บริเวณกึ่งกลางภูเขา หัวหน้ากองธงกล้วยไม้จับคางของเย่เฟิง บีบบังคับให้เขามองตัวเอง
ใบหน้าใหญ่ของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายและเย้ยหยัน พูดยิ้มๆว่า”ทำไม ความโอหังก่อนหน้านี้ไปไหนแล้ว เจ้าไม่ชอบข้ามากไม่ใช่หรือ เกลียดชังมาไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ต้องมาแกล้งทำเป็นน่าสงสารด้วย”
เย่เฟิงหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
ถ้าหากเป็นไปได้ ใครอยากจะขอร้องเขา
“กร๊อบ……”
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม หักนิ้วมือด้านซ้ายของเขา เกิดเสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น
เย่เฟิงครางอย่างเจ็บปวดในลำคอ กลืนความเจ็บปวดอย่างนับไม่ถ้วนลงไป
“กร๊อบ……กร๊อบ……”
บีบข้อมือเขาจนหักไม่พอ หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ยังบีบนิ้วของมือซ้ายเขาหักทีละนิ้ว แม้แต่กระดูกบนร่างกายยังถูกเขาหักไปหลายท่อน
“หยุด……หยุด……”
ฮองเฮาฉู่ดิ้นรน ดวงตาที่พร่ามัว มีน้ำตาไหลพราก
หัวหน้ากองธงโบตั๋นหัวเราะชอบใจออกมา เอ่ยเสนอความเห็นว่า “เจ้ายังคงชอบฟังเสียงกระดูกแตกหักเหมือนเดิมเลยนะ”
“ทำไม เจ้ามีวิธีการเล่นที่ดีกว่านี้หรือ”
“ข้ามันโง่เขลาไร้ความสามารถ ช่วงนี้ได้ค้นคว้าวิธีเล่นใหม่ขึ้นมาอย่างหนึ่ง”
“อ้อ……”หัวหน้ากองธงกล้วยไม้รู้สึกสนใจขึ้นมา การเคลื่อนไหวของมือคลายลงหลายส่วน
เย่เฟิงเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้วแน่น
ทั่วทั้งร่างกายของเขา ไม่รู้ถูกหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ทำร้ายไปตั้งกี่ครั้งแล้ว ควรจะคุ้นเคยตั้งนานแล้ว
แต่ทุกครั้งที่ถูกหักอวัยวะ เขาก็ยังคงเจ็บจนมีเหงื่อเย็นไหลอาบทั่วร่าง แทบอยากจะตายให้ได้
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของหัวหน้ากองธงโบตั๋นแล้ว บวกกับนิสัยใจคอของหัวหน้ากองธงโบตั๋นที่คล้ายกัน
หัวใจของเย่เฟิงก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา
และได้ยินหัวหน้ากองธงโบตั๋นพูดประโยคที่โหดร้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าค้นคว้าการทำห้องเหล็ก ข้างในห้องเหล็กเต็มไปด้วยเหล็กแหลม ขอเพียงขังคนไว้ข้างใน ปิดประตูเหล็ก เหล็กแหลมที่อยู่ข้างใน ก็จะทิ่มแทงร่างกายเขา แน่นอน เหล็กแหลมแบ่งเป็นหลายชนิด เจ้าอยากจะให้แทงตรงไหน มันก็จะแทงตรงนั้น เจ้าอยากจะให้เขาตาย เขาก็จะถูกแทงจนตาย เจ้าไม่อยากให้เขาตาย ข้ารับรองว่าเขาไม่มีทางตายข้างในนั้นแน่นอน แต่จะรู้สึกอยู่ไม่สู้ตายเท่านั้น อีกอย่างห้องเหล็กนั้นปิดตาย คนอยู่ข้างใน ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ ”
กู้ชูหน่วนได้ยินแล้วก็รู้สึกขนลุก
เจ้าสิ่งนี้ มันเหมือนกับสตรีเหล็กที่เป็นสิ่งสืบทอดมาตั้งแต่โบราณของต่างประเทศไม่ใช่หรือ
เจ้าสิ่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสิบทัณฑ์ทรมาน
คนอยู่ข้างใน แม้อยากจะตาย ก็ไม่สามารถตายในทันที แต่จะเจ็บปวดจนตายไปช้าๆ หรือไม่ก็เลือดไหลหมดตัวจนตาย
วิปริต
ล้วนเป็นพวกวิปริตทั้งสิ้น
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ได้ยินแล้วก็รู้สึกสนุก
“อ้อ……วิธีการนี้ เคยลองหรือยัง”
“ย่อมเคยทดลองแล้ว เคยหาคนไม่น้อยมาทดลอง จึงค้นคว้าออกมาได้ วางใจได้ ทำเขาไม่ถึงตาย เพียงแต่จะทำให้เขาตายไม่สู้ตายเท่านั้น”
“ฮึ……”
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้มองไปทางเย่เฟิงอย่างมีเลศนัย ทำเสียงจุ๊เชยคางของเขาขึ้นมา “เสี่ยวเฟิงเอ๋อ ถ้าเจ้าเชื่อฟังข้าดีๆ ทำตัวเป็นทาสบำเรอของข้าที่คอยปรนนิบัติรับใช้ข้าอย่างสุดความสามารถ บางที ข้าอาจจะเสียดายหากต้องให้เจ้าไปรับความเจ็บปวดเช่นนี้ ”
หัวใจของเย่เฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็น
เชื่อฟังอย่างนั้นหรือ
ปรนนิบัติอย่างสุดความสามารถอย่างนั้นหรือ
ไม่ว่าเขาจะเชื่อฟังอย่างไร หรือปรนนิบัติดีมากแค่ไหน ไหนเลยจะเคยแลกมาซึ่งการไม่ถูกทำร้ายสักครั้ง
หลายปีที่อยู่หอฉิวเฟิ่ง มีครั้งไหนบ้างที่ไม่วนเวียนอยู่กับความเป็นความตาย
เย่เฟิงเอ่ยพึมพำว่า “ขอเพียงท่านปล่อยฮองเฮาฉู่ไป ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง”
“ฮองเฮาฉู่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า”
“ไม่……ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ”
“ไม่เกี่ยวข้อง ในเมื่อไม่เกี่ยวข้อง เจ้าจะร้อนใจทำไม”
“นางเป็นฮองเฮาของแคว้นฉู่ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ฮ่องเต้ของแคว้นฉู่ก็คงไม่มีทางนิ่งเฉยแน่”
“ข้าเข้าใจว่าเจ้ากำลังเป็นกังวลแทนข้าใช่หรือไม่”
ดวงตาของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้เย็นชา
เย็นชาจนไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น