อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 647 หึงแล้ว
กู้ชูหน่วนทักทายด้วยความเขินอาย “ดึกขนาดนี้แล้ว ทุกคนยังไม่นอนอีกเหรอ”
เย่จิ่งหานสีหน้าเคร่งขรึม มุมปากอมยิ้มเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายที่เห็นได้รางๆ ดวงตาดำขลับคู่นั้นเหมือนดั่งดวงดาวที่แพรวพราวที่สุด เป็นประกายสะดุดตาคน แต่มองไม่ทะลุ เดาไม่ออก
คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาชัดเจนเป็นพิเศษในคืนที่เงียบสงัด
“พระชายาหานยังรู้จักกลับจวนด้วยหรือนี่ ข้าคิดว่าจวนอ๋องหานในใจของพระชายาหานก็เป็นแค่โรงเตี๊ยม”
คำพูดนี้ กู้ชูหน่วนฟังแล้วรู้สึกปวดใจเล็กน้อยอย่างประหลาด
ชิวเอ๋อร์พยายามขยิบตาให้นางอยู่อีกข้างหนึ่ง บอกใบ้ว่าท่านอ๋องรอนางอยู่ตรงนี้นานมากแล้ว ท่านอ๋องเดือดดาลมาก
กู้ชูหน่วนยึดมั่นในท่าทีการทำผิด ยอมรับความผิดด้วยความเด็ดเดี่ยว “ท่านอ๋องพูดเป็นเล่น ในเมื่อข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋องหานมา จวนอ๋องหานก็คือบ้านของข้า ต่อไปนี้ข้ากลับมาเร็วหน่อยก็ได้เพคะ”
“เหอะ…..ข้าว่าบ้านของพระชายามีมากมายยิ่งนัก เช่น จวนแม่ทัพ สำนักอสุรา เรือนรับรองแคว้นฉู่……”
“อยู่สถานที่เหล่านั้นจะสบายเหมือนจวนอ๋องหานได้อย่างไรเพคะ”
กู้ชูหน่วนวิ่งมาตลอดทางค่อนข้างเหนื่อย เห็นข้างๆเย่จิ่งหานยังมีที่ว่างอยู่มาก นางขยับร่างกายก็คิดจะเข้าไปนั่งด้านข้างเขา
คิดไม่ถึงว่าดวงตาที่คมดั่งมีดจะเพ่งเล็งเข้ามาจนทำให้กู้สั่นเทาด้วยความเย็นยะเยือก
ค่ำคืนดึกดื่นเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก?
ไม่ใช่แค่กลับมาดึกไปหน่อยหรือไง ถึงขั้นต้องโมโหขนาดนี้เชียวหรือ?
ในใจของเย่จิ่งหานมีความโกรธอัดอั้นอยู่เต็มอก พูดจาคลุมเครือเดาเจตนาที่แท้จริงไม่ออก “พระชายาจะไม่อธิบายกับข้าสักหน่อยหรือ?”
“อธิบายอะไร?”
เขาไม่ได้รู้แล้วหรือไงว่านางอยากจะไปเอามุกมังกรที่จวนแม่ทัพ?
เบาะแสของมุกมังกรเม็ดที่เจ็ดก็เป็นเขาเองที่บอกกับนาง
“เช่นเวินเส้าหยี เซียวหยู่เซวียน เซียวหยู่โหลว ฝูกวง เลว่อิ่ง อาจารย์ซ่างกวน อี้เฉินเฟย ซือโม่เฟย”
ทุกรายชื่อที่เย่จิ่งหานท่องออกมา ความเย็นยะเยือกของเขาก็เยือกแข็งขึ้นหนึ่งระดับ ท่องจนถึงสุดท้าย ก็แทบจะกัดฟันกรอดแล้ว
ร่างกายของชิวเอ๋อร์โซเซ แทบจะหกล้ม
นางรู้ว่าด้านนอกคุณหนูมีเพื่อนต่างเพศมากมาย และแต่ละคนก็ยังมีความสัมพันธ์คลุมเครืออีกด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่า คุณหนูจะสวมเขาให้ท่านอ๋องได้มากมายขนาดนี้
จบแล้ว วันนี้ท่านอ๋องปล่อยคุณหนูไปก็แปลกแล้ว
กู้ชูหน่วนกุมขมับ
เจ้าคนขี้หึงนี่
เรื่องของสามีภรรยาสองคนปิดประตูพูดคุยแก้ไขปัญหากันเองไม่ได้หรือไง?
จะต้องทำต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ให้ได้
นางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งโกรธทั้งขำ
“เวินเส้าหยีเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ข้ากับเขาเป็นศัตรูความแค้นลึกล้ำ จะมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาได้?”
“เพื่อที่จะช่วยเจ้าแล้ว เขาก็ไม่สนใจแม้แต่ชีวิต”
“ใช่ เขาอยู่ที่แดนเหนือสุดก็ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตายด้วยซ้ำ” สีหน้าของกู้ชูหน่วนหม่นหมอง อัดอั้นใจจนร้อนรนเล็กน้อย
เรื่องที่เกิดขึ้นที่แดนเหนือสุดเย่จิ่งหานก็อยู่ในเหตุการณ์ และก็เห็นเวินเส้าหยีช่วยพวกเขาและถูกฝังกลบในหิมะด้วยตาตัวเอง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่มีโอกาสรอดชีวิตได้แล้ว
เย่จิ่งหานไม่ได้สืบสาวเรื่องเวินเส้าหยีอีก เพียงแค่จ้องมองนางอย่างเย็นชาเท่านั้น
“เซียวหยู่เซวียนเป็นเพื่อนสนิทดั่งพี่น้องของข้า นอกจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนแล้วก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบชายหญิง ฝูกวงเป็นองครักษ์ลับของข้า ท่านบำรุงสมองมากเกินไปแล้วรึเปล่า? ข้ามีความใคร่มากขนาดนั้นเชียวหรือ ที่จะไม่เว้นแม้แต่องครักษ์ลับ?”
“เลว่อิ่งพยายามจะฆ่าข้าหลายครั้งหลายครา ข้าไม่เจียมตัวขนาดนั้นเลยหรือไงที่จะไปชอบผู้ชายที่เย็นชาดั่งขุนเขาที่ตามไล่ฆ่าข้าได้น่ะ?”
“อี้เฉินเฟยเป็นพี่ชายของข้า หรือข้าแม้แต่พี่ชายตัวเองก็ต้องการเอามาแปดเปื้อนงั้นหรือ? ยังมีอาจารย์ซ่างกวนอีก โดยปกติแล้วเขาขัดแย้งกับข้า เขาเล่นงานข้ายังไง ท่านไม่กระจ่างงั้นหรือ?”
“สำหรับ ซือโม่เฟย คนที่จำทางไม่ได้สติปัญญาต่ำขนาดนั้น ท่านเอาข้าไปปะปนกับเขา คือกำลังสงสัยในสติปัญญาของข้างั้นหรือ?”