เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 234 ถูกเปิดเผย

ตอนที่ 234 ถูกเปิดเผย

ตอนที่ 234 ถูกเปิดเผย

ซูหวานหว่านกำลังจะกระโดดลงจากต้นไม้ แต่นางกลับรู้สึกว่ามีบางสิ่งสัมผัสลงที่ไหล่ของนาง

ราวกับว่ามีคนมาจับเอาไว้!

เป็นไปได้ไหมว่าจะมีคนอยู่บนต้นไม้นี้ด้วย?

ซูหวานหว่านขมวดคิ้วแล้วหันศีรษะไปเล็กน้อย พลันเห็นชายชุดดำคนหนึ่งจ้องมองมาที่นางด้วยดวงตากลมโต หากแต่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่อย่างใด หญิงสาวตกใจและถามออกมาว่า  เจ้าเป็นใครกัน? 

 เจ้าไม่ต้องสนใจหรอกว่าข้าเป็นใคร! รู้เพียงแค่ว่าเราไม่ใช่ศัตรูกันก็พอ  ชายในชุดดำพูดออกมาพร้อมกับขยิบตาให้ซูหวานหว่าน  เจ้าคือแม่นางซูลูกศิษย์ของฮวงอวี๋อีมิใช่หรือไม่? เหตุใดพวกเราไม่มาร่วมมือกัน เจ้าคอยสอดส่องเฉียวหน่วนอวี้ให้ข้า สืบหาให้ข้าว่าชายคนนั้นเป็นใคร ข้าจะ… 

 เจ้าจะอะไรงั้นหรือ?  ซูหวานหว่านเลิกคิ้วถาม

ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของบุรุษชุดดำ เขาหยิบเงินออกมายื่นให้กับซูหวานหว่านแล้วพูดออกมาเบา ๆ ว่า  นี่คือเงินทั้งหมดของข้าที่มีอยู่ในตอนนี้ 

 … 

ชายชุดดำผู้นี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดเขาช่างน่าขันเช่นนี้ เจ้านายสั่งให้เขามาทำงานแต่เขากลับใช้คนอื่นทำงานแทน! ไม่ทุ่มเทกับงานเลย! ซูหวานหว่านครุ่นคิดอยู่สักพักก็รับเงินมาแล้วพูดว่า  ข้ารู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เขาคือองค์ชายสามผู้โด่งดังในเมืองหลวงนี้ ฉีเฉิงเฟิง! 

ความสงสัยในแววตาของชายชุดดำค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้พูดออกมา และเอ่ยออกมาเบา ๆ ว่า  ข้าต้องขอตัวลาก่อน  กับซูหวานหว่านแล้วจากไปทันที

ไม่นานหลังจากนั้นในห้องนอนที่ดีที่สุดของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ฉีเฉิงเฟิงนั่งรออยู่ที่หน้าต่างห้อง ก็มีชายชุดดำกระโดดเข้ามาจากทางหน้าต่าง และนั่งคุกเข่าลงบนพื้นและเล่าถึงสิ่งที่เขาได้รับมอบหมายให้ไปทำ หลังจากนั้นก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า  ฝ่าบาท… เมื่อครู่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อย ทำให้ข้าน้อยไม่ได้สืบให้แน่ใจว่าคนนั้นเป็นใคร แต่ข้าน้อยได้… พบแม่นางคนหนึ่ง แม่นางคนบอกว่าชายคนนั้นคือฝ่าบาท! แต่ข้ารู้ได้เลยว่าคนที่เข้าไปในห้องของเฉียวหน่วนอวี้คือองค์ชายรอง! มีเพียงองค์ชายรองเท่านั้นที่มีความคล้ายคลึงกับท่านมากที่สุด 

คิ้วของฉีเฉิงเฟิงขมวดคิ้วขึ้นเข้าหากันช้า ๆ ราวกับว่าเขาได้ยินเพียงครึ่งแรกของประโยค  เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ผู้หญิงคนบอกว่าผู้ชายที่เข้าไปในห้องของเฉียวหน่วนอวี้คือข้าอย่างงั้นรึ? 

 … 

ชายชุดดำก้มหัวลงไม่รู้จะตอบอย่างไรดี  ข้าน้อยปืนต้นไม้เพื่อไปสอดส่องเข้าไป แต่ใครไปจะรู้ว่าแม่นางคนนั้นจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แต่ว่า… 

ชายชุดดำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างประจบสอพลอว่า  แต่ว่าข้าน้อยไม่ได้บอกนางว่าข้าน้อยเป็นใคร และใครเป็นคนส่งข้ามาทำงานนะขอรับ! 

ยังจะมาพูดแบบนี้อีกหรือ ฉีเฉิงเฟิงขมวดคิ้วทันทีและเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า  เจ้าไปวิ่งรอบ เมืองหนึ่งรอบเดี๋ยวนี้!! 

 ขอรับฝ่าบาท  ชายชุดดำตอบกลับด้วยใบหน้าที่ขมขื่น เขารู้สึกเจ็บใจมาก วิ่งรอบเมืองเช่นนี้ ขาของเขาต้องหักแน่ ๆ!

ฉีเฉิงเฟิงลูบคางตัวเองอย่างครุ่นคิด แล้วเขาก็นึกถึงซูหวานหว่านทันที ชายหนุ่มไม่อยากเอาความรู้สึกของเขาเข้ามาพัวพันเรื่องนี้ด้วย อีกทั้งมันไม่ใช่เวลาที่จะไปพบนาง ถ้าหากนางตกเป็นเป้าหมายขององค์ชายรอง… เขาคงจะทุกข์ใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถปกป้องนางได้!

สิ่งที่ฉีเฉิงเฟิงยิ่งกลัวนั้นก็คือหากซูหวานหว่านคิดว่าเขาและเฉียวหน่วนอวี้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ควรทำ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเกลี้ยกล่อมให้นางกลับมาคืนดีด้วย!

ซูหวานหว่านไม่รู้ว่าในตอนนี้กำลังมีใครบางคนนึกถึงนางอยู่ นางนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้และจามออกมาจนเกือบจะตกลงมา แต่โชคดีนางที่จับกิ่งไม้เอาไว้ทัน

ซูหวานหว่านนั่งอยู่บนต้นไม้เป็นเวลานาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่นเดินเข้ามาแล้วจึงกระโดดเข้าไปในลาน ย่องไปที่หน้าห้องของเฉียวหน่วนอวี้

นางค่อย ๆ ปีนข้ามกำแพงและปีนขึ้นไปบนหลังคา หญิงสาวใช้พลังภายในของตัวเองทำให้ร่างกายของตัวเองเบามากจนเหมือนปุ่ยนุ่น เดินขึ้นไปบนหลังคาโดยไร้สุ้มเสียงใด ๆ

ซูหวานหว่านกำลังจะเปิดกระเบื้องบนหลังคาออกมองดู ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนใช้สองคนที่กำลังถกเถียงกันดังขึ้นมา เสียงหนึ่งคนในนั้นกล่าวออกมาว่า  เรื่องของเจ้ากับฉีเฉิงเฟิงไม่มีทางเป็นไปได้ เจ้าต้องการไปเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ๆ อย่างงั้นรึ ดูพวกเขานั้นรักกัน นั่นไม่ถือเป็นการทำร้ายตัวเองหรอกหรือ! 

อีกคนพูดหนึ่งก็ขึ้นมาว่า  แค่มองดูมันจะเป็นอะไรไป ไม่ได้เสียเงินสักหน่อย! แล้วมันจะไม่เป็นหนามทิ่มแทงอะไร! นอกจากนี้ฉีเฉิงเฟิงไม่ได้อยากจะสัมผัสเนื้อตัวของเฉียวหน่วนอวี้เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งเขายังโยนนางให้กับคนใช้ไปบำเรอความใคร่! ฉีเฉิงเฟิงไม่ต้องการทำเรื่องแบบนั้นกับเฉียวหน่วนอวี้! พวกเขาอาจจะมาพูดคุยเรื่องสำคัญกัน หากแอบฟังคงจะไม่เป็นไรหรอก! 

ซูหวานหว่านกำลังรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น  หยูเอ๋อร์ เจ้ากับน้องสามร่วมห้องกันหรือยัง? 

 เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนเขาต้องการข้าอย่างมาก เมื่อข้าตื่นนอนขึ้นมาก็พบว่ามีรอยเลือดอยู่บนเตียง ความจริงแล้วแค่ข้าทำเป็นเลือดออกมันก็สำเร็จตามแผน ต่อไปในคืนเข้าหอคงไม่เป็นอะไรแล้ว 

เสียงนี้เป็นเสียงของเฉียวหน่วนอวี้!

 ดีแล้ว ข้าจะได้สบายใจ  ชายคนพูดพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ

เดิมทีซูหวานหว่านนางคิดว่าชายคนนี้คือฉีเฉิงเฟิง แต่พอได้ยินเรื่องนี้นางก็รู้ได้เลยว่าชายผู้นี้ไม่ใช่ฉีเฉิงเฟิง!

ซูหวานหว่านกำลังรู้สึกสงสัยแต่ทันใดนั้นก็ได้ยิน ‘ตึง’ มาจากด้านล่าง ตามด้วยเสียงร้องแหบแห้งด้วยความสุขของหญิงสาวดังออกมาเป็นระยะ ใบหน้าของซูหวานหว่านพลันขึ้นสีแดงระเรื่อ คิดได้แบบนั้นก็กำลังจะจากไป แต่ก่อนที่จะจากไปนางอยากรู้ว่าชายผู้นี้เป็นใครกันแน่ จึงตัดสินใจยกกระเบื้องขึ้นและมองลงไป ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งและเฉียวหน่วนอวี้กำลังร่วมรักกันอย่างร้อนแรง เสื้อผ้าของพวกเขาหลุดลุ่ย นางเห็นใบหน้าของเฉียวหน่วนอวี้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นเพราะถูกชายคนนั้นบดบังเอาไว้ แต่นางกลับมองไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้นเลย

 อ๊ะ!  เฉียวหน่วนอวี้ลืมตาขึ้น และจู่ ๆ ก็ร้องออกมาเมื่อเห็นว่าคนมีคนกำลังแอบดูอยู่!

 เกิดอะไรขึ้น?  ชายคนนั้นถามขึ้นมา

 มีคน!  เฉียวหน่วนอวี้ตื่นตระหนกแล้วชี้ไปที่แผ่นกระเบื้องบนหลังคาที่ซูหวานหว่านเปิดออก ทว่าเมื่อชายผู้เงยหน้าขึ้นไปมองกลับพบว่าหลังคายังอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีร่องรอยใด ๆ

 เจ้าตาฝาดไปเองหรือเปล่า?  ชายคนนั้นพูดออกมา เขาไม่ได้สนใจอะไรและถอนกายออกจากร่างของเฉียวหน่วนอวี้ สวมเสื้อผ้าพลางพูดว่า  ใกล้จะสว่างแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับแล้ว 

เฉียวหน่วนอวี้ยังไม่อยากที่จะแยกจากเขาในตอนนี้ นางกอดชายคนนั้นเอาไว้แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเงยมองขึ้นไปที่หลังคานั้นอีก ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นมาจากหลังคา ทำให้เฉียวหน่วนอวี้และชายผู้นั้นชะงักไปในทันที

 มีคนอยู่จริง ๆ ด้วย!  เฉียวหน่วนอวี้พูดขึ้นมา หัวใจของนางสั่นไหว รีบวิ่งออกไปดูเพื่อที่จะได้รู้ว่าเป็นใครในทันที

ซูหวานหว่านเหลือบไปมองเห็นแมวขาวตัวอ้วนที่จู่ ๆ ก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคาด้วยความโกรธ และคิดในใจว่านี่เป็นแมวของใครกัน ข้าเกลียดมัน ดึกดื่นไม่ยอมหลับยอมนอนมาทำอะไรอยู่บนหลังคา?

ซูหวานหว่านคร่ำครวญออกมา และทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นเงาอีกสองเงาในความมืด เทียนถูกจุดขึ้นภายในห้อง มีคนใช้หลายคนถือโคมไฟออกมา เดินไปล้อมรอบห้อง!

นางจะหนีไปไหนได้อีก ซูหวานหว่านกังวลใจขึ้นมาทันทีและมองไปรอบ ๆ เพื่อหาที่หลบ ทันใดนั้นก็เห็นบันไดไม้บนคานของบ้านพอดี

 ไปสิ ไปดูให้ข้าหน่อยว่าใครกันที่อยู่ข้างบนนั้น  เฉียวหน่วนอวี้ก็สั่งคนรับใช้ทันที

ซูหวานหว่านตกใจ ชีวิตของข้าจะไม่ยอมจบลงในตอนนี้หรอก เจ้าแมวตัวนั้นมันเดินมาถูเท้าของซูหวานหว่านแล้วส่งเสียงออกมา  เมี้ยว 

ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ คนใช้ก็หยุดปีนทันทีและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า  คุณหนู มันคือแมวน้อยของท่านที่ปีนขึ้นไปบนหลังคา! ข้าคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าท่านส่งเสียงเรียก มันเลยร้องออกมา! 

ปรากฎว่านี่มันคือแมวของเฉียวหน่วนอวี้! ซูหวานหว่านถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในตอนนี้เฉียวหน่วนอวี้คงหมดความสงสัยแล้วคงไม่ให้คนใช้ปีนขึ้นมาแน่ ๆ?

ต่อมานางก็ได้ยินเสียงเฉียวหน่วนอวี้พูดออกมาว่า  ขึ้นไปช่วยแมวน้อยของข้าลงมา! และหากเจ้าขึ้นไปเห็นใคร… ก็จับมันมาให้ข้าด้วย! 

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท