อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 518 ภูเขารูปดาบ
“ครืน…”
ประตูแดนต้องห้ามเปิดออก
กู้ชูหน่วนเดินเข้าแดนต้องห้ามเพียงลำพังภายใต้การชี้แนะของสุดยอดผู้อาวุโส
แดนต้องห้ามลึกมาก กู้ชูหน่วนเดินกว่าค่อนชั่วยามเต็มๆ จึงจะถึงแท่นหินใหญ่หนึ่ง
แท่นหินมีทางแยกแบ่งออกเป็นซ้าย กลาง ขวา
ทางซ้ายมีสัญลักษณ์ สุดยอดผู้อาวุโสกำชับนางหนักหนาว่าถึงแท่นหินแล้วต้องไปทางซ้ายเท่านั้น ตรงกลางกับทางขวาไปไม่ได้เด็ดขาด
แต่กู้ชูหน่วนกลับหยุดเท้าบนแท่นหิน ไม่ยอมเข้าไปทางซ้ายสักที
นางขมวดคิ้วพิจารณา
ตามคำกล่าวของสุดยอดผู้อาวุโส ไปทางซ้าย อาจได้เรียนวิชาหลอมยาล้ำลึก หรือไม่ก็วรยุทธ์ไร้เทียมทาน
ถ้ากุญแจรูปดาวอยู่ทางซ้าย สุดยอดผู้อาวุโสต้องเตือนไว้บ้างแน่ เป็นไปไม่ได้ที่หุบเขาตันหุยจะให้ศิษย์เข้าส่วนลึกของแดนต้องห้าม
หากต้องการหากุญแจรูปดาวให้พบ มีแต่ตรงกลางหรือทางขวาที่อาจเป็นไปได้
ตอนนี้นางจะไปทางตรงกลางหรือทางขวาดี?
กู้ชูหน่วนหยิบเหรียญทองแดงออกมาจากแหวนมิติ โยนขึ้นด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วฉับไว สุดท้ายก็หมุนหลายรอบก่อนจะหันหัวขึ้น
ครั้นมือขวาล้วงก็เก็บเหรียญทองแดงขึ้น มุมปากคลี่รอยยิ้มแพรวพราวหนึ่ง แล้วเดินไปทางตรงกลาง
ช่างเถอะ พนันสักตั้ง เกิดพนันถูก กุญแจรูปดาวก็ตกเป็นของนางแล้ว
แต่ถ้าพนันผิด…เฮอะ…นางจะไม่เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เด็ดขาดเหมือนกัน
เดินไปทางตรงกลาง หลังจากเดินได้ระยะหนึ่งแล้ว ด้านหน้าก็ปรากฏทางแยกสามทางอีก ซ้าย กลาง ขวาอีกแล้ว กู้ชูหน่วนเลือกด้วยความเฉียบขาด
แต่ที่ทำให้นางขมวดคิ้วคือ ด้านหน้าไม่ไกลมีทางแยกซ้ายขวาอีก กู้ชูหน่วนกัดฟัน เดินไปทางขวา
นางนึกว่าเจอทางแยกสองสามทาง ข้างในก็ลวงอยู่พอแล้ว แต่อย่างไรนางก็คิดไม่ถึง ตลอดทางที่ผ่านล้วนเป็นทางแยก เลี้ยวลดหมุนวน ไม่รู้ว่าจะไปออกทางไหน
นางได้แต่เลือกตามครั้งแรก พบสามทางแยกก็เลือกตรงกลาง พบสองทางแยกก็เลือกทางขวา
ทางแยกทั้งหมดของแดนต้องห้ามเหมือนกันเปี๊ยบ แยกไม่ออกว่าเคยผ่านแล้วหรือไม่ กู้ชูหน่วนทำสัญลักษณ์ทุกทางแยก เสียแต่นางอ้อมอยู่ค่อนวัน อ้อมจนจะเวียนศีรษะอยู่แล้วก็หาสัญลักษณ์ที่นางทำไว้ไม่ได้เลย
“หรือว่า…ในแดนต้องห้ามจะมีค่ายกลลวงขนาดใหญ่?”
กู้ชูหน่วนสังเกตซ้ายขวา คิดทะลวงค่ายกลลวงนี้
ทว่า ไม่ว่านางจะสังเกตอย่างไร ที่นี่ก็ไม่มีค่ายกล ราวกับทางแยกเหล่านั้นมีตัวมีตนอยู่จริงๆ
ในที่สุดนางก็เข้าว่าทำไมสุดยอดผู้อาวุโสจึงย้ำกำชับตลอด ให้นางไปตามทางที่บอกเท่านั้น
เขาวงกตอันซับซ้อนเหล่านี้ ไม่ว่าผู้ใดก็อาจหลงทางได้
ซ้ำไปซ้ำมา เม็ดเหงื่อเท่าเม็ดถั่วของกู้ชูหน่วนก็ไหลพราก แต่ก็ยังออกไม่ได้
ระหว่างคลับคล้ายคลับคลา ในค่ายกลลวงเหมือนได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวน
เสียงร้องไห้โหยหวนเหล่านี้คล้ายดังมาจากโบราณกาล ผ่านโลก ไร้เรี่ยวแรง น้อยใจและโกรธแค้น แต่ละเส้นเสียงล้วนชวนให้ใจสลาย
กู้ชูหน่วนอยากเดินตามเสียงร้องไห้ แต่ถ้านางเดินตามเสียงร้องไห้ตลอดทาง แล้วตัวเองหลงทางอยู่ในแดนต้องห้ามนี้โดยสมบูรณ์เล่า?
ได้แต่ฝืนกลั้นความฉงนไว้ในใจ เดินไปข้างหน้าต่อ
ก็ขณะที่นางแทบสิ้นหวัง ในที่สุดนางก็ออกมาได้
นี่เป็นแท่นหินขนาดมหึมาหนึ่ง
บนแท่นหินมีกระบี่คมมหาโหราเล่มหนึ่ง ฝักกระบี่เปิดกึ่งหนึ่ง ปลายกระบี่ชี้ฟ้า ราวกับจะทิ่มแทงท้องนภานับครั้งไม่ถ้วน ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็รู้สึกถึงรังสีดุร้ายมหาศาลอบอวลรอบบริเวณเนืองแน่น
ตรงกลางกระบี่คมมีโซ่หนาใหญ่เท่าปากชามเก้าเส้น ลาดมาจากบนลงล่าง แต่ละเส้นมียันต์อักขระแน่นขนัด แต่ละอักษรสืบต่อนับพันปี แล้วยังคล้ายมีชีวิต ชวนให้ครั่นคร้าม
กู้ชูหน่วนมีความรู้สึกหนึ่ง
ยันต์อักขระใบโซ่ทั้งเก้าเส้นนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ เพราะยันต์อักขระไม่เพียงมีประกายทองวูบวาบ ทั้งยังเคลื่อนไหวได้