อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 477 กรรมสนอง

บทที่ 477 กรรมสนอง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 477 กรรมสนอง
ไม่ช้า ซือโม่เฟยก็หยุดลง

กู้ชูหน่วนลืมตาที่มีแพขนตางอนยาวขึ้น ที่สะท้อนในดวงตาคือใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์อย่างที่ไร้วาจาจะเปรียบเทียบได้

“กลิ่นกายของพี่สาวหอมมาก หมอกว่าดอกลำโพงของข้าเสียอีก”

ระหว่างที่จอมมารพูด มือขวาก็ออกแรงดึง ธนูหนึ่งคันก็มาอยู่ในมือ

เขาใส่ลูกศรไปบนคันธนู เสียงฟิ้วดังขึ้น ลูกศรแหวกอากาศออกไป ยิงออกไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าพุ่งไปทางค่ายใหญ่ของแคว้นฉู่

ในสนามรบสู้กันอย่างดุเดือด

จอมมารสะบัดแขนเสื้อสีแดงเพลิง เผ่าปีศาจก็ถอนทหารออกในทันที

สงครามครั้งนี้ สองฝ่ายต่างก็สูญเสียไปมาก

แคว้นฉู่มีคนมาก เผ่าปีศาจคนน้อย เผ่าปีศาจเสียเปรียบ

ภูเขาหยุนฉีป้องกันง่ายแต่โจมตียาก เพื่อชัยชนะแล้ว แคว้นฉู่ก็สูญเสียไม่น้อย และเสียเปรียบเหมือนกัน

การที่เผ่าปีศาจถอยทัพอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้แค้วนฉู่ชนะศึกนี้

ผ่านไปไม่นาน ก็มีข่าวส่งมาที่แค้วนฉู่ ให้กู้ชูหน่วนกับจอมมารเข้าไปยังค่ายทหารของแค้วนฉู่

กู้ชูหน่วนมองไปทางจอมมาร “เจ้าแนบอะไรไปกับลูกศรธนู”

“ไม่มีอะไร แค่บอกว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว อยากจะขอเข้าเฝ้าฮองเฮาฉู่”

กู้ชูหน่วนสีหน้าบึ้งตึง

ใครเป็นสามีภรรยากับเขา

“ข้าไปเองดีกว่า ถ้าเจ้าไป กลับจะทำให้เสียเรื่อง”

“อาโม่ไม่มีทางปล่อยให้พี่สาวไปเสี่ยงอันตรายแน่ ถ้าหากพี่สาวไม่พาข้าไปด้วย เช่นนั้นพวกเราต่างก็ไม่ต้องไปที่ค่ายทหารของแคว้นฉู่”

ความหมายของคำพูดของเขาคือ ทำลายแคว้นฉู่ให้หมดจะได้สิ้นเรื่อง

คนของเผ่าปีศาจทั้งหมดต่างก็นิ่งอึ้ง มองจอมมารอย่างสงสัย

แต่มุมปากของจอมมารกลับมีรอยยิ้มจางๆปรากฏอยู่ ราวกับมั่นใจว่ากู้ชูหน่วนต้องพาเขาไปด้วยแน่

“ได้ เจ้าจะไปกับข้าก็ได้ แต่เจ้าต้องหุบปากให้สนิท ยืนฟังอยู่ข้างๆก็พอ”

หัวหน้าของเผ่าปีศาจคนหนึ่งตำหนิว่า”บังอาจ เจ้ากล้าสั่งให้ท่านจอมมารของพวกเราห้ามพูดจาหรือ ”

“เจ้าสิบังอาจ กล้าพูดกับพี่สาวของข้าเช่นนี้ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คนที่ไม่รู้คงคิดว่าข้าไม่สั่งสอนคนของตนเองให้ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไปเริ่มทำหน้าที่จากการเป็นฉีโสว่อีกครั้ง เรียนรู้กฎระเบียบให้ดี”

หัวหน้าคนนั้นมึนงง

“ท่านจอมมาร……”

เขาตำหนินางแทนท่านจอมมารนะ

ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นท่านจอมมารอยู่ในสายตาขนาดนี้ คนที่ท่านจอมมารควรลงโทษควรเป็นนางมิใช่หรือ

“ถอยไป”

คนที่อยู่ข้างๆดึงแขนเสื้อของหัวหน้าคนนั้น ส่งสัญญาณให้เขารีบถอยไป จะได้ไม่ต้องหาเรื่องหายนะใส่ตัว

“พี่สาว พวกเราไปกันเถอะ”จอมมารพูดยิ้มๆ ราวกับที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมด เป็นเพียงการขัดจังหวะเล็กๆเท่านั้น

กู้ชูหน่วนเดินนำหน้า จอมมารเดินตามทางด้านหลัง จากสายตาของคนในเผ่าปีศาจ ราวกับว่ากู้ชูหน่วนต่างหากที่เป็นหัวหน้าเผ่า ส่วนหัวหน้าเผ่าของพวกเขาเป็นแค่องครักษ์คนหนึ่งเท่านั้น

เพราะถึงแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะเดินกะเผลก แต่ท่าทีที่น่าเกรงขามและดูสูงส่งของนาง กลับไม่ได้หายไปเพียงเพราะได้รับบาดเจ็บ

ทุกคนของเผ่าปีศาจต่างก็รู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด

สงครามครั้งนี้ เดิมทีเผ่าปีศาจของพวกเขาต้องชนะแน่ ทำไมยังต้องไปที่ค่ายทหารของแค้วนฉู่อีก

อีกทั้งหัวหน้าเผ่าปีศาจของพวกเขายังต้องเดินทางไปด้วยตนเอง

ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่านจอมมาร แล้วจะทำอย่างไร

ในค่ายทหารของแคว้นฉู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฮ่องเต้และฮองเฮาของแคว้นฉู่ได้สั่งการไว้แล้วหรือไม่ พวกกู้ชูหน่วนเดินทางเข้าไปได้อย่างราบรื่นไร้อุปสรรค เพียงแต่เหล่าทหารของแคว้นฉู่ต่างก็จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

โดยเฉพาะจ้องเขม็งไปที่ซือโม่เฟย

เพียงเพราะดวงตาคู่นั้นของซือโม่เฟยช่างประหลาดเกินไป คาดไม่ถึงว่าจะมีสีนัยน์ตาต่างกัน

ไหนว่ามีเพียงจอมมารเท่านั้นที่มีดวงตาต่างสี ทำไมเขาก็มี อีกทั้งยังมีลักษณะที่สูงส่งสง่างาม

ทหารของแคว้นฉู่ต่างก็คาดเดาถึงสถานะของซือโม่เฟยไปต่างๆนานา แต่กลับไม่มีใครเดาถูกว่าเขาคือจอมมาร

ทุกคนต่างก็คิดว่า เขาเป็นแค่องครักษ์ตัวเล็กๆคนหนึ่งที่คอยปกป้องอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วน

ในกระโจมค่ายทหาร

ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่นั่งอยู่บนที่นั่งหลัก ฮองเฮาของแคว้นฉู่นั่งอยู่บนที่นั่งรอง สองข้างยังมีแม่ทัพใหญ่ยืนอยู่ไม่น้อย

หลังจากกู้ชูหน่วนเข้าไปในกระโจม ดวงตาหลายสิบคู่ต่างก็จ้องมองมาที่ตัวนาง แต่ละคนแทบอยากจะกลืนกินพวกเขาทั้งเป็น

แม้แต่ฮองเฮาที่อ่อนโยนเสมอมา ตอนนี้ก็เย็นชาดุจน้ำแข็ง

ร่างกายของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่พอใช้ได้ รอบกายรายล้อมด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นราชัน ดวงตามีความคล้ายคลึงกับเย่เฟิงอยู่หลายส่วน บางทีอาจเป็นเพราะดำรงอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งเป็นเวลานาน ทำให้เขาดูมีความขึงขังอยู่บ้าง

สีหน้าของฮองเฮาฉู่ขาวซีด ราวกับร่างกายไม่สู้จะดีนัก เพียงแต่ฝืนร่างกายนั่งอยู่ตรงนั้นเท่านั้น

“กู้ชูหน่วนคำนับฮ่องเต้ และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่”

กู้ชูหน่วนทำการคำนับ

ซือโม่เฟยกลับลูบผมดำขลับของเขา ท่าทีเกียจคร้าน ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด

กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้เขา ส่งสัญญาณให้เขาอย่าทำตัวอวดดีเช่นนั้น

จอมมารทำปากจู๋เหมือนน้อยใจ

เขาอวดดีที่ไหน

เขาก็เชื่อฟังนางเป็นอย่างดี ก็แค่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย

กู้ชูหน่วนไร้คำพูด

นางห้ามไม่ให้เขาพูดจาเหลวไหล แต่นางไม่ได้ให้เขาทำตัวไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตานี่นา

“เจ้าก็คือกู้ชูหน่วน พระชายาเอกของเทพสงครามเย่จิ่งหานแห่งแคว้นเย่”ฮ่องเต้ของแคว้นฉู่เอ่ยขึ้น

เดิมทีทุกคนที่นี่ต่างก็ยังรู้สึกสงสัยในสถานะของซือโม่เฟย เพียงแต่มองจากการส่งสายตาให้กันของพวกเขาเมื่อครู่ ทุกคนต่างก็ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขามีสถานะเป็นจอมมารของเผ่าปีศาจ

ได้ยินประโยคนี้ ซือโม่เฟยก็ทนไม่ไหวทันที เขารีบแก้ไขทันที “พี่สาวไม่ใช่ภรรยาของเย่จิ่งหาน แต่เป็นภรรยาข้า”

“เจ้าคือ……”

กู้ชูหน่วนรีบเอามืออุดปากเขาเอาไว้ทันที ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “เขาเป็นน้องชายข้า”

แม่ทัพที่ยืนอยู่ทั้งสองฝั่งของกระโจมต่างก็กระจ่างขึ้นมาทันที

พวกเขาได้ยินว่าแคว้นเย่เปิดเสรีเรื่องธรรมเนียม มีหญิงสาวสูงศักดิ์บางส่วนเลี้ยงผู้ชายไว้ข้างนอก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง และการกระทำที่เปิดเผยเช่นนี้

ทุกคนก็ยิ่งรู้สึกดูถูกกู้ชูหน่วนมากขึ้น

“ไหนท่านจอมมารบอกว่าจะมาด้วย ทำไม่จึงไม่เห็นเขาเล่า”รองแม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นฉู่ยังคงพูดต่ออย่างไม่พอใจ “คงไม่ใช่เพราะเขาขี้ขลาด ไม่กล้ามากระมัง”

กู้ชูหน่วนนึกว่าซือโม่เฟยจะตอบโต้กลับ แต่ซือโม่เฟยกลับลูบผมดำขลับของตนเองอย่างไม่ใส่ใจ นางก็รู้สึกโล่งใจ

“วันนี้ เป็นข้าที่ต้องการพบฮ่องเต้และฮองเฮาของแคว้นฉู่ ไม่ใช่เขาที่ต้องการพบพวกท่าน”

ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่เอ่ยเสียงเรียบว่า “เห็นแก่ที่เจ้าเคยช่วยลูกเมียของข้าไว้ ข้าไม่อยากจะทำให้เจ้าลำบากใจ ขอเพียงเจ้าลงจากเขาตั้งแต่ตอนนี้ ไม่สนใจเรื่องระหว่างแคว้นฉู่กับเผ่าปีศาจ ข้ารับรองว่าประชาชนแคว้นฉู่ทั้งหมดจะไม่มีใครทำให้เจ้าลำบากใจอีก ”

“ถ้าหากข้ากลัวตาย วันนี้คงไม่มาที่นี่”

“แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม”

“ฮองเฮา ข้ายังจำที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ขอเพียงมีโอกาส ท่านจะตอบแทนข้า คำพูดนี้ยังเชื่อถือได้หรือไม่”

ฮองเฮาแคว้นฉู่ไอติดต่อกันหลายครั้ง เอ่ยอย่างอ่อนแอว่า “ย่อมเชื่อได้แน่นอน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของเราสองแม่ลูก เจ้าช่วยพวกเราไว้อย่างไม่เสียดายชีวิต บุญคุณครั้งนั้น พวกเราจดจำไว้ในใจตลอดมา แม่นางกู้ เจ้าต้องการอะไร พูดมาตรงๆไม่เกรงใจ ขอเพียงเป็นสิ่งที่เราให้ได้ พวกเราให้ได้ทั้งนั้น ”

“ที่ข้าต้องการนั้นง่ายมาก ขอเพียงพวกเจ้าถอยออกไปจากภูเขาหยุนฉี อีกทั้งรับประกันว่าภายหน้าจะไม่เข่นฆ่าคนของเผ่าปีศาจอีก”

ไม่รอให้ฮ่องเต้และฮองเฮาของแคว้นฉู่ได้พูด แม่ทัพทุกคนต่างก็ต่อว่าด่าทอ “น่าขัน เรื่องนี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน คนของเผ่าปีศาจฆ่าองค์ชายของพวกเรา เรื่องนี้จะยอมให้จบง่ายๆได้อย่างไรกัน”

“ก็ใช่ พวกเขาใช้วิธีการเหี้ยมโหดเช่นนั้นฆ่าองค์ชายของพวกเรา ไม่ว่าอย่างไร เผ่าปีศาจก็ต้องได้รับกรรมสนองอย่างสาสม”

กู้ชูหน่วนยิ้ม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน