ในฐานะนักดาบแล้วพวกเขาย่อมจะหัวแข็งไม่ยอมคนเป็นธรรมดา เจตจำนงของพวกเขานั้นแข็งแกร่งเหนือฟ้าดินไม่อาจจะทนเห็นความอยุติธรรมบนโลกได้
ลู่จ้านหยวนนั้นเป็นคนโอหังชอบรังแกผู้คนทั้งนิกายด้วยความที่เขานั้นมีฉือเฟยหยูหนุนหลัง
หลัวหยุนชิงนั้นอดที่จะทนดูเรื่องนั้นไม่ได้จึงเข้าไปสั่งสอนลู่จ้านหยวนมาหลายครา
และก็เพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฉือเฟยหยูยิ่งแย่ลง
การตีสั่งสอนศิษย์นั้นมันก็เหมือนการตบหน้าว่าอาจารย์ไม่สั่งสอนให้!
จะว่าไปแล้วคนของฉือเฟยหยูนั้นต่างบรรลุขึ้นมาจากพิภพเดียวกันสิ้น!
ตั้งแต่ฉือเฟยหยูไปจนถึงลู่จ้านหยวนนั้น พวกเขาต่างมีที่มาเดียวกันสิ้น
โอหังรังแกผู้คน!
ไร้มารยาทและไร้เหตุผล!
เพียงแค่ว่าในสมัยก่อนนั้นตัวหลัวหยุนชิงยังเกรงกำลังฝีมือของฉือเฟยหยูอยู่มากและไม่กล้าจะทำอะไรเกินเลย
แต่ว่าหลัวหยุนชิงนั้นก็ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นจะยิ่งกล้ามากกว่าเขาไปหลายเท่าตัว
เขานั้นกลับสังหารลู่จ้านหยวนลง!
นิสัยที่กล้าทำอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจของใครนี้มันเป็นสิ่งที่เขาชื่นชมอย่างมากล้น
เพียงแค่ว่าอีกด้านหนึ่งนั้นตัวฉือเฟยหยูที่เสียหน้าอย่างใหญ่หลวงก็กำลังยืนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธแค้นอยู่
ศิษย์ของเขาตายลงไปแต่อีกฝ่ายนั้นกลับบอกว่าฆ่าได้ดี!
นี่อีกฝ่ายนั้นยังเป็นหัวผู้อาวุโสอย่างเขานี้อยู่ในสายตาหรือไม่?
ดี! ดี! ดี! เฒ่าคนนี้อยากจะรู้นักว่าคนหนุ่มมันเก่งกาจกันสักแค่ไหน! ฉือเฟยหยูนั้นกล่าวคำว่า ‘ดี’ ออกมาถึงสามครั้ง เป็นการบ่งบอกได้อย่างดีว่าอารมณ์ของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร
คลื่นพลังรุนแรงของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกปะทุขึ้นมาครอบตัวหลัวหยุนชิงไว้รอบด้านทันที
ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลาง!
หลัวหยุนชิงนั้นไม่คิดเกรงกกลัวและปล่อยปราณดาบออกมาจากร่างพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
แม้ว่าเขานั้นจะมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าฉือเฟยหยูไปขั้นหนึ่งแต่เขานั้นก็มั่นใจในวิชาดาบที่รุนแรงจนแทบทลายฟ้าดินของเขานี้!
สองยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเริ่มเข้าปะทะกันมันจึงทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ หน้าซีดขาวลงตามๆ กัน
ในดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนที่สูงล้ำที่สุดของภูมิภาค!
ไม่ว่าจะเป็นนิกายสวรรค์ไหนๆ พวกเขาก็ล้วนมีตำแหน่งสูงล้ำ
ยอดฝีมือระดับนี้มันไม่ได้ออกมาต่อสู้ทุกวี่วัน
แต่หากพวกเขาลงมือแล้วมันก็จะกลายเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนเช่นภาพตรงหน้านี้!
ไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งการใดๆ ทุกผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ นั้นต่างพุ่งตัวหนีหลบไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฟุบ!
หลัวหยุนชิงนั้นเป็นฝ่ายพุ่งตัวหายไปก่อน!
ตูม…
คนทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงจนทำให้แผ่นดินของยอดสวรรค์กลับนี้ปลิวว่อนไปทั่วเขา
บนยอดสวรรค์กลับมันจึงได้เกิดช่องที่ว่างโลกขึ้นมากลางป่าเขา
เพียงแค่ว่าแม้หลัวหยุนชิงจะมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าฉือเฟยหยูไปขั้นหนึ่งแต่เขาก็ไม่ได้เสียเปรียบอีกฝ่ายแม้แต่น้อย!
ผู้พิทักษ์โม่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยปากที่อ้าค้าง ศิษย์พี่หลัวนั้นช่างมีพลังดาบที่เหนือฟ้านัก วินาทีที่เขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้เขาก็สามารถจะต่อสู้กับผู้อาวุโสฉือได้อย่างไม่ด้อยกว่า! เขานั้นแตกต่างจากพวกเราไปอย่างสิ้นเชิงจริงๆ!
ส่วนฮั่นเฉียนหยุนนั้นได้แต่กัดฟันขึ้นมาอย่างจุกอก
เมื่อเห็นคนที่เคยยืนอยู่ในระดับเดียวกันก้าวขึ้นไปอยู่บนหัวตัวเองนั้น ความรู้สึกนี่มันย่อมจะมีแต่คนที่เคยประสบเท่านั้นจึงจะเข้าใจ
ความรู้สึกที่เจ็บแค้นและโศกเศร้าเกินจะบรรยายได้
ระหว่างที่คนทั้งสองกำลังปะทะกันไปนั้นมันก็มีดาบแสงลำหนึ่งพุ่งออกมาจากขอบฟ้า
ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นส่งร่างของคนทั้งสองลอยลิ่วออกจากกัน
จากนั้นมันก็มีชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางเหมือนเป็นปราชญ์ลอยตัวลงมา
ได้เห็นคนผู้นี้คนทั้งหลายต่างก้มหัวลงทันที
แม้แต่คนระดับหลัวหยุนชิงก็ยังก้มหัวลงอย่างไม่ลังเล
ขอคารวะท่านเจ้านิกาย!
เย่หยวนนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน ไม่นึกฝันว่าเรื่องราวนี้มันกลับจะไปทำให้เจ้านิกายต้องลงมาจัดการเอง!
เขาคนนี้มีใบหน้าที่คมกริบพร้อมด้วยสีหน้าเมินเฉยต่อโลกหล้า แต่ดูครั้งเดียวก็รู้ได้ว่าเขานั้นคือยอดคน
ชายวัยกลางคนผู้นี้กล่าวขึ้นมา หึ! สองยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นกลับมาตีกันหน้าทางขึ้นเขา พวกเจ้ารู้ตัวกันหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่? นี่พวกเจ้ายังจะเห็นหัวเจ้านิกายคนนี้อยู่หรือไม่?
ดูท่าแล้วเขาคงไม่พอใจกับการทะเลาะกันเองของคนในนิกายเป็นอย่างมาก
ฉือเฟยหยูที่ได้ยินจึงรีบกล่าวโทษขึ้นมาก่อน เจ้านิกาย ช่วยดูเรื่องนี้ด้วยเถอะ! หลัวหยุนชิงมันไปเอาไอ้ชั่วร้ายจากที่ไหนมาไม่ทราบได้มาสังหารศิษย์รักของเฒ่าคนนี้ตั้งแต่ก่อนมันจะทันเข้านิกายด้วยซ้ำ! แล้วเจ้าหมอนี่มันกลับบอกว่าฆ่าได้ดี! เฒ่าคนนี้อดทนไม่ได้จึงต่อสู้กับมันออกไป!
เมื่อเห็นว่าทั้งสองยอดฝีมือสงบลงแล้วทางเจ้านิกายเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองใดๆ ออกมามากมายอีก
เขานั้นหันไปมองหลัวหยุนชิงก่อนจะพยักหน้ารับ ไม่เลวนี่ หยุนชิง!
หลัวหยุนชิงจึงรีบตอบกลับ ขอบพระคุณท่านเจ้านิกายที่ชม!
จากนั้นเจ้านิกายก็กล่าวขึ้นต่อ ในเมื่อเจ้าบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาแล้วเจ้าก็ย่อมจะเป็นผู้อาวุโสของนิกายเรา! ข้าจะจัดงานมอบตำแหน่งให้เจ้าวันหลัง! เพียงแค่ว่าเรื่องนี้มันต้องอธิบายกันหน่อยมิใช่หรือ?
หลัวหยุนชิงตอบกลับไป ลู่จ้านหยวนนั้นมันสมควรตายแล้ว ไม่ต้องอธิบายใดๆ ทั้งสิ้นหรอก! ที่สำคัญไปกว่านั้นในสายตาของหยุนชิงนั้น หากความตายของลู่จ้านหยวนมันทำให้เย่หยวนพอใจ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!
เจ้า! หลัวหยุนชิง! ที่ด้านข้างนั้นฉือเฟยหยูร้องลั่นขึ้นมาอย่างโกรธแค้น
จะบอกว่าศิษย์ของเขาต้องตายลงอย่างไร้ค่าเช่นนี้หรือ?
เขาต้องมาเสียหน้าอย่างไรประโยชน์เช่นนี้หรือ?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคนที่ตบหน้าเขาจนเสียท่ายังเป็นแค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคนหนึ่ง!
แล้วยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกอย่างเขาจะยังเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นมีพลังฝีมือมากแค่ไหนแม้จะไร้พรสวรรค์ก็ตาม
แต่เมื่อพรสวรรค์มันมีเท่านั้นแล้วอนาคตของเขามันก็คงไปได้ไม่ไกล
แต่ท่านหลัวหยุนชิงนั้นกลับบอกว่าตราบเท่าที่มันทำให้เย่หยวนพอใจ การตายของลู่จ้านหยวนก็ถือว่าคุ้มค่า!
คำพูดของเขานี้มันเหมือนกับบอกว่า ตายก็ตายไปสิ!
ท่านเจ้านิกาย ท่านฟังมันสิ! ความหมายของมันนั้นคืออะไร? จ้านหยวนนั้นมีกายเต๋าตะวันก่อนกำเนิดระดับห้า เขานั้นอาจจะขึ้นมาเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกให้แก่เราได้ในวันหน้า! จะบอกว่าความตายของเขานี้มันเพียงเพื่อให้ขยะพรสวรรค์ด้อยต่ำพอใจหรือ? ฉือเฟยหยูกล่าวขึ้นมา
เจ้านิกายที่ได้ยินนั้นก็ต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันไปมองเย่หยวน พรสวรรค์ด้อยต่ำ?
ฉือเฟยหยูหันไปส่งสัญญาณให้ฮั่นเฉียนหยุนทำให้ฮั่นเฉียนหยุนรีบก้าวขึ้นมาทันที ขอรายงานท่านเจ้านิกาย เย่หยวนผู้นี้ได้รับการตรวจสอบจากค่ายกลแล้วว่าเขาไม่มีกายเต๋าใดๆ มีพรสวรรค์เพียงแค่ระดับด้อยต่ำและมีค่าความเข้ากันได้แค่สี่แต้ม!
คิ้วของเจ้านิกายขมวดติดกันทันที
เวลานี้เขาเริ่มจะคิดว่าหลัวหยุนชิงแค่จะหาเรื่องเอาคืนที่ถูกกดหัวมานานเท่านั้นแล้ว
หยุนชิง เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันเกี่ยวพันกับความรู้สึกของคนทั้งนิกาย! หากเจ้าไม่อาจจะอธิบายได้แล้วเจ้านิกายผู้นี้คงต้องลงโทษเจ้าให้หนักแล้ว! เจ้านิกายนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อฉือเฟยหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
เพราะเจ้าคนทั้งสองนี้มันช่างสุดแสนโอหัง ทีนี้มันจะยังเอาอะไรมาโอหังได้อีก!
หลัวหยุนชิงตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่ง กายเต๋าตะวันก่อนกำเนิดระดับห้าแล้วทำไม? ข้า หลัวหยุนชิงผู้นี้มีกายเต๋าระดับสามเท่านั้น แต่ข้าเองก็ก้าวขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้มิใช่หรือ? กลับกัน นิกายเรามีศิษย์กี่คนที่มีกายเต๋าระดับห้า แต่ดูสิว่ามันมีกี่คนที่บรรลุขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้? เพราะฉะนั้นพรสวรรค์ที่เราวัดๆ กันนี้มันมิใช่ทุกสิ่ง!
ฉือเฟยหยูหัวเราะเย้ยขึ้นเมื่อได้ยิน เจ้ามันก็แค่พูดเข้าข้างตัวเอง!
แต่หลัวหยุนชิงนั้นไม่คิดสนใจและกล่าวขึ้นต่อ ตอนที่ข้าซ่อนตัวอยู่ในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนั้นข้าได้ยินมาว่าในอาณาจักรตะวันออกเล็กๆ มันได้มีผู้บรรลุสวรรค์ที่หลอมโอสถสวรรค์ได้ด้วยค่าความเข้ากันได้แค่หนึ่งแต้ม ข้าสนใจจึงได้ออกเดินทางไปสืบสาวเรื่องราวและหลบซ่อนอยู่ในอาณาจักรตะวันออกนั้นนานถึงสิบปีเพื่อเฝ้ามองดูเย่หยวน ข้านั้นได้เห็นการผงาดขึ้นของเขากับตาข้าเอง ฝึกฝนโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งไปจนถึงขั้นสุด! ยอดอัจฉริยะอย่างเขานี้มันมีค่ากว่าลู่จ้านหยวนนั้นนับร้อยๆ คนรวมกัน!
เดี๋ยวนะ เจ้าบอกว่าเหตุผลที่เจ้ามอบตราปีกเขียวให้มันไปเพราะว่ามันนั้นหลอมโอสถสวรรค์ได้? ฉือเฟยหยูกล่าวขึ้นมา
หลัวหยุนชิงพยักหน้ารับ แน่นอน!
ฮ่าๆๆ… ฉือเฟยหยูนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาทันที ข้าจะหัวเราะท้องแข็งตายแล้ว! คนที่มันมีค่าความเข้ากันได้แค่สี่นั้นกลับจะฝึกฝนโอสถสวรรค์ไปจนถึงขั้นสุดได้! สุดที่ว่านี้มันคงไร้ค่ามากแล้วมิใช่หรือ?
เดี๋ยวนะ! เจ้านิกายร้องขึ้นมาขัด เมื่อกี้เจ้าบอกว่าเขานี้มีความเข้ากันได้แค่หนึ่ง?
เจ้านิกายนั้นต้องเป็นคนแบบใด?
ข้อมูลที่ไม่ตรงกันของทั้งสองฝ่ายนี้มันย่อมจะไม่มีทางหลุดรอดหูของเขาไปได้!
หลัวหยุนชิงยิ้มกว้างขึ้นมา ใช่แล้ว! ตอนที่เย่หยวนเพิ่งบรรลุสวรรค์ขึ้นมาได้ใหม่ๆ นั้นเขามีค่าความเข้ากันได้แค่หนึ่งแต้ม! แต่ตอนนี้เขากลับมีถึงสี่แต้มแล้ว! ท่านเจ้านิกาย เรื่องนี้มันสำคัญแค่ไหนข้าคงไม่ต้องบอกหรอกใช่หรือไม่?
……………..