บทที่ 258 หนีตามกัน?
“ยัยขี้เหร่ ตื่นๆ”
เซียวหยู่เซวียนรู้นิสัยนาง หากไม่มีภัย ต่อให้ฟ้าผ่านางก็ไม่ขยับ หากมีภัยมา นางจะรู้ดียิ่งกว่าใคร ดังนั้นเซียวหยู่เซวียนมาถึงก็บีบคอนาง
“เจ้าช่างน่ารำคาญจริง เจ้าเข้าใจไหมว่าไม่นอนเป็นเวลานานจะตายได้”
“ยัยขี้เหร่ ข้าเอง” เซียวหยู่เซวียนกะพริบตา ยิ้มอย่างยินดี แต่พอเห็นชุดแต่งงานบนตัวนางแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็จืดลงบางส่วน
ใบดวงตากู้ชูหน่วนแวบประกายหนึ่ง
“เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าอยู่นี่ได้อย่างไร?”
นี่ไม่ใช่ห้องหอนางหรือ? องครักษ์ในจวนอ๋องหานหละหลวมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
แล้วเมื่อดูข้างนอก วายุหอบเมฆาพลุ่งพล่าน หงส์และดอกลำโพงปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งล้วนทำให้จวนอ๋องหาน กระทั่งพระนครสั่นสะเทือน
เฮ้ย…
สองคนนี้จะเอาถึงไหนกัน สู้กันตั้งนานแล้วยังไม่จบอีก หนวกหูจริงเชียว!
เซียวหยู่เซวียนหัวเราะเอ่ย “ยัยขี้เหร่ ข้าลงแรงใจมากมายถึงขุดทางใต้ดินได้ แล้วยังลงแรงกายใจอีกมากโขถึงล่อองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานไปได้ เจ้าจะไปกับข้าไหม?”
“ไปกับเจ้า? หนีการแต่งงาน?”
“ไปไหม?” ในดวงตาเซียวหยู่เซวียนปรากฏความหวัง
เขาไม่อยากให้ยัยขี้เหร่แต่งกับเทพสงคราม
“ถ้าข้าหนีการแต่งงาน เย่จิ่งหานไม่ขึ้นสวรรค์ลงนรกตามฆ่าข้าหรือ? อย่าเลยดีกว่า จวนอ๋องหานก็ดีเหมือนกัน” กู้ชูหน่วนปฏิเสธอย่างไม่คิดสักนิด
ทันใดนั้นประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออก ชิวเอ๋อร์ถือผ้าแดงคลุมศีรษะเข้ามาอย่างรีบๆ ร้อนๆ แต่พอเข้ามาก็เห็นว่าในห้องหอมีผู้ชายเจ้าชู้เซียวหยู่เซวียนอยู่ ตกใจจนปากอยากกรีดร้องออกไปด้วยความตระหนก
ยังดีที่เซียวหยู่เซวียนตาเร็วมือไว อุดปากนางไว้แน่น
ชิวเอ๋อร์เบิกตาเป็นโพลง ดิ้นไม่หยุด
“ชิวเอ๋อร์ ข้าไม่มีประสงค์ร้าย ขอเพียงเจ้าไม่ร้องไปเรื่อย ข้าจะปล่อยเจ้า”
กู้ชูหน่วนประคองหน้าผาก
เซียวหยู่เซวียนทำอะไรกันเนี่ย?
อยากให้ชิวเอ๋อร์หุบปาก ลูกไม้นี้ของเขาใช้ได้ที่ไหน
กู้ชูหน่วนจึงเอ่ยปากพลัน “ชิวเอ๋อร์ ถ้าเจ้าตะโกน ชื่อเสียงข้า คุณหนูของเจ้าก็จะหมดสิ้นแล้ว ถ้าเจ้าทำได้ลงคอ ก็ตะโกนไปเถอะ”
ชิวเอ๋อร์ดิ้นรนอีกจริง ผงกศีรษะอย่างตื่นตระหนก
เซียวหยู่เซวียนปล่อยนาง
ชิวเอ๋อร์ไม่ตะโกนอีก เพียงแต่ปากนั้นคิดบ่นจุกจิก
กู้ชูหน่วนขวางการพูดของนางไว้ได้เหมาะเจาะ “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากพูดว่าอะไร วางใจเถอะ เซียวหยู่เซวียนจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ผ้าแดงคลุมศีรษะนี่ให้ข้ากระมัง? ขอบใจ เดี๋ยวข้าคลุมเอง”
“คุณหนู…”
“ข้างนอกตีกับเสร็จแล้วหรือ?”
“ยัง…ยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ คุณหนู วันนี้เป็นวันมงคลของท่าน…”
“ข้ารู้จักพอประมาณน่า แต่จอมมารมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ เจ้าไปดูหน่อย ถ้าเย่จิ่งหานบาดเจ็บ ก็ให้เขากลับมารักษากับข้า”
คำพูดของชิวเอ๋อร์ถูกกู้ชูหน่วนสกัดไว้หมด นางจึงได้แต่ทำปากจู๋จากไป
กู้ชูหน่วนโล่งอก ไล่ยัยแม่บ้านคนนี้ออกไปได้สักที
แต่ทันใดนั้น กู้ชูหน่วนเห็นกระดิ่งที่เหน็บอยู่ตรงเองของนาง ร่างกายสะดุ้งอย่างห้ามไม่อยู่ “ชิวเอ๋อร์ กลับมา!”
“คุณหนู ท่านยังมีอะไรจะสั่งอีกหรือเจ้าคะ?”
“ที่เอวเจ้านั่นคืออะไร?”
“อ้อ…คุณหนูหมายถึงกระดิ่งนี่หรือเจ้าคะ? ตอนที่ชิวเอ๋อร์เพิ่งไปเก็บผ้าแดงคลุมศีรษะ ไม่ทันระวังเห็นอยู่บนพื้น รู้สึกสวยดีก็เลยเอาติดตัว หากคุณหนูชอบ ก็มอบให้คุณหนูแล้วกันเจ้าค่ะ”
กู้ชูหน่วนรับกระดิ่งมา ลูบวัสดุของกระดิ่ง แล้วมองดูยันต์อักขระบนนั้นอย่างละเอียด มั่นใจว่านี่ก็คือกระดิ่งทลายวิญญาณไม่ผิดแน่
เซียวหยู่เซวียนก็จำได้ เขาเอ่ยอย่างตกใจ “ยัยขี้เหร่ นี่ไม่ใช่กระดิ่งทลายวิญญาณหรือ? ทำไมอยู่ในมือสาวใช้เจ้าได้?”
กู้ชูหน่วนเก็บความกระเซ้าในวันวาน ถามอย่างจริงจัง “กระดิ่งทลายวิญญาณนี้โดยละเอียดเจ้าเก็บมาจากตรงไหน?”
“ห้องโถงหลักเจ้าค่ะ ก็ไม่รู้ว่าผู้ใดมิทันระวังทำหาย”
“ตำแหน่งไหนของห้องโถงหลัก?” กู้ชูหน่วนกำกระดิ่งทลายวิญญาณแน่น
หากรู้ได้ว่ากระดิ่งทลายวิญญาณอยู่ในมือใคร กระทั่งแน่ชัดได้ว่าใครคือคนที่ชิงกระดิ่งทลายวิญญาณของเย่เฟิงไปในตอนนั้น
ชิวเอ๋อร์คิดอยู่นานถึงเอ่ย “เหมือนว่าจะเป็นตำแหน่งทางอาจารย์สวีนะเจ้าคะ”