อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 604 มนุษย์โครงกระดูกปะทะมนุษย์น้ำแข็ง
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่รู้สึกเจ็บปวดในใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร น้ำตาค่อยๆทำให้สายตาพร่ามัวแล้ว
พลังในร่างกายของเขาก็ค่อยๆสลายไปทีละน้อย รวมทั้งพลังเวทมนตร์ของเขาด้วย
เงียบ……
ถ้ำน้ำแข็งเงียบจนพิสดาร มีเพียงเสียงขลุ่ยที่ยังคงก้องอยู่ไม่หยุด
ดวงตาอันเคลิบเคลิ้มของเย่จิ่งหานเปิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำนองเพลงเปลี่ยนไป บรรเลงเสียงสังหารออกมา
ความอ่อนหวานที่ชวนให้คล้อยตามเพลงสังหารเปลี่ยนเป็นทำนองสังหารมาแทนที่ ทุกโน้ตเพลงก็เพียงพอที่จะสังหารยอดฝีมือที่ต่ำกว่าระดับสี่ทั้งหมดทิ้งไป
และเพียงพอที่จะทำให้ที่นี่กลายเป็นสนามรบอันน่าสังเวช
แทบจะในช่วงเวลาเดียวกับที่บรรเลงเพลงสังหารออกมาในพริบตานั้น สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ที่หลงทางไปเรื่อยๆก็ได้สติขึ้นมาอย่างฉับพลัน มือขวาของเขารวมสมาธิทันที มนุษย์โครงกระดูกหลายสิบตัวก็แยกเขี้ยวพุ่งสังหารไปทางเย่จิ่งหาน
เกล็ดหิมะของเย่จิ่งหานก็เปลี่ยนเป็นหอกน้ำแข็งในพริบตา ยิงไปทางมนุษย์โครงกระดูก
ร่างกายของมนุษย์โครงกระดูกสะเทือนไปสองสามครั้ง ถอยหลังไปหลายก้าว
หอกน้ำแข็งทะลุเข้าไปในร่างกายมนุษย์โครงกระดูก และหายวับไป
การประลองครั้งนี้ มนุษย์โครงกระดูกแข็งแกร่งกว่าระดับหนึ่ง
ในไม่ช้า ตัวโน้ตก็กลายเป็นแก่นแท้ของแรงสังหารดีดไปทางมนุษย์โครงกระดูก เมื่อมนุษย์โครงกระดูกที่มีดปืนยิงฟันไม่เข้า ไม่ตายไม่สลายถูกเพลงขลุ่ยดีดไปเช่นนี้ ก็แตกกระเจิงไปทั้งหมดอย่างคาดไม่ถึง
ปากของสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ท่องสองสามประโยค มนุษย์โครงกระดูกก็รวมกลุ่มใหม่อีกครั้ง ก๊อกแก๊กๆพุ่งสังหารไปทางเย่จิ่งหาน
ตัวโน้ตของเย่จิ่งหานโจมตีจนพวกเขาแตกกระเจิงครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาก็รวมกลุ่มขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า วนเวียนไปไม่หยุด
“ก๊อกแก๊กก๊อกแก๊กก๊อกแก๊ก……”
เหมือนกับว่ามนุษย์โครงกระดูกคัดลอกได้เช่นนั้น หนึ่งเปลี่ยนเป็นสอง สองเป็นสี่ สี่เป็นแปด แปดเป็นสิบหก……
ไม่ช้า ทั้งถ้ำน้ำแข็งก็เต็มไปด้วยมนุษย์โครงกระดูกที่แยกเขี้ยวด้วยความโหดร้ายอำมหิตหนาแน่นเต็มไปหมด
แม้แต่บนกำแพงน้ำแข็งก็เป็นมนุษย์โครงกระดูก
เป้าหมายของมนุษย์โครงกระดูกเหล่านั้นชัดเจนมาก ก็คือสังหารเย่จิ่งหาน
เย่จิ่งหานเป่าขลุ่ยไปพลาง ยิ้มอย่างเย็นยะเยือกไปพลาง
เมื่อเสียงขลุ่ยเปลี่ยน ก้อนน้ำแข็งที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็กลายเป็นมนุษย์น้ำแข็งหนาแน่นเต็มไปหมด จำนวนไม่น้อยไปกว่ามนุษย์โครงกระดูก
มนุษย์โครงกระดูกและมนุษย์น้ำแข็งตะลุมบอนกัน ฆ่าฟันจนบรรยากาศอึกทึกเป็นอย่างมาก
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่มองไปทางเย่จิ่งหานด้วยความด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย
“มิน่าล่ะนอกจากเผ่าหยกแล้วเผ่าเทียนเฟิ่นถึงได้มองว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เย่จิ่งหาน เจ้ามีคุณสมบัตินั้นจริงๆ”
ไม่ว่าอย่างไรสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ก็คิดไม่ถึงว่า เย่จิ่งหานที่ศักยภาพลดฮวบลงมาถึงระดับห้าและยังได้รับบาดเจ็บสาหัสมากมายอีกนั้น จะยังมีความสามารถในการประลองความตายกับเขาอีก
แม้ว่าเขาจะถูกมังกรน้ำทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ศักยภาพของระดับหกและระดับเจ็ดก็ยังมีความแตกต่างกันอย่างมาก
เย่จิ่งหานปล่อยขลุ่ยหยกขาว ไม่ได้เป่าขลุ่ยต่อ ทว่ามนุษย์น้ำแข็งเหล่านั้นก็ไม่ได้ละลาย และยังคงต่อสู้กับมนุษย์โครงกระดูกต่อไป
เย่จิ่งหานหัวเราะอย่างเย็นยะเยือก “ขอบคุณสำหรับคำชม ท่องยุทธภพ ใครจะไม่เตรียมทางหนีทีไล่ไว้บ้างล่ะ ไม่ใช่ว่าสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้มากมายเช่นกันหรือ”
เขามีความหมายโดยนัย
ร่างกายของสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่สั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“เย่จิ่งหาน เหมือนว่าเจ้าจะรู้มากกว่าที่ข้าคิดซะอีกนะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าก็ปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้แล้ว”
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ไม่ปิดบังอะไรอีก ปากท่องคำสาป เมฆลมเปลี่ยนสีไปในพริบตา
มนุษย์น้ำแข็งของเย่จิ่งหานถูกสะเทือนตายไปช้าๆ
ราวกับมนุษย์โครงกระดูกมีพลังแม่เหล็กเช่นนั้น หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นมนุษย์โครงกระดูกขนาดมหึมา
อุณหภูมิในถ้ำน้ำแข็งยิ่งต่ำลงแล้ว
เขาปล่อยกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้ตลอดเวลา เพื่อกักขังจิตวิญญาณของเย่จิ่งหานไว้
“ตูม…..”
ขณะที่สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ยังไม่ได้ปล่อยเวทมนตร์กักขังวิญญาณออกมา ก็ได้ยินว่ามีกองกำลังทหารหลายพันหมื่นนายวิ่งพุ่งมาทางพวกเขา
พลังทำลายล้างอันมหึมานั่น ทำให้ทั้งพื้นดิน กระทั่งถ้ำน้ำแข็งทั้งถ้ำเกิดเสียงดังสนั่น อานุภาพไม่ได้น้อยไปกว่ามังกรน้ำระดับเจ็ดนั่นสักนิด
สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไป ชำเลืองมองออกไปไกลๆ กลับเห็นหมาป่าหิมะ เสือดาวหิมะ แมงมุมพิษเจ็ดสีกลุ่มหนึ่งและสัตว์อื่นๆแย่งกันวิ่งเข้ามา แต่ละตัวท่าทางชั่วร้าย อ้าปากที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่จำต้องถอนเวทมนตร์ รักษาชีวิตต่อกรกับสัตว์ร้ายก่อน
เสียงขลุ่ยของเย่จิ่งหานเปลี่ยนไป ขณะที่กำลังคิดจะใช้เสียงสังหารหยุดยั้งสัตว์ดุร้ายเหล่านี้ มือขวาถูกคนดึงไว้ เสียงอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อึ้งอะไรอยู่ ยังไม่รีบหนีอีก”