในฝูงชนที่กำลังมองมาทางพวกเขาทั้งสองคน
ในตอนนั้นเอง หัวใจของซูหวานหว่านรู้สึกเย็นชา และนางก็พูดกับหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าว่า ‘ท่านแม่’ แน่นอนว่าฮูหยินถังไม่ใช่คนประเภทที่ยึดติดกับอะไรมากมาย จึงหยิบเงินจำนวนมากออกมาใส่ไปที่มือของซูหวานหว่านแล้วพูดว่า ไม่ว่าครอบครัวของเจ้าจะมีภูมิหลังเป็นอย่างไร แต่ว่าข้าถูกใจเจ้าตั้งแต่แรกเห็น เอาแบบนี้แล้วกัน หากพรุ่งนี้ข้าให้พวกเจ้าสองคนแต่งงานกันเลยจะว่าอย่างไร?
ท่านแม่ มันไม่เร็วเกินไปอย่างงั้นหรือ คุณชายถังกล่าวออกมา เขาเหลือบไปมองฉีเฉิงเฟิง และกล่าวว่า องค์ชายสามกำลังจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของเราก็จะแต่งงาน หากพวกชาวบ้านเอาไปพูดว่าพวกเราจัดงานตัดหน้าราชวงศ์ พวกเราจะทำอย่างไร?
เอ่อ… ฮูหยินถังก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วนั่งลงทันที แม่ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย! อย่างงั้นเจ้าก็จัดงานแต่งงานพร้อมกับองค์ชายสามไปเลย! จะได้เป็นมงคล
นางกำลังจะแต่งงานกับคนอื่น แต่เรื่องของเขายังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ในที่สุดฉีเฉิงเฟิงก็ทนไม่ไหว เดินเข้าไปหาทั้งสองคนและถอดหน้ากากบนใบหน้าออกช้า ๆ เหตุใดทุกคนถึงอยากจะยื้อแย่งเกาะเกี่ยวความมงคลของราชวงศ์ คุณชายถังดูเหมือนว่าเจ้าจะชอบแย่งความมงคลของข้า แม้กระทั่ง…
เขามาที่นี่เพื่อจะต่อว่านางงั้นเหรอ? ในหัวก็คิดถึงประโยคต่อมาที่เขาไม่ได้เอ่ยออกมา แม้กระทั่งของที่เคยเป็นของเขามาก่อนก็ชอบงั้นเหรอ?
ซูหวานหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว และพูดขัดขึ้นมาว่า องค์ชายสาม ท่านช่วยหยุดทีเถิด ที่พวกเราจะแต่งงานกันในวันนั้นไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เห็นแก่หน้าของราชวงศ์ ตระกูลถังก็เป็นแค่ตระกูลเล็ก ๆ ต่างจากราชวงศ์ที่จัดงานใหญ่โตจนสามารถเลี้ยงคนทั่วเมืองหลวงได้! ไม่ใช่อย่างงั้นรึ องค์ชายสามจะกลัวเสียหน้าทำไม?
นางไม่เข้าใจคำพูดของเขา! นางมองไม่เห็นความรักของเขาเลยงั้นเหรอ ฉีเฉิงเฟิงขมวดคิ้วก้มหน้าลงและกระซิบกับซูหวานหว่านว่า ซูหวานหว่าน ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะคิดอย่างไร…แต่เจ้าจะแต่งงานกับคุณชายถังไม่ได้!
เขากับนางไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ยังมีหน้ามาพูดจาแบบนี้กับนางอีก ช่างน่ารังเกียจ! ซูหวานหว่านทนไม่ไหวจึงซบหน้าไปที่อกของคุณชายถังแล้วกล่าวออกมาว่า สามี องค์ชายสามผู้นี้เจ้ารู้จักเขาหรือไม่ เหตุใดเขาถึงมายุ่งเกี่ยวกับงานแต่งงานของเราด้วย แล้วพวกเราจะได้แต่งงานหรือไม่?
เขา… ข้าไม่คุ้นเลย ใบหน้าของคุณชายถังพลันเปลี่ยนสี และมองไปที่ฉีเฉิงเฟิงพร้อมพูดว่า ถ้าองค์ชายสามไม่มีความสุขที่ตระกูลถังของเราจะแต่งงานในวันนั้น งั้นพวกเราก็แต่งงานกันในวันพรุ่งนี้เลย
เร็วขนาดนั้นเลย แล้วเขาจะเอาซูหวานหว่านกลับคืนมาได้อย่างไร ฉีเฉิงเฟิงยิ้มและพูดออกมาว่า พวกท่านทั้งสอง อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ข้าได้ยินมาว่าตระกลูถังต้องการจัดงานแต่งงานในวันเดียวกับข้า ซึ่งก็คืออีกสิบวันข้างหน้า ข้าเลยแค่แวะแสดงความยินดีและขอให้วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขไปด้วยกันเถอะ
ขอบคุณองค์ชายสาม คุณชายถังคลี่ยิ้มพร้อมกับจับมือของซูหวานหว่าน และพานางกับฮูหยินถังเดินกลับบ้านของเขาไป
วินาทีนั้น ซูหวานหว่านรู้สึกถึงคนกำลังจ้องมองแผ่นหลังของนาง หญิงสาวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากนางและคุณชายถังแต่งงานกันปลอม ๆ แล้วคะแนนของนางจะเป็นอย่างไร?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จู่ ๆ ก็มีตัวหนังสือขึ้นมาปรากฏขึ้น เข้าพิธีกับคุณชายถังจะได้รับหนึ่งแสนคะแนน หากเข้าพิธีกับฉีเฉิงเฟิงจะได้รับห้าแสนคะแนน
เหตุใดคะแนนถึงห่างกันมากขนาดนี้ ซูหวานหว่านครุ่นคิดไม่หยุด และใช้พลังจิตถามว่า ข้าสามารถเข้าพิธีกับทั้งสองคนพร้อมกันได้หรือไม่?
ตัวหนังสือก็ปรากฏขึ้นมาว่า ‘ฝันหวานไปหรือเปล่า!’
ซูหวานหว่านรู้สึกเศร้าใจอยู่พักหนึ่ง หลังจากคิดอย่างรอบคอบ นางก็ตัดสินใจว่าจะรักษาแต้มคะแนนในมิติฟาร์มให้คงที่และเพิ่มแต้มคะแนนเข้าไปให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้คืนในการเบิกคะแนน เพื่อที่จะรักษาจิตวิญญาณของหลิงเชอไม่ให้สลายไป ควรปล่อยให้เรื่องทั้งหมดเป็นไปตามโชคชะตา
เพื่อคะแนน!
ดูเหมือนว่าวันนี้นางจะต้องไปหาฉีเฉิงเฟิงเพื่อเพิ่มคะแนนให้ได้ในคืนนี้!
ซูหวานหว่านรู้สึกเศร้าใจมาก
หลังจากเดินกลับมาถึงบ้านของคุณชายถัง เขาได้จัดห้องพักซูหวานหว่านเพื่อไม่ให้กระทบชื่อเสียงของซูหวานหว่าน หลังจากก็ขอตัวไปจัดการธุระของตัวเองต่อ เมื่อได้อยู่ตามลำพังนางก็ได้เข้าไปในมิติฟาร์มเพื่อที่ทำยาสลบเข้มข้น ไว้ ‘ทดลอง’ ใช้กับฉีเฉิงเฟิงในคืนนี้!
ในเวลานี้ ฉีเฉิงเฟิงกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องอาหารด้วยความกลุ้มใจ และทันใดก็มีคนบุกเข้ามา เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าเขาก็คือฉีเต๋อหลง!
น้องสาม เจ้าเป็นอะไรไปหรือเปล่า เจ็บเพราะรักเหรอ ไม่ชอบที่คนอื่นนั้นใช้ของร่วมกันกับเจ้าหรืออย่างไร หรือจะให้พี่คนนี้ช่วยจับซูหวานหว่านมัดเอาไว้ในวังหรือไม่?
ฉีเต๋อหลงเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น พร้อมกับโถน้ำร้อนถืออยู่ในมือ นั่งลงตรงข้ามกับฉีเฉิงเฟิง เมื่อเห็นคิ้วของฉีเฉิงเฟิงค่อย ๆ ขมวดเข้าหากันก็อดหัวเราะไม่ได้ สิ่งที่ตัวข้าพูดออกมาเมื่อครู่ถูกต้องใช่ไหม ตัวข้ารู้เรื่องนี้อยู่แล้วและได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะจับนางมา! ไม่ว่าจะตายหรือมีชีวิตอยู่ก็ตาม ข้าจะจับนางมาให้เจ้า!