ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] – บทที่ 173

บทที่ 173
ถังหยินรู้ว่าหมิงหยางรู้สึกยังไง เข้าจึงพูดออกไปว่า “ข้าบอกคำไหนก็คำนั้น ข้ายืนยันได้ว่าภรรยาของเจ้าจะไม่เป็นอันตรายแน่นอน”
หมิงหยางขบริมฝีปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าให้ข้ารับใช้ไปเรียกภรรยาเข้ามา
ภรรยาของหมิงหยางอ่อนกว่าสามีของนางมาก รูปร่างเองก็ถูกต้องตามตำราสาวงาม ดูมีเสน่ห์น่าเหลือเชื่อ
เมื่อถังหยินได้มองดูเขาก็เริ่มวางแผน
ชายหนุ่มดึงหมิงหยางเข้ามาใกล้ ก่อนกระซิบบอกแผนทั้งหมด ทำให้อดีตลูกน้องมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก และเอ่ยถามกลับไปว่า “ท่านแม่ทัพ มันจะไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นใช่ไหม ?”
ถังหยินหัวเราะออกมา “ไม่ต้องห่วง ข้าจะปลิดชีพซ่งซานให้โดยเร็วที่สุด”
“ก็ได้ ข้าเชื่อในตัวท่าน” หมิงหยางกัดฟันรับคำนี้ไป เขาเชื่อมั่นว่าถังหยินต้องทำได้
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ได้เดินออกไป เหลือทิ้งไว้แค่หยวนยู่ให้อยู่ที่นี่ จริง ๆ แล้วที่หยวนยู่มาที่นี่ ก็เพราะถังหยินสั่งให้เขามาจับตาดูหมิงหยางเอาไว้ ด้วยไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี เผื่ออาจจะมีการทรยศเกิดขึ้นได้
เมื่อกลับมาที่บ้านของจีเจีย ถังหยินก็ได้ให้จีเจียเตรียมรถม้าเอาไว้
อดีตโจรถาม “ท่านต้องการเท่าไหร่ ?”
“สักประมาณ 2 ร้อยคัน 1 ร้อยสำหรับในเมือง กับอีก 1 ร้อยนอกเมือง” ถังหยินกล่าวอย่างจริงจัง
“เยอะขนาดนั้นเชียว ?!” จีเจียอ้าปากด้วยความตะลึง
“ยากเกินไปหรือ ?”
“ขอเวลาสัก 2 วัน ข้าทำให้ท่านได้แน่ !” จีเจียรีบปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“เยี่ยมมาก จดบันทึกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอาไว้ ข้ากลับไปที่เทียนหยวนเมื่อไหร่จะชดใช้ให้เจ้า 2 เท่าเลย” ถังหยินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“เยี่ยมไปเลยนายท่าน” จีเจียยิ้มแก้มปริ แต่ถึงเขาจะพูดแบบนั้น หากทว่าในใจก็รู้สึกกดดันอยู่ดี เพราะรถม้าจำนวนมากขนาดนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายที่มหาศาลมาก ซึ่งถ้าเกิดว่าถังหยินคืนให้ 2 เท่าได้จริง ๆ อย่างที่ปากว่า งั้นแล้วเขาก็จะเบาใจได้เยอะทีเดียว
หลังคุยกับจีเจียเสร็จ ถังหยินก็เรียกเฉิงจินและลู่ฟางเข้ามาพูดคุยเรื่องภารกิจกันต่อ
แผนของเขาง่ายมาก อันดับแรกคือเขาจะพาซ่งซานมาที่บ้านก่อน จากนั้นก็ทำการจัดการและปลอมตัวเป็นอีกฝ่ายเพื่อลอบเข้าไปยังจวนของซ่งเทียน แล้วจึงพาตระกูลทั้ง 3 ออกมาด้วยรถม้าเพื่อส่งไปยังบ้านของจีเจีย
ถ้าหากทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี มันก็จะถึงขั้นตอนพาพวกเขาลักลอบหนีออกมาทางอุโมงค์ ก่อนให้ลู่ฟางพาพวกเขาขึ้นรถม้าด้านนอกเมืองออกไปอย่างสวัสดิภาพ
แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่บอกก็ได้
ทั้งสองถึงกับสูดหายใจแล้วถามขึ้นพร้อมกัน “แล้วนายท่านจะเป็นซ่งซานได้อย่างไร ? ร่างกายของพวกท่านต่างกันมากนัก ใครมันจะไม่สังเกตกันเล่า”
ชายหนุ่มยิ้มให้ “ข้ามีวิธีการของข้า เชื่อเถอะว่าข้าสามารถทำมันได้”
เฉิงจินกับลู่ฟางมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ พวกเขาไม่เข้าใจว่าถังหยินจะใช้วิธีอะไรกันแน่
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน หมิงหยางจะต้องไม่ขึ้นรถม้าไปด้วย
ในวันนี้หมิงหยางแต่งชุดธรรมดาแล้วพาภรรยาของเขาเดินไปด้วยพร้อมกับข้ารับใช้ผิวสี
เมื่อทั้งสามเข้ามาถึงเขตชานเมือง พวกเขาก็เดินไปรอบ ๆ จวนตระกูลซ่ง
ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกลางเมืองหยาน เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และที่นี่นี่เอง ที่ซ่งเทียนเลือกให้เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับคุมขังนักโทษคนสำคัญทั้งหลาย
เมื่อพวกเขามาถึง ก็ชะลอการเดินลงและเดินเข้าไปในร้านข้างทางเพื่อถ่วงเวลา
ไม่นานนักประตูจวนก็เปิดออก พร้อมกับพวกทหารชุดแดงที่เดินออกมาเป็นขบวน เพื่อคุ้มกันชายหนุ่มตรงกลางไว้
เขาคือ ซ่งซาน หลานของซ่งเทียน
เมื่อเห็นแบบนี้หมิงหยางก็ดึงแขนภรรยาตัวเองให้เดินออกมาพร้อมกัน ก่อนหันมองหน้าชายหนุ่มคนนั้นด้วยรอยยิ้ม
แต่ก่อนที่จะได้เข้าไปใกล้ ทหารคุ้มกันของซ่งซานก็กันตัวพวกเขาออกไป “เจ้าเป็นใคร ?”
หมิงหยางไม่สนใจพวกเขาแล้วโบกมือให้กับซ่งซาน “แม่ทัพซ่งช่างบังเอิญจริง ๆ พวกเรามาเจอกันได้ยังไงกันหนอ”
แม่ทัพหนุ่มประหลาดใจที่ได้ยินและหันไปมองหมิงหยาง “เจ้าคือ ?”
“ข้าคือเติงหมิงหยาง หัวหน้ากองพันที่ 6”
“เจ้านี่เอง แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน ?” ซ่งซานจำเขาคนนี้ได้ จึงโบกมือให้ทหารลดการป้องกันลง
เขาไม่ได้สนใจอะไรหมิงหยางมากนัก แต่ก็ไม่คิดว่าชายอดีตหัวหน้าคนนี้จะเป็นภัยได้เหมือนกัน
บางทีนะ
หมิงหยางยิ้มแก้มแทบปริแล้วพูด “แม่ทัพซ่ง ข้าและภรรยาออกมาซื้อของกัน และบังเอิญเจอท่านพอดี ดังนั้นข้าว่านี่จะต้องเป็นโชคชะตาแน่นอน” เขาพูดแล้วแนะนำหญิงสาวข้างตัว
“อย่างนี้นี่เอง” ซ่งซานไม่ใส่ใจรายละเอียดยิบย่อย เอาแต่มองไปยังภรรยาของหมิงหยางที่สวยสะดุดตาเขาอย่างยิ่ง
ในเมื่อเขาไม่ได้สนิทอะไรกับหมิงหยาง ตามปกติแล้วก็จะเดินเมินจากไป ทว่าเขากลับติดใจภรรยาของคนผู้นี้เข้าให้แล้ว จึงไม่ได้จากไปในทันที
หญิงสาวก้มหน้าด้วยความเขินอายแล้วก้มหัวลง “สวัสดีท่านแม่ทัพ”
เสียงของนางนุ่มนวลมาก ให้ความรู้สึกที่ดียิ่ง ทำให้ซ่งซานยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก
หมิงหยางแอบกัดฟันด้วยความหมั่นไส้และยิ้มให้กับอีกฝ่าย “แม่ทัพซ่งน่าจะยุ่งอยู่ งั้นข้าก็จะไม่รบกวนท่านแล้ว”
ซ่งซานที่ได้สติก็รีบโบกมือให้ “ไม่ยุ่งเลย ไม่ยุ่งเลย” ระหว่างที่พูด สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนางหมิง ที่สวยงามเทียบเคียงอู่เหมยหรืออู่อิงนางนี้
“งั้นข้าขอตัวก่อนนะแม่ทัพซ่ง” เมื่อเห็นซ่งซานทำสีหน้าหลงใหลแบบนั้น ก็หมายความว่าภารกิจนี้สำเร็จแล้ว
“ช้าก่อน”
หมิงหยางหยุดเดินแล้วหันกลับมา “มีอะไรหรือท่านแม่ทัพ ?”
ซ่งซานหัวเราะแห้ง ๆ “ไม่ต้องรีบไปไหนหรอก ถ้าเจ้าไม่มีอะไรด่วนล่ะก็ ไม่ไปดื่มชากับข้าเสียหน่อยเล่า ? อ้อ แล้วก็พาภรรยาของเจ้ามาด้วยล่ะ”
หมิงหยางรู้สึกคันในหัวใจมาก สีหน้าของซ่งเทียนไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่ามักมากในกามแค่ไหน เขากัดฟันเก็บความรู้สึกไว้แล้วกล่าวต่อ “นั่นสินะ แต่ว่าวันนี้ไม่ได้หรอก เพราะข้ามีแขกที่เรือน เอางี้ดีกว่า ข้าจะจัดงานเลี้ยงพรุ่งนี้ตอนกลางคืน ท่านว่าเช่นไร ?”
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายคิด หมิงหยางก็ชิงพูดต่อ “ถึงเวลานั้นพวกเรามาเมาให้เต็มที่ไปเลย !”
ได้ยินคำนี้ซ่งซานก็หัวเราะออกมา “ข้าจะไปหาท่านพรุ่งนี้แน่นอน”
“ข้าน้อยจะรอต้อนรับอย่างเต็มที่เชียวละ”
ซ่งซานหัวเราะด้วยความผ่อนคลาย “ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงข้าไปแน่นอน” โดยไม่ได้สังเกตถึงความบังเอิญที่ผิดปกติเหล่านี้
ในตอนเย็นของวันถัดมา ซ่งซานก็มาถึงตามสัญญา
เขาไม่ได้พาทหารมาด้วยมากมาย คนที่ติดตามมาทั้ง 10 คนล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทที่ไว้ใจได้ ซึ่งก็ได้หมิงหยางออกมาต้อนรับพวกเขาแล้วเชื้อเชิญเข้าไปภายใน
เทียบกับคนอื่นแล้ว เรือนของหมิงหยางเองก็ไม่เล็กสักเท่าไหร่ หากแต่ในสายตาของซ่งซานนั้นมันเล็กมาก
เขาเข้ามาก่อนทำการกวาดสายตาไปรอบ ๆ เมื่อไม่พบคนที่หมายตา ซ่งซานก็ดูจะผิดหวัง
“ข้าเตรียมอาหารเอาไว้แล้ว”
“ไม่ต้องหรอก ข้าเอาเหล้ามาด้วย เรามาดื่มกันให้เต็มที่ไปเลย !” ซ่งซานโบกมือ แสดงท่าทีดีใจกลบเกลื่อนออกมา
หมิงหยางหัวเราะออกมา พลางหยิบถุงเงินออกมายัดใส่มือของซ่งซาน “แม่ทัพซ่ง หวังว่าในอนาคตข้าจะหวังพึ่งท่านได้นะ”
ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

Status: Ongoing

สุดยอดนักฆ่าผู้แสนเย็นชานามว่า ถังหยิน เขาได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างที่เปลืองเปล่า ณ ต่างโลก ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้าร่วมกับสงครามแบบงง ๆ และนี่ก็คือก้าวแรกของราชันเทพสงครามผู้ที่กำลังขึ้นผงาดและเปลี่ยนโลกใบใหม่นี้ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท