แผ่นหยกที่ได้มาจากเฉิงฉงชานนั้นมีด้วยกันทั้งสิ้นสามแผ่น
เย่หยวนนั้นยกมันขึ้นมาดูเล่นด้วยรอยยิ้ม “เฉิงฉงชานนั้นมันคิดว่าข้าจะไม่อาจเปิดแผ่นหยกนี้ออกมาได้ มันจึงได้มอบให้ข้าอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังมากมาย น่าเสียดายที่มันสมองน้อยเกินไป! แม้ว่าพลังปิดกั้นนี้มันจะรุนแรงล้ำสักแค่ไหน ตราบเท่าที่ข้าเข้าใจส่วนหนึ่งของมันได้ ข้าก็ย่อมจะสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด”
สิ่งที่เย่หยวนจะทำนั้นมิใช่การเปิดพลังปิดกั้นออกแต่เป็นการศึกษาค่ายกลที่สร้างพลังปิดกั้นนี้ขึ้นมา
ความยากของสองสิ่งนี้มันไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกันได้เลย
พลังปิดกั้นของแผ่นหยกนี้มันสุดแสนจะรุนแรงเหนือล้ำกว่าความเข้าใจของเย่หยวนไปอย่างมาก
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังได้พบว่าวิชาการค่ายกลของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันแตกต่างไปจากเต๋าค่ายกลของตัวเขาอย่างมาก
แทบจะไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกันเลย มันเป็นสิ่งที่เย่หยวนไม่เคยคิดฝันถึงมาก่อน
เหล่าพลังปิดกั้นทั้งหลายนั้นมันเหมือนเป็นประตูบานใหม่ให้แก่เย่หยวน ทำให้เขาได้เห็นโลกที่ไม่เคยรู้จัก
เป็นเวลานี้เองที่เย่หยวนได้รู้ว่าตัวเองยังประเมินสวรรค์ต่ำเกินไป!
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันเป็นโลกที่เกิดขึ้นมาจากพลังแห่งกฎสิ้น
ทุกสิ่งอย่างนั้นมันเหนือล้ำจนไม่อาจจะเอามหาพิภพถงเทียนมาเทียบเคียงได้แม้แต่น้อย
ยิ่งเย่หยวนศึกษาไปมากเท่าใดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันซับซ้อนขึ้น
เขานั้นรู้สึกเหมือนดั่งปรมาจารย์ที่ได้รับหนังสือกองยักษ์จากแดนไกล
พลังปิดกั้นทั้งหลายนี้มันผสานเข้ากับธรรมชาติราวกับว่าไม่ได้มีใครสร้างมันขึ้น
ไม่นานจากนั้นวันหนึ่งมันก็ได้มีพลังกฎประทับลงมาบนร่างของเย่หยวน
เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “ไม่นึกเลยว่ากฎแห่งเต๋าโอสถของข้ายังไม่ทันพัฒนาไปถึงขั้นสุดแต่กฎแห่งเต๋าค่ายกลของข้านั้นกลับจะเป็นวิชาที่ขึ้นมาถึงระดับสุดเสียก่อน วิชาการค่ายกลของผู้อาวุโสผู้นี้มันช่างเหนือล้ำนัก เขานั้นจะต้องเป็นยอดคนมากชื่อในสมัยก่อนเป็นแน่! น่าเสียดายที่เขานั้นต้องมาตายลงในป่าหมึกเรือง”
เย่หยวนนั้นไม่เคยคิดจะคัดลอกวิชาของคนอื่น เขานั้นเพียงแค่จับจุดสำคัญ ทิ้งจุดด้อยและเอามาผสานกับเต๋าค่ายกลแต่เดิมของเขา
หลายปีมานี้เย่หยวนได้พัฒนาเต๋าค่ายกลของตนขึ้นอย่างมากจนบ่มเพาะขึ้นมาถึงระดับหนึ่งขั้นสุดได้แล้ว
ไม่ต้องไปพูดถึงข้อมูลใดๆ ที่เก็บอยู่ในแผ่นหยกนั้น แค่นับเรื่องการศึกษาพลังปิดกั้นนี้มันก็ถือว่าเฉิงฉงชานได้ให้สมบัติล้ำค่าแก่เขาแล้ว
เย่หยวนนั้นหยิบแผ่นหยกนั้นขึ้นมาก่อนจะส่องจิตศักดิ์สิทธิ์ลงไปดูภายใน
จากนั้นข้อมูลมากล้นมันก็หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา
“คัมภีร์พิษ!”
สิ่งที่เก็บอยู่ภายในแผ่นหยกนี้มันกลับเป็นวิชาเกี่ยวกับพิษ
ภายในแผ่นหยกนั้นมันมีพิษมากมายและวิธีการใช้ที่หลากหลาย พิษแต่ละอย่างนั้นมันสุดแสนแปลกประหลาด
ต่อให้เย่หยวนจะเป็นยอดฝีมือด้านพิษสักแค่ไหน เขาก็ยังต้องอ้าปากค้าง
“ที่แท้แล้วพิษที่เฉิงฉงชานโดนมานั้นมันคือปะทุเงียบ แต่ก็สมชื่อดี พิษนี้ต่อให้จะเป็นนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเองก็ยังไม่อาจจะป้องกันได้! แต่ว่าเฉิงฉงชานมันคงไม่ได้รู้เลยว่าพิษในตัวของมันนั้นยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไปหมดสิ้น อีกไม่นานมันก็จะฟักตัวปะทุขึ้นมาใหม่” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก
มันมิใช่ว่าเย่หยวนตั้งใจทำแต่ด้วยฝีมือของเขาและพลังบ่มเพาะที่ยังไม่มากพอกอปรกับตัวเฉิงฉงชานโดนพิษเข้าไปนานจนเกินแก้
เพียงแค่ว่าเย่หยวนไม่จำเป็นต้องไปบอกเขาใดๆ
เขานั้นรู้ดีว่าเฉิงฉงชานยังคงถือแค้นและจะมาจัดการเขาด้วยวิธีการใดสักอย่างแน่ มีหรือที่เย่หยวนจะไม่เก็บไพ่ไว้ต่อรองบ้าง
ส่วนหยกอีกสองแผ่นนั้นมันยิ่งทำให้เย่หยวนต้องตกตะลึง
หนึ่งนั้นมันเป็นแผ่นหยกที่บันทึกวิชาการโอสถ สรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรรวมไปถึงวิธีการปลูกของสมุนไพรสวรรค์นับพันๆ ชนิด ทั้งยังมีสูตรโอสถสวรรค์และทักษะการโอสถอีกมากมายมหาศาล
แผ่นหยกที่ได้รับการผนึกไว้แน่นหนาปานนั้นมีหรือที่ของภายในมันจะเป็นของธรรมดาๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นนี่ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความรู้เท่านั้น
ส่วนที่ยังอยู่ในการปกป้องของพลังปิดกั้นนั้นต่างหากคือส่วนหัวใจของมัน!
แผ่นหยกนี้มันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่าแก่เย่หยวนอย่างไม่ต้องสงสัย
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันมีวิชาการโอสถที่แตกต่างจากมหาพิภพถงเทียนไปสิ้นเชิงและยังซับซ้อนยุ่งยากไปกว่ากันมาก
แม้ว่าเย่หยวนจะฝึกหลอมโอสถสวรรค์พื้นฐานมากมายไปจนถึงขั้นสุดได้แต่มันก็ยังไม่ถือว่าเป็นการฝึกฝนที่สมบูรณ์แต่อย่างใด
โอสถสวรรค์ที่เขาฝึกฝนนั้นมันคือสิ่งที่เขาฝึกเพื่อที่จะสามารถหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้
แต่มีหรือที่โอสถสวรรค์ระดับพื้นฐานมันจะมีเพียงแค่ยี่สิบกว่าชนิดจริงๆ?
เส้นทางนี้มันยังอีกยาวไกลนัก!
แต่แผ่นหยกนี้มันก็ได้ให้ข้อมูลมากมายแก่เย่หยวน ช่วยประหยัดเวลาที่ต้องลองผิดลองถูกไปได้มากล้น
ส่วนแผ่นหยกสุดท้ายนั้นมันมีวรยุทธบ่มเพาะและวรยุทธต่อสู้เก็บไว้มากมาย
แผ่นหยกทั้งสามนี้เรียกได้ว่าเป็นสามขุมสมบัติเลยก็ว่าได้!
ดูท่าแล้วเจ้าของสุสานนั้นคงเป็นยอดคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากอย่างโชกโชน
แต่เฉิงฉงชานกลับเอาให้เย่หยวนฟรีๆ
เย่หยวนได้แต่ยิ้มเย้ยในใจและเริ่มจะศึกษาคัมภีร์พิษก่อนเป็นอย่างแรก
เฉิงฉงชานนั้นย่อมจะไม่มีทางปล่อยเขาไว้เพราะฉะนั้นหากเย่หยวนสามารถศึกษาคัมภีร์พิษนี้ได้สำเร็จมันก็อาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
กำลังของเย่หยวนในเวลานี้มันอ่อนแอจนเกินไป เขาแห่งถงเทียนเองก็ยังไม่อาจจะเอามาสู่สายตาคนได้ เขาย่อมจะต้องหาทางอื่นเพื่อปกป้องตัวเองไปก่อน
จะอย่างไรเขานั้นก็คือยอดฝีมือในเรื่องการใช้พิษอยู่แล้ว เขาย่อมจะไม่ได้รู้สึกผิดแปลกใดๆ กับการศึกษาด้านพิษและทำให้การฝึกฝนของเขานั้นรวดเร็วกว่าคนทั่วไปเป็นเท่าตัว
ในคัมภีร์พิษนั้นมันก็มีพิษบันทึกไว้มากมายหลายอย่าง ตัวเย่หยวนที่ได้เรียนรู้นั้นก็ได้ประโยชน์ไปอย่างมากมาย
…
“ศิษย์พี่จ้าว! ข้าไม่นึกเลยว่านิกายจะส่งท่านมาเอง!”
ได้เห็นผู้นั้นมาถึงเฉิงฉงชานก็อดยิ้มกว้างขึ้นมาไม่ได้
จ้าวคุนนั้นเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์นิกายในแห่งนิกายสวรรค์หยกแท้ กำลังฝีมือของเขานั้นมากพอจะสังหารเฉิงฉงชานด้วยกระบวนท่าเดียว
ที่สำคัญไปกว่านั้นจ้าวคุนยังมีเรื่องที่โดดเด่นเหนือใครในด้านวิชาการเคลื่อนที่
เมื่อเขาคนนี้ลงมาเองแล้วจะยังต้องกลัวเย่หยวนหนีไปได้อีกหรือ?
จ้าวคุนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้าจัดการไม่ได้แม้แต่ผู้บรรลุสวรรค์ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคนหนึ่ง! เจ้ามันขยะเสียจริง!”
ต่อหน้าจ้าวคุนนั้นเฉิงฉงชานย่อมจะไม่กล้าแสดงท่าทีโอหังเหนือล้ำใดๆ ออกมา ได้แต่ต้องยิ้มรับไป “ที่ศิษย์พี่ว่ามันถูกต้องแล้ว ศิษย์น้องนั้นไร้ความสามารถจริงๆ! เพียงแค่ว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันมีกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำนัก เป็นปัญหาแก่ศิษย์น้องอย่างมาก แน่นอนว่าข้าย่อมจะไม่ปล่อยให้ศิษย์พี่เหนื่อยเปล่าๆ นี่เป็นของที่ศิษย์น้องขอมอบให้เพื่อแสดงความขอบคุณ ศิษย์พี่จ้าวโปรดรับไว้ด้วยเถอะ”
จ้าวคุนหรี่ตาลงมองพร้อมกล่าวขึ้น “โอสถสวรรค์แปลงปีกเจิดทลาย!”
เฉิงฉงชานยิ้มรับกลับไป “ใช่แล้ว! ศิษย์น้องไปเจอมันมาในสุสานเก่าแก่ในพื้นที่อาณาจักรตะวันออกนี้ โอสถสวรรค์นี้ศิษย์น้องขอมอบมันเพื่อแสดงความคารวะแก่ศิษย์พี่”
จ้าวคุนเบิกตากว้างขึ้นมาก่อนจะยิ้มขึ้น “สิ่งที่เจ้าได้มามันคงมิใช่แค่โอสถสวรรค์นี้ใช่หรือไม่?”
เฉิงฉงชานผงะไปก่อนจะตอบกลับมา “ศิษย์พี่ฉลาดล้ำ สมบัติที่ศิษย์น้องได้มานั้นที่มีค่าที่สุดมันคงเป็นเหล่าแผ่นหยกทั้งหลายนั้น! เพียงแค่ว่า… ตอนนี้มันอยู่ในมือของเย่หยวนผู้นั้น!”
พูดจบเฉิงฉงชานก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาให้จ้าวคุนฟัง
แน่นอนว่าเมื่อออกมาจากปากเขาแล้วเย่หยวนย่อมจะเป็นดั่งวายร้ายจอมมารที่ข่มขู่คนด้วยพิษบอกให้เขาส่งเอาแผ่นหยกนั้นให้
หลังจ้าวคุนได้ยินเช่นนั้นเขาก็หัวเราะเย้ยขึ้นมา “ขยะเสียจริงๆ! เจ้าทำนิกายสวรรค์หยกแท้เราขายหน้าสิ้นแล้ว!”
เฉิงฉงชานได้แต่ตอบรับไปอย่างไม่กล้าเถียง
หากมิใช่เพราะเขาจนหนทางจริงๆ ตัวเขาก็คงไม่ส่งเรื่องไปขอกำลังเสริม
แต่เมื่อเขานั้นมาถึงแล้ว สมบัติใดๆ ที่ได้มาจากสุสานเก่าแก่นั้นก็ย่อมจะต้องเอามาแบ่งกับเขา
แต่การยืมมือจ้าวคุนจัดการเย่หยวนมันก็ถือว่าคุ้มค่า
“แต่ว่าจะอย่างไรเสียผู้บรรลุสวรรค์คนหนึ่งมันกลับสามารถจัดการพิษประหลาดนั้นได้ มันมีฝีมือทีเดียว! เฉิงฉงชาน หากเจ้าอยากให้ข้าลงมือมันก็ย่อมจะได้ แต่เจ้านั้นต้องเอาโอสถสวรรค์แปลงปีกเจิดทลายมาให้ข้าอีกห้าเม็ดหรือโอสถสวรรค์ระดับใกล้ๆ กัน นอกจากนั้นข้ายังอยากได้แผ่นหยกที่เจ้าว่านั้นด้วย!” จ้าวคุนกล่าวออกมา
เฉิงฉงชานนั้นได้แต่ต้องกันฟันตอบรับไป
แต่ความจริงแล้วเขากำลังหัวเราะอยู่ในใจ
สิ่งที่เขาได้ออกมาจากสุสานนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดเดาได้!
แค่โอสถสวรรค์ห้าเม็ด มันย่อมจะมิใช่เรื่องใหญ่เกินไปแต่อย่างใด
แน่นอนว่าสีหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกถึงเรื่องนั้นแม้แต่น้อย เวลานี้เขากำลังปั้นหน้าตาลำบากใจอย่างมาก
“นำทางไป ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าผู้บรรลุสวรรค์นี้มันจะมีพลังวิเศษหรือไม่!” จ้าวคุนกล่าว
………………………..