หยวนยู่มองถังหยิน อีกฝ่ายมีกันแค่ 10 คนเท่านั้น ถ้านายท่านอยากจะช่วยพวกเขา มันง่ายมากเลยนะ
ถูกอย่างที่หยวนยู่กล่าว ทหาร 10 นายไม่คณามือพวกเขาอยู่แล้ว
ถังหยินวางตะเกียบในมือลงแล้วมองหยวนยู่ พวกเราช่วยเขามันก็แค่ปลายเหตุเท่านั้น ยังมีคนอีกมากมายที่โดนแบบนี้ คิดว่าพวกเราจะช่วยได้หมดไหม ?
ถ้าไม่เห็นก็ไม่ต้องช่วยก็ได้นี่นา
ถังหยินโบกมือ การช่วยคนมันแค่ผิวเผิน ถ้าเราอยากจบปัญหานี้ก็ต้องจัดการซ่งเทียน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือห้ามเปิดเผยตัวตนไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
หยวนยู่ได้ยินก็ก้มหน้าเงียบไป ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
สุดท้ายหลังจากกินเสร็จหยวนยู่ก็กล่าว คำพูดของท่านมันก็มีเหตุผลอยู่
ถังหยินเกือบจะหัวเราะออกมาอยู่แล้ว คนดื้อรั้นแบบนี้ย่อมเข้าใจอะไรง่าย ๆ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม พวกเขาก็มักจะเป็นเช่นนี้เสมอและไม่มีสหายมากเท่าไหร่นัก
จริง ๆ แล้วชายหนุ่มเองก็ชอบนิสัยแบบนี้ของหยวนยู่เหมือนกัน และยิ่งอีกฝ่ายเข้าใจอะไรง่าย ๆ แบบนี้ มันก็ยิ่งจัดการให้เข้าที่เข้าทางง่ายขึ้น
2 วันต่อมา ถังหยินและคนอื่นก็ได้เดินออกมาจากที่นี่ไปยังเมืองหยาน
เทียบกับเขตหลีฮู่แล้ว เมืองหยานสงบสุขกว่ามาก หากทว่ามันก็ยังมีค่ายทหารมากมายอยู่นอกตัวเมือง ทำให้เดาไม่ออกว่าเป็นค่ายของพวกหนิงหรือว่าพวกเฟิงกันแน่ แต่ในระหว่างที่เดินอยู่บนถนนหลักนอกเมือง พวกเขาก็เห็นว่าลู่ฟางกำลังเดินเข้ามาหาพอดี
คนที่เดินอยู่ข้างเขาคือชายวัย 30 ที่มีหนวดเคราเต็มไปหมด ดูจากร่างกายกำยำก็บอกได้เลยว่าเคยผ่านการฝึกมาก่อน และคนอื่น ๆ ที่เดินตามมาก็คือข้ารับใช้ หลีเทียน และอัยเจีย
เมื่อถังหยินและทุกคนมาถึง ลู่ฟางก็จำพวกเขาได้ในทันที จึงรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าดีใจก่อนจะโค้งหัวให้ นายท่านมาด้วยหรือ ? สำหรับเขาแล้ว การที่ถังหยินมาด้วยนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ชายหนุ่มยิ้มให้ ที่ข้ามา ก็เพื่อให้แน่ใจว่าภารกิจนี้จะสำเร็จยังไงล่ะ
รับทราบขอรับนายท่าน ! ลู่ฟางพยักหน้าให้แล้วโบกมือให้กับสหายของเขา นี่คือสหายของข้า เยว่จีเจีย
ถังหยินยิ้มให้ชายร่างใหญ่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอย่างเกรงใจ ข้าน้อยขอต้อนรับนายท่าน เขามองไปรอบ ๆ แล้วกล่าว ที่นี่ไม่เหมาะแก่การคุย ข้าขอเชิญนายท่านมาที่บ้านข้าก่อนดีกว่า
ตามนั้น
บ้านของจีเจียอยู่ข้างนอกเมืองหยานและมีสวนอยู่ด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วสำหรับตัวตนที่เคยเป็นโจรมาก่อนแบบนี้นั้น มันก็ช่างไม่เข้ากันเสียเลยที่จะมีบ้านนอกเมือง ทั้ง ๆ ที่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการปล้นน่าจะมีเยอะมากโข
หลังจากพาถังหยินเข้ามาในบ้านแล้วให้เขานั่ง จีเจียก็เข้ามายืนข้าง ๆ เขาก่อนโค้งคำนับ ข้าน้อยขอต้อนรับท่านถังหยินผู้ยิ่งใหญ่
ลู่ฟางกล่าวบ้าง เฮ้อ เจ้านี่น้า
จีเจียหน้าแดงขึ้นมาแล้วลูบมือของตัวเองเข้าด้วยกัน
ถังหยินรู้เลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นต้องลึกซึ้งมากแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงถามออกไปว่า แล้วพวกเจ้ารู้จักกันได้ยังไง ?
จีเจียดูเขินอายมากกว่าเดิมก่อนรีบพูด ข้าเชื่อว่าท่านต้องไม่เชื่อแน่ว่าพวกข้าทำอะไรกันไว้ ในตอนนั้นข้าไปเจรจาธุรกิจ และถ้าเขาไม่โผล่มาละก็ข้าคงจะตายไปแล้ว
อย่างนี้นี่เอง แล้วเจ้ามีทางเข้าไปในเมืองหยานจริงงั้นหรือ ? ถังหยินพยักหน้าให้แล้วมองไปยังจีเจีย
ชายร่างใหญ่หน้าซีดตัวแข็งทื่อ พร้อมกับนึกในใจว่าคนผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ แน่นอนนายท่าน ข้าขุดมันเองกับมือ
ทางเข้าอยู่ที่ไหน ?
ที่นี่แหละ
ตรงนี้งั้นหรือ ? ถังหยินประหลาดใจ
จีเจียรีบอธิบาย นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงสร้างบ้านที่นี่ ด้วยต้องการซ่อนมันให้พ้นจากสายตาทุกคน
ถังหยินหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับคิดว่าชายร่างใหญ่คนนี้ฉลาดมาก ก่อนที่เขาจะยกถ้วยชาขึ้นจิบมัน ในเมื่อเจ้ายินดีที่จะช่วยข้าแบบนี้ เจ้าไม่กลัวว่าซ่งเทียนจะลงโทษถ้าหากมันจับได้หรือ ?
จีเจียเป็นโจรตั้งแต่กำเนิด เขาฉลาดมากและรู้ความหมายของมันทันที ในเมื่อข้ายินดีจะช่วยลู่ฟาง ข้าก็ถือว่าออกจากมืองหยานมาครึ่งตัวแล้ว จริง ๆ แล้วครอบครัวข้าเองก็เดินทางไปเทียนหยวนแล้วด้วย
ถังหยินมองหน้าหลีเทียนและอัยเจีย ทั้งสองพยักหน้าให้เพื่อบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด
เขาวางแผนได้ดีมากทีเดียว ทำการส่งครอบครัวตัวเองออกจากเมืองเพื่อไม่ให้เกิดภัยอันตราย ทั้งยังช่วยลดความระแวงและถือว่าเป็นการมอบตัวประกันให้กับถังหยินด้วย เพื่อไว้หากเกิดข้อผิดพลาดจะได้ฆ่าล้างโคตรได้ง่าย ๆ
ถ้าเป็นถังหยินเขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
เมื่อได้ข้อมูลจากลูกน้องของเขา ถังหยินก็ยิ้มให้ ถ้าเป็นข้าเองก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน ดังนั้นถ้างานนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงามเลยล่ะ อย่าลืมเตือนข้าด้วยก็แล้วกัน
เป็นพระคุณอย่างยิ่งขอรับ จีเจียยืนขึ้นแล้วโค้งคำนับให้
ถังหยินมองอีกฝ่ายแล้วพยักหน้าให้
จีเจียซ่อนทางลับเอาไว้ได้ดีมาก ทางเข้าของมันอยู่ในห้องครัวที่พวกทหารไม่คิดจะมาตรวจค้น
ชายร่างใหญ่นำทางไป พร้อมกับพวกถังหยินที่ตามลงไปในหลุมไม่ห่าง
ทางลับนี้แคบมาก มันเข้าได้เพียงทีละคนเท่านั้น ซ้ำยังมืดจนแทบมองไม่เห็น แต่โชคดีที่ทุกคนหยิบคบเพลิงมาด้วย
ระวังทางลื่นด้วยทุกคน จีเจียเตือนทุกคน แต่เมื่อหันไปมองพวกถังหยิน เขาก็ต้องประหลาดใจเพราะชายหนุ่มสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไม่มีปัญหา ผิดกับคนอื่น ๆ
ดังนั้นจีเจียจึงรีบหันกลับไปและเดินนำทางต่อ
ครึ่งเส้นทางที่เดินมา ถ้ำก็ยิ่งเปียกชื้นมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นทางก็เริ่มลาดชันมากขึ้นไปทุกที ซึ่งนี่ก็ยังไม่นับรวมไปถึงหยดน้ำที่ไหลลงมา ที่ทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มีตะไคร่อยู่ข้างบนนี้ แต่ถ้าไปต่อก็จะไม่มีแล้วละ
ถังหยินไม่คิดว่าทางเข้าใต้ดินจะลึกลับและมีบรรยากาศน่ากลัวได้ขนาดนี้ บอกได้เลยว่านี่ต้องเป็นการก่อสร้างครั้งยิ่งใหญ่แน่ และการที่ไม่มีใครค้นพบมัน ก็ต้องยอมรับเลยว่าความสามารถของจีเจียสูงมาก !
หลังจากเดินกันมาหลายชั่วยาม ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงทางออก
เมื่อพวกเขาออกมาก็เห็นแสงไฟตรงหน้า ด้วยนี่คือห้องนอนของจีเจีย ที่แท้ทางออกของมันอยู่ที่ใต้เตียงนี่เอง !
อดีตโจรผู้นั้นมองถังหยินด้วยรอยยิ้ม นี่คือบ้านของข้าเอง
ทางลับนี้มันอัศจรรย์มาก มันสามารถพาทุกคนที่อยู่นอกเมืองให้เข้ามาในเมืองได้เพียงชั่วพริบตา
ครอบครัวจีเจียได้ออกไปหมดแล้วเช่นเดียวกับข้ารับใช้ทุกคน ดังนั้นจึงเหลือแต่เพียงพวกคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น
ทุกคนมาที่ห้องของจีเจีย ก่อนที่ถังหยินจะถามขึ้น เหลียง อู่ และจีหยางยังอยู่ในจวนของซ่งเทียนหรือเปล่า ?
แน่นอนขอรับ ลูกน้องของหลีเทียนตอบกลับ
เจ้ามีแผนที่ของสถานที่ที่ว่าหรือไม่ ?
พวกเรามีแค่บริเวณโดยรอบเท่านั้น เพราะการเฝ้ายามหนาแน่นเกินไปทำให้พวกเราไม่สามารถระบุที่สิ่งอยู่ข้างในได้ ลูกน้องอัยเจียส่งแผนที่ให้กับถังหยิน
ชายหนุ่มรับมันมาแล้วคลี่ออกก่อนที่จะส่ายหัว เพราะแผนที่นี้มันมีข้อมูลน้อยมาก จึงไม่สามารถใช้ยืนยันได้ ก่อนที่พวกเราจะเคลื่อนไหว พวกเราต้องมีข้อมูลของสถานที่กักขังก่อน ถ้าไม่มีมันแล้วพวกเราจะเริ่มงานได้ยังไงกัน ?
ให้พวกเราไปสืบค้นต่อเถิดนายท่าน
ไม่จำเป็น มันมืดแล้ว ดังนั้นให้คนมากับข้าก็พอ เหตุที่ถังหยินกล่าวเช่นนั้น เพราะเขาคิดว่าการส่งคนเข้าไปอีกก็คงไร้ประโยชน์