อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 195 ยังทนไหวไหม

บทที่ 195 ยังทนไหวไหม

ภายในห้องนอน เย่เฟิงถูกจับกางแขนขา มือและเท้าสองข้างถูกล่ามด้วยโซ่ บนพื้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ถูกฉีกจนแหลกละเอียด

ผู้พิทักษ์ขวากำลังทำตามใจตัวเอง

เย่เฟิงพยายามขัดขืนยังไงก็หลุดไม่พ้น แต่กลับทำให้แผลบนตัวฉีกออก เลือดไหลออกมาจากบนร่างกายของเขา

“เพี๊ยะ……”

ผู้พิทักษ์ขวาเงื้อมือขึ้นตบหน้าเขา แล้วตะคอกด่าอย่างโมโห

“ถุ้ย มาแสร้งทำสงวนตัวอะไรต่อหน้าข้า อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าปรนนิบัติหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ยังไง คนชั้นต่ำอย่างเจ้าได้รับความเชยชมจากข้า เจ้าควรภาคภูมิใจนะ”

คำพูดนี้แทงใจดำเย่เฟิงมาก

ความทรงจำในอดีตพลุ่งพล่านเข้ามาในสมองของเขา

ทุกภาพทุกฉากนั้นทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น

ถ้าชีวิตเลือกได้ ใครจะอยากมีชีวิตแบบนี้ล่ะ

ใครจะอยากให้คนอื่นมาคร่อมตัวแล้วบำเรอล่ะ

“เจ้าคนชั้นต่ำ ก็แค่ชายบำเรอตกอับ ยังกล้ามองค้อนข้าอีก ข้าจะบอกเจ้าให้นะ หลังจากคืนนี้ไป ข้าจะเอาตัวเจ้าให้ลูกน้อง เจ้าชอบแสร้งสงวนตัวมากนักไม่ใช่หรือไง ข้าจะดูสิว่าเจ้ายังจะสงวนตัวยังไงอีก?”

เย่เฟิงโดนตบหน้าอีกสองสามครั้ง ผู้พิทักษ์ขวาด่าแล้วตบเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“ติ๋ง……”

หางตาของเย่เฟิงมีน้ำตาไหลยาวออกมาเป็นทาง บาดแผลบนร่างกายเจ็บแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับความเจ็บของหัวใจที่แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆหรอก

ผู้พิทักษ์ขวาจะขึ้นคร่อมตัวอยู่แล้ว เย่เฟิงหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง เตรียมตัวแบกรับความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจตาย

ความเจ็บปวดที่คาดไว้ไม่ได้พุ่งเข้ามา แต่กลับได้ยินเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดของผู้พิทักษ์ขวา ต่อมาก็มีเสียงอาวุธกระทบกัน

เย่เฟิงลืมตาขึ้นอย่างสั่นเทา กลับเห็นฝูกวงที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน กำลังต่อสู้อยู่กับผู้พิทักษ์ขวาอย่างดุเดือด

และกู้ชูหน่วนถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกด้วยสีหน้าเย็นชา คลุมไว้บนร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเขา แล้วปลดโซ่ที่ล่ามแขนขาของเขาออกไป

หัวเย่เฟิงมีเสียงระเบิดดังขึ้นตู้ม เกือบสลบลงไป

ทำไม……

ทำไมทุกครั้งที่เขามีสภาพที่อับอายมากที่สุด นางถึงได้เห็นตลอดนะ

“เป็นยังไงบ้าง ยังไหวไหม?” กู้ชูหน่วนประคองตัวเขาขึ้น

เย่เฟิงถอยหลังไปด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา จับเสื้อบนตัวไว้แน่น ปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา

เขาก้มหน้าลง สีหน้าของเขาซีดเซียว มุมปากของเขามีเลือดซิบออกมา เหมือนกำลังอดทนกับอะไรอยู่

เห็นท่าทางแบบนี้ของเขา กู้ชูหน่วนก็โมโหแล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฝูกวง ฆ่ามัน”

“ขอรับ”

“โครม เพี้ยงๆ……”

ยอดฝีมือต่อสู้กัน เงาดาบสะท้อนออกมาเป็นระยะ ข้าวของทุกอย่างพังทลาย บรรยากาศความตายอบอวลอยู่ทั่วตำหนัก

กู้ชูหน่วนกลัวว่าเย่เฟิงจะโดนลูกหลง นางประคองร่างกายที่สั่นเทาของเขาออกไป

เย่เฟิงกัดริมฝีปากจนเป็นแผล บีบบังคับให้ตัวเองตั้งสติ เขาจับผ้าคลุมไว้แน่น มืออีกข้างก็จับมือกู้ชูหน่วนเดินออกจากห้องนอนไป

เศษซากจากข้าวของกระเด็นมาเป็นบางครั้ง เขาใช้ตัวเองบังเศษซากพวกนั้นเอาไว้

กู้ชูหน่วนจะยอมให้เขาได้รับบาดเจ็บได้ยังไง นางดึงเย่เฟิงหลบซ้ายทีขวาที หลบเศษซากพวกนั้นแล้วออกมาได้อย่างปลอดภัย

“ที่นี่คือส่วนลึกของเผ่าปีศาจ เจ้ารีบพาฝูกวงไปเร็วเข้า” เย่เฟิงผลักกู้ชูหน่วนออก แล้วพูดอย่างร้อนรนใจ

แม้เขาจะไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนกับฝูกวงรวมตัวกันได้ยังไง แต่เขาทิ้งวิญญาณไม่เหมือนกับเขาสูบวิญญาณ ที่นี่เป็นหนึ่งในพระราชวังของจอมมารเชียวนะ และ……จอมมารอาจจะอยู่ในวังก็ได้

ถ้าหากเจอกัน พวกเขาได้ตายทั้งหมดแน่

“วางใจได้ ที่นี่เสียงดังขนาดนี้ ถ้าคนของเผ่าปีศาจมาก็คงมาตั้งนานแล้ว และ……เขาก็สมควรตายด้วย” กู้ชูหน่วนพูดประโยคสุดท้ายอย่างเคียดแค้น

เมื่อกี้เขาอยากลงมืออยู่แล้ว แต่ฝูกวงมาพอดี จึงลงมือก่อนนางไป

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน