อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 190 ไม่มีโรคกระดูกอ่อนก็ยืนดีๆ

บทที่ 190 ไม่มีโรคกระดูกอ่อนก็ยืนดีๆ

บทที่189 โดนควักลูกตา

“ยัยขี้เหร่ ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้เลย” เงื้อมือโลหิตขึ้น สวีซานเหนียงพุ่งเข้าหากู้ชูหน่วนด้วยแรงอาฆาตแค้น

หยินต้ากุ่ยคว้าหมับจับมือของนางไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไป”

“พี่ใหญ่ ลูกตาของสวีเจิ้นโดนควักออกมาเชียวนะ”

“ข้าบอกให้เจ้าไปไง”

“วันนี้ข้าจะต้องฆ่ายัยนี่ให้ได้” สวีซานเหนียงสะบัดมือของเขาออกไป ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านออกมา

หยินต้ากุ่ยโมโหตบหน้านางไปทีหนึ่ง “ถ้าเจ้ากล้าฆ่านาง ข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วย”

สวีเจิ้นตาบอดแล้ว หรือว่านางก็อยากตาบอดไปด้วยหรือไง?

ไม่เห็นว่าจอมมารปกป้องยัยหนูนั่นอยู่หรือไง

ถ้าเกิดยัยหนูนั่นเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาอย่าคิดที่จะมีชีวิตรอดกลับไปเลย

ใต้หล้าอันกว้างใหญ่ สามารถทำให้สวีเจิ้นตาบอดได้โดยไม่เป็นที่สังเกต แถมยังควักลูกตาของเขาออกมาด้วยมือเปล่า จะมีกี่คนที่ทำแบบนี้ได้?

นี่มันฝีมือของจอมมารชัดๆ

สวีซานเหนียงตัวสั่นเทา ตะโกนอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “พี่ใหญ่……”

“ไป”

หยินต้ากุ่ยกลัวว่าถ้าอยู่ต่อไป พวกเขาสามคนต้องเป็นอันตรายแน่ เขารีบยกตัวพวกเขาแล้วบังคับลากออกไป ไม่สนใจว่าสวีซานเหนียงกับสวีเจิ้นจะโกรธมากแค่ไหน

พวกเขามาเร็วและไปเร็วเช่นกัน

ในตำบลเล็กเหลือเพียงแค่กู้ชูหน่วนกับจอมมารสองคน

กู้ชูหน่วนประคองจอมมารที่ซบอยู่บนตัวของตัวเอง

เจ้าหนุ่มปีศาจนี่แต๊ะอั๋งเก่งเหมือนกันนะ เมื่อกี้แอบจับเอวของนางไปหลายครั้งด้วย

“ถ้าไม่เป็นโรคกระดูกอ่อน ก็ยืนดีๆหน่อย”

“พี่สาว……พวกเขาน่ากลัวมากเลย ข้ากลัวจนขาอ่อนไปหมดแล้ว”

ถุ้ย

ขาอ่อนกับผีน่ะสิ

ตั้งแต่ต้นจนจบ นัยน์ตาของเขาก็ไม่มีความกลัวเลย

ตอนนี้ยังมาแสร้งทำกลัวตรงนี้อีก

“งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อยว่า เจ้าควักลูกตาของเจ้าลิงแห้งคนนั้นใช่ไหม?”

จอมมารเงยหน้ามองด้วยดวงตาสับสน ทำสีหน้าบริสุทธิ์ไร้พิษภัยอย่างกับกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัว “ไม่ใช่ฝีมือพี่สาวเหรอ?”

กู้ชูหน่วนอึ้ง

นางอยากจะทำอยู่หรอก แต่นางยังไม่มีความสามารถนั้นหรอกนะ

ถ้าเมื่อกี้สามคนนั้นร่วมมือกัน เกรงว่านางคงหนีไม่รอดแน่ หัวหน้าคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป เทียบได้กับอี้เฉินเฟยเลย

“ไม่ใช่เจ้าจริงเหรอ?” กู้ชูหน่วนมองด้วยแววตาสงสัย

“ถ้าพี่สาวอยากให้เป็นข้า งั้นข้าทำก็ได้” จอมมารยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้นางอีกครั้ง

“ยืนดีๆ แม้ข้าจะชอบหนุ่มหล่อ แต่ข้าก็ไม่ชอบปลาหมึกนะ”

“รับทราบขอรับ”

“แบบนี้สิเด็กดี” กู้ชูหน่วนบีบแก้มนุ่มนิ่มของเขาอีกครั้ง ในใจก็กำลังครุ่นคิดว่าใครเป็นคนควักลูกตาเจ้าลิงแห้งตัวนั้น

“ฟังพวกเขาบอกว่า ที่นี่เหมือนจะมีคนใหญ่คนโตมา เจ้ารู้ไหมว่าใคร?”

“อาจจะเป็นพี่สาวก็ได้” จอมมารเงยหน้าขึ้นแล้วกระตุกยิ้ม

“ปากหวานจริงนะเรา”

“อีกนานแค่ไหนจะถึงพระราชวังของจอมมารกัน”

“เดินไปอีกชั่วโมงหนึ่งก็ถึงแล้วล่ะ”

“เจ้าวาดแผ่นที่มาให้ข้าที ข้าไปเอง จากนั้นเจ้าก็ไปหาที่หลบรอข้าดีๆ”

“มีทางลับเยอะมาก ข้าวาดไม่ได้หรอก และข้าก็วาดไม่เป็นด้วย” จอมมารพูดอย่างเกียจคร้าน

คำพูดของเขาก็คือว่า ต้องพาเขาไม่ด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่พานางไป

“ตามข้าเข้าไปจะเป็นอันตรายได้นะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชูหน่วนจางลงไปมาก

เมื่อกี้อาละวาดเขาสูบวิญญาณเสียใหญ่โต ไม่รู้ว่าอี้เฉินเฟยจะออกมาได้อย่างปลอดภัยไหม

เดินพลัดหลงกับฝูกวงกับเย่เฟิงด้วยสิ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาปลอดภัยดีไหม

นางจะให้เขาไปเสี่ยงอันตรายอีกไม่ได้

บนโลกใบนี้ ผู้แข็งแกร่งคือเจ้า

รอได้หญ้านรกมาแล้ว นางก็ต้องหาทางเรียนกังฟูเพิ่มแล้วล่ะ

“งั้น……พวกเราไม่ได้เข้าไปแล้วล่ะ”

ไม่เข้าไป?

เป็นไปได้ยังไง

ยังไม่ได้หญ้านรกเลย นางไม่อยากมีใบหน้าอัปลักษณ์แบบนี้อีกต่อไปแล้ว ให้นางทะลุมิติข้ามเวลาอีกครั้งยังจะดีกว่า

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท