อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 196 ทักษะค่ายกลของพี่สาวดีจะตายไป

บทที่ 196 ทักษะค่ายกลของพี่สาวดีจะตายไป

เย่เฟิงยังอยากพูดอะไร แต่ได้ยินเสียงปัง ผู้พิทักษ์ขวาก็ลอยออกมา ร่างกายชนเข้ากับศาลด้านนอก แรงจนศาลล่มลงมา

“พุ่ง……”

เขาเลือดพุ่งออกมาจากปาก ดูท่าใกล้ตายอยู่แล้ว

ฝูกวงยังคงสภาพเดิม ดาบชี้ไปที่คอของผู้พิทักษ์ขวา ยืนมองเขา

แพ้ชนะเห็นได้ชัดแล้ว

เส้นลมปราณทั้งตัวของผู้พิทักษ์ขวาบาดเจ็บสาหัส เขาไม่คิดเลยว่า ชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปด จะมีการต่อสู้ที่เก่งกาจแบบนี้ได้

“ข้าคือผู้พิทักษ์ขวาของจอมมาร เจ้ากล้าฆ่าข้า เท่ากับว่าล่วงเกินเผ่าปีศาจทั้งเผ่า”

ฝูกวงแสยะยิ้ม “สู้กันมาตั้งนาน มีคนในเผ่าปีศาจมาช่วยเจ้าสักคนไหม?”

คำพูดเดียวพูดเตือนผู้พิทักษ์ขวา

พระราชวังที่มีการป้องกันหนาแน่น ทำไมถึงไม่มีทหารเลยสักคน?

เขาใจสั่นรู้สึกถึงเรื่องราวที่ผิดปกติแปลกๆ

แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อก็คือ

กู้ชูหน่วนชักดาบของฝูกวงออกมาเสียงดังฉึบ นัยน์ตาเย็นชาดั่งน้ำแข็งแผ่ซ่านไปด้วยความเยือกเย็นที่คล้ายความตาย

นางพูดชัดๆเน้นๆทุกคำว่า “กล้าแตะต้องเย่เฟิง เจ้าก็ควรคำนึงถึงความตายด้วย”

ผู้พิทักษ์ขวากำลังจะตอบโต้ ดาบของฝูกวงแนบชิดอยู่บนคอของเขา เข้าใกล้อีกนิด เขาก็จะถูกปาดคอจนตาย

ผู้พิทักษ์ขวาก็มีท่าทีช้าลง

และในตอนที่เขาช้าลงนั้น ดาบของกู้ชูหน่วนก็แทงไปที่อกของเขาแล้ว

เลือดไหลทะลักออกมา เยอะขึ้นเรื่อยๆ

ผู้พิทักษ์ขวาไม่อยากจะเชื่อว่า ตัวเองจะตายในน้ำมือของเจ้าเด็กสองคนที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

ผู้พิทักษ์ขวาตายแล้ว โลกสงบมากขึ้น มีเพียงเสียงลมพัดมาเบาๆ

แววตาเย็นชาของเย่เฟิงสับสนไปหมด

ไม่ไกลมาก……

จอมมารกับเสวียซายืนด้วยกันหน้าหลัง

จอมมารลูบผมสีดำขลับที่เรียบลื่นราวกับน้ำตก พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำช้าๆว่า “เจ้าว่าสู้กันนานขนาดนี้ ทหารเผ่าปีศาจของเรายังไม่ออกไปอีก จะดูแปลกมากเกินไปหรือเปล่า?”

“คือ……ว่า……” นายท่านตั้งใจปล่อยให้พวกเขาออกไปไม่ใช่เหรอ? ยังจะให้ทหารออกมาอีกทำไม?

ถึงแม้จะออกไปตอนนี้ ก็ยิ่งดูแปลกเข้าไปใหญ่?

“งั้นเจ้าเอากำลังทหารมาหนึ่งหน่วย ไม่งั้นเผ่าปีศาจของพวกเราจะดูไม่มีคนเลย”

“ขอรับ……”

ไม่นาน ทหารกลุ่มใหญ่วิ่งเข้ามา พร้อมกับตะโกนว่า “มีนักฆ่า มีนักฆ่า”

กู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก

เผ่าปีศาจคิดจะทำอะไรกันแน่?

คนพวกนี้ไม่หลับไม่นอนกันหรือไง เมื่อกี้ไม่ออกมา ตอนนี้ผู้พิทักษ์ขวาถูกฆ่าตายแล้ว ถึงตะโกนว่ามีนักฆ่า

พวกเขานอนนานอีกหน่อยไม่ได้หรือไง?

กู้ชูหน่วนหาเสื้อตัวใหญ่โยนให้เย่เฟิง พาพวกเขาสองคนวิ่งไปทางลับ “พวกเจ้าตามข้ามา”

“นายท่าน ประตูของเผ่าปีศาจน่าจะอยู่ทางนั้นนะ”

“ข้าพาพวกเจ้าเดินอ้อมทางลับออกไปดีกว่า”

ทางลับ?

นายท่านรู้จักทางลับในส่วนลึกของเผ่าปีศาจได้ยังไงกัน?

ฝูกวงสงสัย

เย่เฟิงยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

จอมมารยิ้มอย่างมีเสน่ห์ เขารอกู้ชูหน่วนออกไปแล้ว ค่อยเริ่มจัดการพวกหัวหน้ากองธง

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว กู้ชูหน่วนพาฝูกวงวิ่งไปมาหลายรอบ

เขารู้สึกแปลกใจ “เสวียซา เจ้าว่านางวิ่งไปมาหลายรอบ อยากได้ของอะไรจากเผ่าปีศาจอีกหรือเปล่า?”

“นายท่าน……สร้างค่ายกลระดับเทพในทางลับอย่างตั้งใจ คุณหนูกู้คงไม่ได้……หลงทางหรอกนะขอรับ”

“หลงทาง? ไม่มีทางหรอก ทักษะค่ายกลของพี่สาวดีจะตายไป ข้าเดาว่านางน่าจะกำลังหาตัวข้าอยู่ ไม่เสียแรงที่ข้าชื่นชมในตัวนาง”

เสวียซาปวดเหงื่อไม่กล้าตอบ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท