อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 466 เคล็ดวิชากลืนพลัง

บทที่ 466 เคล็ดวิชากลืนพลัง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 466 เคล็ดวิชากลืนพลัง
คล้ายกับว่าเสียงของเย่จิ่งหานได้เค้นออกมาจากร่องฟันแล้วประกอบกันขึ้นมา “กู้ชูหน่วน ข้าอยากจะควักหัวใจเจ้าออกมาจริงๆ ดูซิว่าเป็นสีอะไร”

“ขอโทษ…….”

“ขอโทษคำเดียวเรื่องก็จบไปแล้วหรือ?เวลาที่เจ้าทำเหมือนข้าเป็นคนโง่หลอกปั่นจนข้าหัวหมุนเช่นนั้น ไม่รู้สึกผิดในใจบ้างเลยหรือ?”

กู้ชูหน่วนก้มหน้า ปิดตาลงด้วยความเจ็บปวด

นางไม่ใช่คนเลือดเย็นไร้ความรู้สึก เย่จิ่งหานดีต่อนาง นางสัมผัสได้

แต่นาง……ไม่อยากจะพูดคุยเรื่องความรักใคร่ส่วนตัวของหนุ่มสาว และไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด

หลังจากออกมาจากเผ่าหยก เพียงแค่นางหลับตา ก็คือสภาพอันน่าอนาถของประชาชนเผ่าหยกที่โดนคำสาปโลหิตมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เข้นฆ่าญาติพี่น้อง

ไม่ต้องเอ่ยถึงว่านางเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก แม้ว่านางจะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า ก็คงปวดใจเหมือนดั่งถูกมีดกรีด

นับประสาอะไรกับคนเผ่าหยกที่ดีต่อนางขนาดนั้น……

ไหนจะพี่อี้เฉินที่ยังรอให้นางไปช่วยชีวิตอีก

มิหนำซ้ำก่อนที่นางจะข้ามเวลา ก็ยังถูกคนรักที่ตัวเองไว้ใจที่สุดหักหลัง และตายอย่างน่าอนาถจนข้ามเวลามาอีก

นึกถึงเรื่องอดีตชาติ จิตใจของกู้ชูหน่วนก็ยังคงเจ็บปวด

นางเติบโตมาพร้อมกับเขาตั้งแต่เด็ก เป็นคู่หูร่วมเป็นร่วมตายที่ดีที่สุด และทั้งสองก็เป็นคู่รักที่รักและเอาใจใส่กัน

พวกเขาตกลงกันไว้อย่างดีว่าหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น ก็จะก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์

แต่เขา…….หักหลังนาง ทำให้การปฏิบัติภารกิจของนางล้มเหลว เสียชีวิตอย่างน่าอนาถแล้วก็ข้ามเวลามา

จนถึงวันนี้นางก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องหักหลังนาง

เหตุผลของการทรยศหักหลังไม่สำคัญอีกต่อไป

สิ่งสำคัญคือ นางไม่อยากพูดถึงเรื่องใดๆในอดีต และไม่อยากพูดเรื่องความรักๆใคร่ๆ

ตอนนี้แม้แต่เวลาหนึ่งวินาทีนางก็อยากปล่อยให้สิ้นเปลืองไปไม่ได้ ทุกวันคืนนางหลับไม่ลง ทั้งหมดที่นางคิดคือการตามหามุกมังกร

เย่จิ่งหาน……

นางถูกลิขิตไว้ว่าให้อะไรไม่ได้สักอย่าง

กู้ชูหน่วนซ่อนความเศร้าไว้ในใจ ขณะที่เปิดตาขึ้นแล้วเงยหน้าอีกครั้ง ดวงตานิ่งเฉย กล่าวเบาๆ “เช่นนั้นท่านอ๋องต้องการอะไร?”

คำพูดสบายๆของนาง รวมถึงความเฉยเมยในดวงตา กระตุ้นให้เย่จิ่งหานโกรธอย่างฉับพลัน

“การกระทำของพระชายาไร้คุณธรรม คุมตัวนางไว้ก่อน”

องครักษ์ของเรือนพักร้อนชิวเฟิงล้อมรอบกู้ชูหน่วนไว้อย่างพร้อมเพรียง คนของเผ่าปีศาจกลับเร็วกว่าก้าวหนึ่ง ขัดขวางคนของเย่จิ่งหานไว้

ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ทันทีที่เคลื่อนไหวเขม่าควันของไฟแห่งสงครามจะปะทุขึ้นทันที สามารถเกิดสงครามใหญ่ได้ตลอดเวลา

“ซือโม่เฟย นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกข้าสามีภรรยา ไม่เกี่ยวกับเจ้า วันนี้หากว่าเจ้ากล้าก้าวก่าย ข้าเย่จิ่งหานและเผ่าปีศาจจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อีกนับจากนี้ไป”

จอมมารยิ้มอย่างชั่วร้าย บนใบหน้าอันสง่างามของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“เทพสงครามแห่งแคว้นเย่? เก่งกาจนักหรือ? ข้าเกลียดคนที่ชอบข่มขู่คนอื่นเป็นที่สุดแล้ว”

บทสนทนาสั้นๆประโยคหนึ่ง อธิบายจุดยืนอย่างชัดเจน

เย่จิ่งหานยกมือเป็นสัญญาณ ยอดฝีมือที่อยู่ในที่ลับของเรือนพักร้อนชิวเฟิงก็ออกมาอีกมากมาย ล้อมรอบพวกเขาไว้ และเริ่มการทำงานของสุดยอดค่ายกลมากมาย กักขังพวกเขาไว้ในค่ายกล

ทุกคนในเหตุการณ์ล้วนเป็นผู้มีไหวพริบ ผู้ใดก็รู้ คนที่เย่จิ่งหานเรียกออกมาเหล่านั้นแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นสุดยอด

ที่นี่คืออาณาเขตของเย่จิ่งหาน ปะทะกันขึ้นมาจริงๆ คนของเผ่าปีศาจจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน

แม้ว่าเย่จิ่งหานจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการร่อแร่ แต่คนของเผ่าปีศาจคิดจะออกไปก็ต้องชดใช้ด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าอนาถ

“ในเมื่อเจ้าอยากจะเล่น เช่นนั้นข้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าให้ถึงที่สุด”

จอมมารยิ้มอย่างแพรวพราว โฉมหน้าอันขาวสะอาดเค้าโครงเด่นชัดงดงามเย็นชา ในดวงตาหม่นหมองชั่วร้ายเย้ายวน แต่เย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็ง ความเจตนาฆ่าปรากฏขึ้นในทันใด

ขณะที่กำลังคิดจะถอนพลังฝ่ามือเพื่อกำจัดเย่จิ่งหานนั้น

เหตุการณ์ประหลาดฉากหนึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว

ดูเหมือนบนร่างกายของกู้ชูหน่วนจะเกิดพลังดึงดูดพลังหนึ่ง ดูดรับกำลังภายในของเขาอย่างต่อเนื่อง

เขาคิดจะดึงกลับ แต่ราวกับว่ามือทั้งคู่ถูกปะติดไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะชักกลับมาอย่างไรก็ชักกลับมาไม่ได้

หากเขาฝืนถอนฝ่ามือ ก็จะทำร้ายกู้ชูหน่วนอย่างแน่นอน

กู้ชูหน่วนได้รับบาดเจ็บสาหัสแทบจะหมดลมแล้ว หากเขาทำร้ายนางอีก กู้ชูหน่วนจะต้องตายเป็นแน่

คนอื่นๆก็สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว

เสวียซากล่าวด้วยความตกใจ “นายท่าน เหมือนว่าแม่นางกู้กำลังดูดพลังของท่านขอรับ”

สีหน้าของจอมมารเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เคล็ดวิชากลืนพลัง

วิทยายุทธที่ชั่วร้ายระดับนี้ นางทำเป็นได้อย่างไร?

กู้ชูหน่วนหงุดหงิดใจ

นางแทบอยากจะตบหน้าขาของตัวเอง

นางลืมไปได้อย่างไร ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายนี้ของนาง เพียงแค่มีคนช่วยรักษาให้นาง ทันทีที่สัมผัสร่างกายนาง นางก็จะดูดกำลังภายในของคนอื่นไป

ประเด็นหลักคือ นางไม่อยากดูดก็หยุดกลางคันไม่ได้

เสวียซากล่าวอย่างร้อนใจ “แม่นางกู้ ท่านรีบหยุดโดยเร็วเถอะขอรับ”

ใบหน้าเล็กๆของกู้ชูหน่วนบิดเบี้ยวเป็นก้อนด้วยความเจ็บปวด “ข้าก็คิด แต่ข้าหยุดไม่ได้”

ตอนนั้นนางก็เป็นแบบนี้ ดูดกำลังภายในของเวินเส้าหยีไปมากมาย จนตัวเองรับไม่ไหวแทบจะระเบิดแล้ว

กำลังภายในของจอมมารไม่ได้ด้อยไปกว่าเวินเส้าหยี นางคงจะไม่ได้รับไม่ไหวจนต้องระเบิดอีกครั้งหรอกนะ

เมื่อเห็นว่ากำลังภายในไหลเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง ในร่างกายของนางก็พองตัวขึ้นโดยควบคุมไม่ได้ กำลังภายในแต่ละประเภทในร่างกายต่อต้านกันเอง

ทรมาน……

ทรมานเกินไปแล้ว

กำลังภายในสองพลังฉีกดึงนางไม่หยุด ราวกับจะฉีกร่างของนางให้แตกสลาย

ความรู้สึกชนิดนี้เจ็บปวดยิ่งกว่าโทษประหารตัดแขนขาแล้วค่อยตัดหัวซะอีก

ม่านตาของเย่จิ่งหานหดตัวเล็กน้อย

เป็นดังคาด……

นางมีเคล็ดวิชากลืนพลัง

วิทยายุทธที่ทั้งชั่วร้ายทั้งต่ำช้าทั้งน่าเกรงขามเช่นนี้สูญหายไร้การสืบทอดไปเกือบพันปีแล้ว นางทำเป็นได้อย่างไร?

เมื่อเห็นเหงื่อเม็ดใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเหลืองของกู้ชูหน่วนไหลหยดลงมา ใบหน้าน้อยๆเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว เจ็บปวดจนขมวดคิ้วอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่ากำลังต้านทานความเจ็บปวดอย่างสุดความสามารถ

เย่จิ่งหานอยากเข้าไปช่วยนาง แต่ก็หาทางลงจากความโกรธไม่ได้อีก โมโหจนแทบอยากจะให้นางเจ็บปวดจนตายไปทั้งเป็นเช่นนั้น

จอมมารลองหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถถอนมือออกได้ คิดจะถอนฝ่ามือ วิธีเดียวก็คือการทำร้ายนางอย่างรุนแรง หรือฆ่านางซะ ไม่เช่นนั้นกำลังภายในของเขาก็จะถูกดูดไปหมดจนตาย

แต่ให้เขาฆ่านางทำร้ายนาง เขาจะตัดใจทำลงได้อย่างไร?

“นายท่าน ข้าน้อยมาช่วยท่าน”

ด้วยความร้อนใจของเสวียซา เขาลงมือทันที คิดจะช่วยนายท่านของตัวเองสลายพลังฝ่ามือไป ​​

“อย่า…….”

กู้ชูหน่วนและจอมมารตะโกนพร้อมกัน

แต่ไม่ทันแล้ว

ทันทีที่พลังฝ่ามือของเสวียซาแตะร่างกายของกู้ชูหน่วน ก็ถูกสะกดแล้ว กำลังภายในบนตัวเขา เหมือนถูกแม่เหล็กดึงดูดไว้เช่นนั้น ไม่ว่าเขาจะต้านทานอย่างไร ก็ยังถูกกู้ชูหน่วนดูดไปอย่างบ้าคลั่ง

ความคิดจะด่าแม่กู้ชูหน่วนก็มีแล้ว

เขาบ้าหรือไง

ซือโม่เฟยเป็นเช่นนี้แล้ว เขายังกล้ามาแตะต้องนางอีก รนหาที่ตายหรือไง?

จบเห่แล้ว

พลังของซือโม่เฟยนางยังดูดรับไม่ได้

แล้วจะดูดรับพลังของเสวียซาได้อย่างไร?

อีกทั้งพลังการต่อสู้ของซือโม่เฟยก็เป็นแบบนุ่มนวลอ่อนโยน

แต่พลังการต่อสู้ของเสวียซาเป็นธาตุไฟ ทั้งดุเดือดทั้งรุนแรง

กำลังภายในทั้งสามผสมเข้าด้วยกัน

กู้ชูหน่วนแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป

จอมมารกล่าวด้วยโทสะ “ฝีมือทำให้งานสำเร็จมีไม่พอ แต่ความสามารถทำเรื่องให้ล้มเหลวมีเหลือล้น”

“นายท่าน……ข้าน้อย……”

เสวียซารู้สึกน้อยใจเล็กน้อย

เพียงแค่เขาเห็นนายท่านถูกดูดกำลังภายในไปมากมายขนาดนั้น ทำใจไม่ได้ คิดอยากจะช่วยนายท่านเท่านั้น

จะคิดได้ที่ไหนล่ะว่าร่างกายของแม่นางกู้จะผิดปกติเช่นนั้น

เพิ่งจะสัมผัสตัวนาง กำลังภายในทั้งหมดก็ถูกดูดไปอย่างควบคุมไม่ได้

เป็นเช่นนี้ต่อไป พลังของเขาจะต้องถูกดูดไปจนหมดและตายไปด้วย

จอมมารตะคอกเสียงดัง “ทั้งหมดหยุดทำ ห้ามเข้าใกล้”

กู้ชูหน่วนเจ็บปวดจนขมวดคิ้วแน่น กล่าวอย่างอ่อนแรง “เร็ว……รีบคิดวิธีหยุดยั้ง ร่างกายของข้าจะระเบิดแล้ว……”

“ฟู่ว……”

กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

นางรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองอยู่ในสภาวะที่รับความแตกต่างกันมากราวน้ำแข็งกับไฟไม่ได้ ต้องการจะระเบิดไปเดี๋ยวนี้แล้ว

“พี่สาว เป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านข้าเราทั้งสามจะต้องตายหมด ล่วงเกินแล้ว” สีหน้าของจอมมารเคร่งขรึม กัดฟันกล่าว

มือที่กำหมัดแน่นของเย่จิ่งหานคลายออกอย่างฉับพลัน

ช่างเถอะ ช่วยนางก่อน อย่างอื่นค่อยคิดบัญชีทีหลัง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท