ในเวลานี้เย่หยวนก็ผุดตัวลุกขึ้นมากล่าว “เอาล่ะเจ้าเฒ่า ถึงเวลาของพวกเราแล้ว”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างหันมามองด้วยความสนใจเพราะเจ้าคนที่สุดแสนเย่อหยิ่งโอหังนี้มันจะลงมือแล้ว!
ความเข้ากันได้ขยะๆ ของเขานั้นมันจะเก่งกาจจริง หรือว่าแท้จริงแล้วเขาจะมีดีแค่ลมปาก? คนทั้งหลายจะได้เห็นมันก็คราวนี้
ความโอหังก่อนหน้าของเขานั้นมันได้ทำให้คนทั้งหลายต่างตั้งตารอ
แต่ในสายตาของคนทั้งหลายนั้นพวกเขาย่อมจะคิดว่าเย่หยวนแค่อวดอ้างตัวเกินจริง
มาถึงเวลานี้เขาย่อมควรจะกังวล
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับเป็นฝ่ายลุกขึ้นกล่าวเรียก มันย่อมจะเหนือล้ำความคาดหมายของคนส่วนใหญ่ไปมาก
ฉินชุนนั้นหรี่ตาลงกล่าว “เด็กน้อย เจ้าคงไม่ได้คิดว่าแค่เจ้าหมอนั่นเอาชนะจิงซวนลงได้เจ้าก็จะเอาชนะข้าได้หรอกนะ? หึๆ เฒ่าคนนี้อยากจะเห็นเหมือนกันว่าโอสถสวรรค์ที่หลอมขึ้นมาด้วยค่าความเข้ากันได้แค่สี่แต้มมันจะเป็นอย่างไร!”
เย่หยวนหันไปมองเขาก่อนจะค่อยๆ หันไปทางเจ้านิกาย “ท่านเจ้านิกาย เด็กคนนี้มากพรสวรรค์เสียเหลือเกิน ปล่อยให้อยู่กับเจ้าเฒ่านี้ไปมันก็มีแต่จะเสียของเปล่า ทำไมไม่ให้นางมาอยู่ใต้การสอนของข้าเอาเล่า?”
เจ้านิกายนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน ฉินชุนเองก็เช่นกัน
พวกเขานั้นไม่นึกฝันว่ายังไม่ทันจะได้ลงมือประลองใดๆ กันเย่หยวนก็คิดจะแย่งชิงศิษย์ไปต่อหน้าอาจารย์เช่นนี้แล้ว!
ฉินชุนนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจทันที “เด็กน้อย เจ้าเองก็ช่างหลงตัวเองเหลือเกิน! เจ้านั้นควรจะหาทางรอดไปจากสถานการณ์นี้ให้ได้ก่อนเถอะ!”
เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นคิดว่ามันไม่ต้องประลองใดๆ กันแล้วล่ะ มันยุ่งยากเกินไป”
ฉินชุนที่ได้ยินจึงหัวเราะขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าคิดจะใช้ไม้ไหนอีกเล่า? คิดจะหนีการประลองหรือ? หึๆ ข้าจะบอกเจ้าให้ การประลองนี้เจ้าต้องทำไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ที่ข้าจะบอกก็คือว่าให้เจ้าเลือกโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งมาสามชนิด ข้าจะหลอมก่อนแล้วเมื่อข้าหลอมเสร็จหากเจ้าคิดว่าเจ้าหลอมได้ดีกว่าเจ้าก็ค่อยลงมาหลอม หากมันมีโอสถสวรรค์ใดที่เจ้าหลอมได้ดีกว่าข้าแล้วก็ให้ถือว่าข้าแพ้ได้เลย!”
“หะ?! เจ้าหมอนี่มันจะไม่โอหังเกินไปหรือ?”
“อาจารย์ฉินนั้นจะอย่างไรก็เป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสาม เจ้าหมอนี่กลับไม่คิดสนใจมองเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!”
“เยี่ยมจริง! เยี่ยมเสียจริง! พ่อเจ้าอยู่มาจนแก่เฒ่าป่านนี้แล้วยังไม่เคยจะเจอใครที่โอหังได้ถึงขั้นนี้มาก่อน! เพียงแค่ว่าเขาจะมีฝีมือพอรองรับความโอหังนี้หรือไม่ก็เท่านั้น!”
…
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายต้องแตกตื่นขึ้นอีกครั้ง
คำพูดสุดแสนโอหังนี้มันย่อมจะเรียกได้ว่าเป็นความหลงตัวเองอย่างถึงที่สุด
เจ้าคนที่ยังไม่แน่ด้วยซ้ำว่าจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งได้หรือไม่กลับกล้าไม่คิดสนใจนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสาม!
“โอหัง! อวดดี! อวดเก่ง! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
ฉินชุนนั้นร้องลั่นขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด
เวลานี้ปอดของเขานั้นแทบจะระเบิดออกมา!
ไม่กี่วินาทีก่อนนั้นเย่หยวนกล่าวจะแย่งชิงศิษย์ไปต่อหน้าต่อตาของเขา
วินาทีต่อมานั้นเขากลับไม่คิดสนใจตัวเขาแม้แต่น้อย!
นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามอย่างเขานั้นมากศักดิ์ศรีแค่ไหน? เขาเคยจะถูกใครมาหยาบหน้าเช่นนี้มาก่อนหรือ?
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบฉินชุนไป “แท้จริงแล้วข้าก็แค่จะช่วยประหยัดเวลาคนทั้งหลายเท่านั้น! เจ้าเฒ่า หากข้าหลอมโอสถสวรรค์แรกไม่ได้แล้วทั้งผู้อาวุโสฉือทั้งตัวเจ้าก็คงจะจัดการข้าได้ง่ายๆ เลยมิใช่หรือ? ที่สำคัญไปกว่านั้นโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งมันยังมีตั้งมากมายหลายชนิด เจ้าย่อมจะทำให้ข้าลำบากได้ง่ายดาย! หากเจ้าเอาสูตรโอสถสวรรค์ลับของตัวเองออกมาแล้วเจ้าย่อมจะทำให้ข้าต้องอับอายได้ไม่ยาก เท่านี้มันก็จะประหยัดเวลาทุกผู้คน ไม่ดีหรืออย่างไร?”
คนทั้งหลายนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้ยิน
เย่หยวนนั้นทำให้คนทั้งหลายได้รู้จักคำว่าโอหังอย่างแท้จริง
เขานั้นบอกว่ามันเพื่อประหยัดเวลาผู้คน
แต่หากคนผู้นั้นยังมีสมองอยู่ในหัวแล้วพวกเขาย่อมจะเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นกล่าวแฝงนัยว่าต่อให้เจ้าจะเอาโอสถสวรรค์ใดออกมาพ่อเจ้านี้ก็จะกระทืบเจ้าจนจมดิน!
ความโอหังของเขานี้มันเหนือล้ำกว่าความโอหังไปถึงขั้นของความหลงตัวเอง
“หึๆๆ เจ้าหมายความว่าต่อให้ข้าจะเอาสูตรโอสถสวรรค์ที่เจ้าไม่เคยเห็นออกมาเจ้าก็จะยังสามารถหลอมมันได้หรือ?” ฉินชุนนั้นกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เย่หยวนพยักหน้ารับออกมา “ใช่แล้ว! หากเจ้าทำให้ข้าหลอมไม่ได้ตั้งแต่โอสถสวรรค์สูตรแรก คนทั้งหลายก็จะไม่ต้องเสียเวลาดูเรื่องไร้สาระนี่อีก เจ้าว่าอย่างไรเล่า?”
“ไม่ต้องถามแล้ว เฒ่าคนนี้เห็นด้วย! วิธีการนี้มันดีจริงๆ!”
ฉินชุนนั้นสงบจิตใจลงแต่คำพูดของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหาร
คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่ามันคงมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว!
ส่วนด้านเจ้านิกายนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา เขานั้นยิ่งรู้สึกเข้าไปทุกทีว่าผู้ที่หลัวหยุนชิงมาพาครั้งนี้มันใช้ไม่ได้
คนหนุ่มนั้นจะมีอารมณ์ร้อนแรงเป็นเรื่องธรรมดาแต่เย่หยวนนั้นมันมิใช่แค่ความร้อนแรงบ้าบิ่นแต่มันคือการรนหาที่ตาย!
ฉินชุนนั้นหยิบเอาแผ่นหยกออกมาโยนให้แก่เย่หยวน “นี่คือสูตรโอสถสวรรค์นามว่าโอสถสวรรค์เมฆาชาด หากเจ้าหลอมมันได้ก็ถือว่าข้าแพ้ไปเลยแล้วกัน!”
หวู่เฉิงเฉาที่ได้ยินต้องอ้าปากค้างขึ้นมา “เจ้ากลับมีสูตรโอสถสวรรค์เมฆาชาด! ข้าเคยได้ยินมาว่าโอสถสวรรค์ชนิดนี้มันเป็นสุดยอดโอสถสวรรค์ที่รักษาพิษได้ทุกชนิด เป็นสุดยอดโอสถอย่างแท้จริง! ข้าได้ยินมาว่าสูตรของโอสถสวรรค์นี้มันเลือนหายไปตามกาลเวลาแล้ว ที่สำคัญยังได้ยินมาด้วยว่ามันมีความยากที่เหนือล้ำ ไม่นึกเลยว่าเจ้านั้นกลับจะยังมีมันเก็บไว้กับตัว!”
ฉินชุนนั้นยิ้มขึ้น “เฒ่าคนนี้ได้สูตรโอสถสวรรค์นี้มาหลายสิบปีแล้วแต่จนถึงวันนี้ข้าก็ยังหลอมได้แค่ถึงระดับสามขั้นต่ำเท่านั้น! ข้าล่ะอยากจะรู้จริงๆ ว่าอาจารย์ผู้นี้จะหลอมมันได้หรือไม่!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างหน้าซีดขาวลง
โอสถสวรรค์ระดับหนึ่งที่แม้แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามนั้นยังหลอมได้แค่ระดับสามขั้นต่ำ ความยากของมันนั้นคงไม่ต้องถามถึง
แล้วมีหรือที่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งจะไปหลอมมันได้?
เย่หยวนที่รับแผ่นหยกไปต้องรีบกล่าวขึ้นมาแทรก “ไม่ๆ เราเอาตามเดิมนั่นแหละดีแล้ว! สามโอสถสวรรค์ ตราบเท่าที่เจ้าหลอมได้ดีกว่าข้าแม้สักชนิดก็ให้ถือว่าข้านั้นพ่ายแพ้!”
ฉินชุนหัวเราะขึ้นมา “หึๆ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายแล้วเฒ่าคนนี้ก็จะสนองให้เอง! เอาล่ะพวกเจ้า! ไปเตรียมสมุนไพรสวรรค์มา!”
เย่หยวนร่อนตัวลงมายังพื้นด้านล่างตรงหน้าเหวินจิงซวนพร้อมกล่าว “สาวน้อย เจ้าลองเก็บข้อเสนอข้าไปคิดดูแล้วกัน”
เหวินจิงซวนยิ้มตอบกลับไป “เอาชีวิตให้รอดแล้วค่อยมาคุยกับข้าเถอะ!”
เย่หยวนยิ้มรับและเดินผ่านหน้านางไปอย่างไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงใดๆ ให้มากความก่อนจะนั่งลงศึกษาสูตรโอสถทันที
โอสถชนิดนี้มันเป็นโอสถที่หลอมกลั่นได้ยากยิ่ง แต่ตั้งแต่ที่เย่หยวนได้สามแผ่นหยกของจงเจียนโชวมานั้นเขาก็ได้ใช้เวลาส่วนมากศึกษาโอสถสวรรค์ที่เป็นพื้นฐานจนแทบครบแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา
เย่หยวนนั้นสามารถใช้ความรู้เหล่านั้นเป็นฐานเพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบของโอสถในสูตรนี้และพัฒนาฝีมือด้านการโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งของตนเองไปจนถึงขีดสุด
การจะหลอมโอสถสวรรค์ที่ยากเย็นบนรากฐานที่มั่นคงนี้มันมิใช่เรื่องยากมากมายนัก
สองชั่วโมงต่อมาเย่หยวนก็เดินมาหยุดลงตรงหน้าหม้อหลอม
ท่าทางนั้นมันย่อมจะทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมารอบด้าน
คนทั้งหลายนั้นแต่ได้อมยิ้มมองดูเย่หยวนเผยธาตุแท้ออกมา
แต่ว่าวินาทีที่เขาเริ่มกลั่นสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนั้นสีหน้าของผู้คนมันก็เปลี่ยนสีไป!
ท่าทางอันหลุดโลกและการควบคุมไฟอันสวยงามนั้นมันทำให้สมุนไพรสวรรค์ต่างๆ กลายเป็นก้อนบริสุทธิ์อย่างยิ่ง มันแสดงถึงพลังฝีมือของเย่หยวนออกมาสู่สายตาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน!
ก่อนหน้านี้มันได้มีสองยอดคนลงมาประลองฝีมือกันไปก่อน
แต่หากจะบอกว่าเย่หยวนนั้นคือหนึ่งร้อย หลินหลานนั้นคงมีฝีมือแค่หนึ่ง!
ส่วนเหวินจิงซวนนั้นมีฝีมือไม่ถึงหนึ่งเสียด้วยซ้ำ!
นี่มันคือความแตกต่างอันราวฟ้าดิน!
การหลอมโอสถของเขาจากนั้นมันยิ่งทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
เจ้านิกาย ฉินชุน หวู่เฉิงเฉา ฉือเฟยหยูรวมไปถึงตัวหลัวหยุนชิงต่างตกตะลึงจนไม่อาจจะหุบปากที่อ้าค้างได้สิ้น
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? ความเข้ากันได้ของมันนั้นมีแค่สี่แต้ม ทำไมมันจึงสามารถแยกแยะพลังแห่งกฎในสมุนไพรสวรรค์ได้? และหากมันไม่สามารถแยกแยะได้แล้วทำไมมันจึงสามารถหลอมโอสถสวรรค์ได้กัน?” ฉินชุนนั้นต้องอ้าปากค้างอย่างมึนงงสุดหัวใจ