“ไม่รักษาแล้วเหรอ? ได้สิ ไม่พูดล่ะ งั้นข้ากลับไปนอนก่อนนะ” “ข้าอนุญาตให้เจ้าออกไปแล้วเหรอ?” เสียงเย็นชาของเย่จิ่งหานดังขึ้น
กู้ชูหน่วนแปลกใจ
ว่ากันว่าเทพสงครามอารมณ์ร้อน แปรปรวนตลอด
นางทำขนาดนี้แล้ว ชายผู้นี้ยังอดทนได้อีกงั้นเหรอ?
“คุณหนูสามกู้ ข้าขอเตือนเจ้าคิดให้ดีว่าต้องรักษายังไง” เขาไม่ได้พูดต่อ แต่ใครก็รู้ว่า ถ้ารักษาไม่ดี จุดจบของนางจะเป็นยังไง
“ข้าตั้งใจรักษามาตลอด รีบดื่มยานี่ซะ เย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ”
กู้ชูหน่วนเอายาไปให้เขา แล้วเอาผลไม้แช่อิ่มให้เขาหนึ่งเม็ด ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มสองข้าง “แก้ความขมได้ดีเลยนะ”
เย่จิ่งหานที่โกรธเคืองจนแทบกระอักเลือด เพราะผลไม้แช่อิ่มเม็ดเดียว ก็หายโกรธไปมากแล้ว
นิ้วมือเรียวยาวของเขาถือยาถ้วยนั้นไว้ ดื่มยาลงไปจนหมดรวดเดียว แต่ถือผลไม้แช่อิ่มนั้นไว้ในมือ ไม่ได้กินลงไปด้วย
“ประคองข้าลงไป”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียตกใจ “ท่านอ๋อง น้ำในกระถางทองสัมฤทธิ์นั่นเดือดปุดๆ คนทั่วไปลงไปแช่จะต้องถูกต้มจนสุกแน่ นางตั้งใจแกล้งท่านชัดๆ”
“ข้าเชื่อใจนาง”
ทำไมถึงเชื่อ เขาก็ไม่รู้ แค่รู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำร้ายเขา
“แต่ว่า……”
เย่จิ่งหานมองไปด้วยสายตาเฉียบคม ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก จึงต้องประคองเขาไปอย่างไม่สบายใจ แล้วพูดว่า “ท่านอ๋องถ้าเกิดเป็นอะไรไป ข้ารับรองว่าจวนเฉิงเซี่ยงจะต้องตายอย่างทรมานไปจนถึงเก้าชั่วโคตรแน่นอน”
“ข้ารับคำเตือนของเจ้าไว้แล้ว ข้าก็จะบอกเจ้าไว้เหมือนกันนะ อย่าว่าแต่ฆ่าจวนเฉิงเซี่ยงเก้าชั่วโคตรเลย แม้จะเป็นสิบแปดชั่วโคตร สิบเก้าชั่วโคตร ก็ไม่เกี่ยวกับข้า เจ้าอยากฆ่าใครก็ฆ่าเถอะ”
ถ้าไม่ได้เจี่ยงเสวียห้ามไว้ ชิงเฟิงคงไปตั้งนานแล้ว
ในตอนที่ประคองเย่จิ่งหานเข้ากระถางทองสัมฤทธิ์ พวกเขาก็ลุ้นระทึกจนใจตกลงตาตุ่ม
ถ้าปล่อยลงไป ท่านอ๋องอาจจะถูกต้มจนตายได้
เย่จิ่งหานใจเย็นมาก แต่ดูดีๆแล้ว ก็ดูออกว่า ร่างกายของเขาเกร็งไปหมด
ในที่สุดก็เข้ากระถางทองสัมฤทธิ์แล้ว ไม่มีความรู้สึกแสบร้อนที่คิดไว้ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นมากกว่า
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียมองตาโต พวกเขามองดูน้ำเดือดในกระถางทองสัมฤทธิ์นั้น หลังจากที่เย่จิ่งหานเข้าไปแช่แล้ว น้ำก็เย็นลงจนกลายเป็นน้ำแข็งอย่างเห็นได้ชัด
นี่มัน……
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
กู้ชูหน่วนพูดว่า “ชักช้าอยู่ไย รีบเต็มไฟสิ อยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าแข็งตายหรือไง?”
แม้จะสงสัย ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียก็เต็มไฟอย่างพร้อมเพรียงกัน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเต็มไฟมากแค่ไหน ก็ไม่อาจละลายน้ำแข็งในกระถางทองสัมฤทธิ์ก็ไม่อาจหลอมละลายได้
เย่จิ่งหานโล่งอก
เขาเดิมพันถูกแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา
เขามีพิษเย็นมาแต่เกิด ตั้งแต่เล็กก็รู้สึกได้แค่ความเยือกเย็น ไม่เคยได้ลิ้มรสความอบอุ่นเลย
แต่เมื่อกี้ ในตอนที่เขาเข้ามาในกระถางทองสัมฤทธิ์นี่ ร่างกายของเขาก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นเล็กน้อย
เจี่ยงเสวียเช็ดเหงื่อที่ไหลไม่หยุด เขาหันไปมองกู้ชูหน่วน “คุณหนูกู้ น้ำแข็งละลายแล้ว ทำยังไงต่อ?”
“จะทำยังไงล่ะ เติมต่อไปสิ” กู้ชูหน่วนหาว ความง่วงจู่โจมเข้ามาไม่หยุด นางจึงฟุบนอนบนโต๊ะไปเลย
เจี่ยงเสวียกระตุกมุมปาก ไม่สนใจว่าร้อนแค่ไหน เขาขนฟืนเข้ามาไม่หยุด เพื่อให้ไฟแรงกว่านี้
อุณหภูมิด้านนอกสูงมาก โดยเฉพาะชิงเฟิงเจี่ยงเสวียเพราะเติมฟืนอยู่ตลอด พวกเขาร้อนจนเหงื่อไหลพราก ใบหน้าอันหล่อเหลาก็ร้อนจนแดงระเรื่อไปหมด
แต่น้ำแข็งในกระถางทองสัมฤทธิ์แม้จะละลายไปมากแล้ว แต่ผลก็ยังไม่ได้ชัดมากอยู่ดี
“ปัง……”
เสียงตบโต๊ะดังสนั่นลั่นห้อง ทำเอากู้ชูหน่วนสะดุ้งตื่นขึ้นมา
นางขยี้ตาแล้วถามว่า “เช้าแล้วเหรอ?”
เจี่ยงเสวียนิสัยดีกว่าชิงเฟิง แต่เวลานี้แล้ว เขาก็โกรธมากเหมือนกัน
เขาพูดเน้นทีละคำว่า “น้ำแข็งในกระถางทองสัมฤทธิ์ของท่านอ๋องละลายแล้ว”
รักษาท่านอ๋องยังไม่ถึงไหนก็นอนแล้ว ผู้หญิงคนนี้ ทำไมใจกล้าเช่นนี้กันนะ?
กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้น เห็นชิงเฟิงมองค้อนนางอย่างแรง เหงื่อที่ไหลดั่งเม็ดถั่วก็ไหลพรากลงมาเหมือนฝนตก
และเย่จิ่งหาน รอบตัวของเขาก็แผ่ซ่านไปด้วยความอาฆาตแค้น
นางหัวเราะแหะๆ “ก็รักษาเขาจนเหนื่อยไง เลยนอนหลับโดยไม่รู้ตัว”
กระอักเลือด
นางแค่เอาแต่สั่ง ไม่ได้ทำอะไร จะเหนื่อยอะไรนักหนา?