อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 704 สองต่อหนึ่ง

บทที่ 704 สองต่อหนึ่ง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 704 สองต่อหนึ่ง
รองหัวหน้าเผ่าซือคงรวบรวมสมาธิและพลัง ใช้ฟองอากาศมากมายออกมาขวางไว้ตรงหน้าเขา ป้องกันค่ายกลสังหารทุ่งดอกไม้ของจอมมาร

ไม่รู้ทำไม กู้ชูหน่วนรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของรองหัวหน้าเผ่าซือคงช้ากว่าแต่ก่อนมาก แม้แต่พลังภายในก็อ่อนแอลงมากเช่นเดียวกัน

นางสูดดมกลิ่นอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็เข้าใจขึ้นมาทันที ดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่เต็มท้องฟ้านั้นมีกลิ่นหอมไร้รูปร่างชนิดหนึ่ง สามารถหลอกล่อคนที่อยู่ในวงล้อมของการต่อสู้ได้ และยังสามารถทำให้สูญเสียพลังในการเคลื่อนไหวด้วย

เจ้าลูกหมาคนนี้ มีท่าไม้ตายเก็บไว้ไม่น้อยทีเดียว

แม้ว่าตอนนี้จอมมารจะได้เปรียบอยู่มากก็ตาม แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่กล้าคลายใจ ตาแก่คนนี้ไม่เพียงแต่เจ้าเล่ห์แสนกลเท่านั้น ยังมีวิชาเวทมนตร์อีกด้วย ถ้าไม่ระวังเขาอาจจะหนีไปได้

“โครม……”

ฟองอากาศกับดอกลำโพงปะทะกันรุนแรง ทำให้ภูเขาสั่นไหวไปทั้งลูก ราวกับแผ่นดินไหวระดับแปด

จอมมารใช้ท่าไม้ตายไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาชนะให้ได้ ต้องจับตัวรองหัวหน้าเผ่าซือคงให้ได้ ฉะนั้นเขาจึงลงมืออย่างไม่ปรานี ทุกกระบวนท่าล้วนเป็นท่าทำลายล้าง คนที่อยู่ในระยะใกล้หน่อย ต่างก็ถูกแรงโจมตีกระแทกจนกลายเป็นหมอกเลือดทันที ได้แต่ถอยแล้วถอยอีก

ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินมาสู่ช่วงที่ดุเดือดที่สุด ทันใดนั้นรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็หยิบบางอย่างออกมาจากอกและสาดไปยังจอมมาร

จอมมารคิดว่าเป็นอาวุธลับ จึงไม่ได้ใส่ใจ และทำการโจมตีกลับโดยตรง ทำให้ขวดนั้นแตกกระจาย

แต่แล้ว……

เรื่องที่ทำให้จอมมารต้องเสียใจก็เกิดขึ้นจนได้ สิ่งที่อยู่ในขวดนั้นไม่ใช่อาวุธลับ แต่เป็นอุจจาระก้อนหนึ่ง

เป็นอุจจาระที่ทั้งเหม็นทั้งน่าสะอิดสะเอียนก้อนหนึ่ง

สีหน้าของจอมมารเปลี่ยนไป เก็บกระบวนท่าทั้งหมดกลับไป ร่างถอยร่นไปทางด้านหลังไม่หยุด รีบสำรวจดูทันทีว่าถูกอุจจาระสาดโดนตัวหรือไม่ เขาเอ่ยอย่างกราดเกรี้ยวว่า “ตาแก่ซือคง อย่างน้อยเจ้าก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับหก ถึงกับใช้วิธีสาดสิ่งสกปรกเช่นนี้ เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่ แหวะ เหม็นชะมัด”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่สนใจ ฉวยโอกาสตอนที่จอมมารว่อกแว่ก แล้วก็เปลี่ยนร่างเป็นห่านที่แตกตื่นบินหนีทันที

ลูกน้องของกู้ชูหน่วนจะปล่อยเขาหนีไปได้อย่างไร เสียงลูกธนูที่ถูกยิงฝ่าอากาศออกไปดังขึ้นต่อเนื่อง

คนที่ถูกเลือกมาต่อกรกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างดีที่สุด

ยอดฝีมือมากมายขนาดนี้ยิงธนูพร้อมกัน การหนีของรองหัวหน้าเผ่าซือคงถูกขัดขวางเสียแล้ว

เขาได้แต่รวบรวมกำลังภายใน เปลี่ยนเป็นลำแสงขนาดใหญ่สายหนึ่ง พุ่งตรงไปยังมือธนูเหล่านั้น

“ปังปังปัง……”

“ฟู่……”

มีมือธนูไม่น้อยถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

มือธนูล้มเหลวแล้ว ยังมีกลุ่มอาวุธลับ

รองหัวหน้าเผ่าซือคงอยากจะรีบหนีไป ไม่มีใจอยากจะสู้ด้วย แต่อาวุธลับเหล่านี้กลับยิงโจมตีโดยไม่หยุดไม่หย่อน บีบให้เขาต้องสะบัดแขนเสื้อขึ้นเพื่อปัดป้อง

กู้ชูหน่วนดีดนิ้วขึ้นมาหนึ่งครั้ง

อยู่ดีๆป่าไม้ก็กลายเป็นทุ่งหิมะ เป็นภูเขาหิมะที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

รองหัวหน้าซือคงยิ้มเย็นและพูดว่า “เพื่อสู้กับข้า เจ้าคงใช้สมองในการคิดแผนไปไม่น้อย ถึงได้จัดการวางค่ายกลที่ร้ายกาจเช่นนี้เอาไว้”

“ขอเพียงจับตัวเจ้าได้ ทุกอย่างล้วนคุ้มค่า”

ในค่ายกลนั้นแทบจะอยู่ในการควบคุมของกู้ชูหน่วนทั้งหมด เหลือแค่ให้คนที่มีวรยุทธสูงส่งเข้ามาติดกับและจับเขาเอาไว้เท่านั้น

กู้ชูหน่วนกวาดตามองจอมมารที่ยังคงสะบัดแขนเสื้อไม่หยุด พูดว่า “อาโม่ ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลป้องกันสำนักของสำนักอสุรา คนทั่วไปยากจะไขค่ายกลนี้ได้ เจ้าเข้ามาจับตัวเขาไว้”

“ไม่ได้ เขามีวิธีการที่ต่ำช้าเกินไป ถ้าหากบนตัวเขายังมีสิ่งปฏิกูลอยู่จะทำอย่างไร”

“ก็แค่ขี้เท่านั้นเอง มีอะไรต้องกลัวด้วย ด้วยความสามารถของเจ้าแล้วยังจะถูกสาดโดนตัวอีกหรือ”

“ข้าไม่กลัวหากเขาปล่อยมาซึ่งหน้า แต่ข้ากลัวเขาทำลับหลัง เกรงว่าเขาจะใช้ไม้นี้”

“ถึงแม้จะถูกสาดแล้วอย่างไร แค่ล้างก็ได้แล้ว ข้าไม่รังเกียจเจ้าเสียหน่อย”

“ก็ไม่ได้อยู่ดี พี่สาว เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้จริงๆ นอกจากเจ้ายืนยันได้ว่า บนตัวเขาไม่มีขี้อยู่แล้ว”

กู้ชูหน่วนได้แต่กลอกตามองบน

นางไม่ได้ทำการค้นตัว จะไปรู้ได้อย่างไรว่าบนตัวของรองหัวหน้าซือคงมีหรือไม่มีขี้กันแน่

แต่วิธีการที่ต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้ เป็นวิธีการที่นางเพิ่งจะใช้กับคนแก่ชุดดำเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ

รองหัวหน้าเผ่าซือคงใช้วิธีการนี้ต่อกรกับเขาได้อย่างไร

หรือว่าคนแก่ชุดดำคนนั้นก็คือรองหัวหน้าเผ่าซือคง

แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่กู้ชูหน่วนก็ยังคงสงสัยอย่างยิ่งว่าทั้งสองคนเป็นคนคนเดียวกัน

เขาไม่ใช้หลักของยอดฝีมือในการสู้กับนาง แต่ใช้วิธีเดียวกันกับที่ผู้อื่นใช้

มองดูรองหัวหน้าเผ่าซือคงที่ยังคงโจมตีอยู่ในค่ายกลไม่หยุด และจุดที่โจมตีล้วนเป็นจุดสำคัญของค่ายกล

เขามองจุดสำคัญที่จะทำลายค่ายกลออกแล้ว ถ้าขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไปค่ายกลต้องถูกเขาทำลายได้แน่

“นายหญิง ให้ข้าไปจับตัวเขาเถอะ”เสี่ยวลู่พูด

“นายหญิง ให้ข้าน้อยไปเถอะ ตาเฒ่าคนนี้สมควรตายตั้งนานแล้ว”

“นายหญิง ข้าน้อยไปด้วย”

ลูกน้องที่จงรักภักดีแต่ละคนต่างก็พร้อมจะน้อมรับคำสั่ง

กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ข้าไปเอง”

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องต่อสู้กันอยู่ดี ในเขตแดนของนาง นางยังมีโอกาสชนะอยู่บ้าง

อาศัยแค่วรยุทธ ลูกน้องของนางเหล่านี้ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างรองหัวหน้าเผ่าซือคง

“ไม่ได้ นายหญิงท่านยังบาดเจ็บอยู่”

“ไม่ต้องพูดมาก”

กู้ชูหน่วนกำหมัดจนเกิดเสียงกระดูกบดกันดังขึ้น

เมื่อนึกได้ว่าเป็นไปได้ว่าแม่ทัพใหญ่เซียวอาจจะถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงสังหาร ความแค้นของนางก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น

ในขณะที่นางกำลังคิดจะเข้าไปจัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงในค่ายกล แรงกดดันอันกล้าแกร่งสายหนึ่งได้พุ่งเข้ามาทันที

พลังกดดันนั้นแฝงไว้ด้วยพลังการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ แค่ปรากฏขึ้นก็ทำให้หัวใจสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ กระทั่งอยากจะหมอบลงไปทันที

กู้ชูหน่วนเหลือบตาขึ้นมองเงาร่างที่แข็งแกร่งสายนั้นพุ่งตรงเข้ามาในค่ายกล พอลงมือก็ออกกระบวนท่าไม่ตายติดๆกัน ทุกกระบวนท่าล้วนต้องการปลิดชีพรองหัวหน้าเผ่าซือคง

ใบหน้าที่คุ้นเคย ชุดสีม่วงที่คุ้นเคย เงาร่างที่คุ้นเคย

กู้ชูหน่วนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่

เย่จิ่งหาน

เขามาได้อย่างไร

พวกเสี่ยวลู่ต่างก็ดีใจกันมาก

เหลืออีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้นรองหัวหน้าเผ่าซือคงจะทำลายค่ายกลออกไปได้แล้ว

จอมมารเห็นเย่จิ่งหาน ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาในชั่วพริบตา

“เย่จิ่งหาน รองหัวหน้าซือคงเป็นของข้า เจ้าอย่ามาแย่งกับข้า”

สิ่งที่ตอบกลับจอมมาร คือกระบวนท่าไม้ตายที่ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนในใจของเย่จิ่งหานสะกดกลั้นอารมณ์คุกรุ่นเอาไว้ไม่สามารถระบายออกมาได้ พอดีกับที่ตอนนี้สามารถระบายทั้งหมดที่อัดอั้นลงไปที่ตัวของรองหัวหน้าเผ่าซือคง

ยกขลุ่ยขาวขึ้น ตัวโน้ตแปลกประหลาดหลั่งไหลออกมาพร้อมกับทำนองเพลงที่ไพเราะ ตัวโน้ตทุกตัวร้ายแรงเพียงพอที่จะทำให้ที่นี่กลายเป็นความว่างเปล่า

รองหัวหน้าเผ่าซือคงต่อสู้ติดต่อกันยาวนาน ตอนนี้ต้องมาพบกับเย่จิ่งหานที่กำลังกราดเกรี้ยว บวกกับค่ายกลนี้ที่ควบคุมพลังยุทธของเขาทุกส่วน ทำให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

จอมมารเห็นดังนั้น ก็ไม่สนใจเรื่องขี้ๆอีกแล้วรีบเข้าสู่การต่อสู้ทันที

เถาวัลย์ของดอกลำโพงพุ่งออกไป ราวกับมีดวงตาพันร่างของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเอาไว้

ใครๆต่างก็รู้ดีว่าดอกลำโพงนั้นเป็นพิษร้ายแรง ถ้าหากถูกพันเอาไว้ ไม่ตายก็เจ็บสาหัส

เดิมทีรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ตกเป็นรองอยู่แล้ว ตอนนี้ยังต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ ทำให้ยิ่งตกเป็นรองอย่างช่วยไม่ได้

จอมมารพูดว่า “เย่จิ่งหาน ตาแก่คนนี้เป็นของข้า เจ้ามาจากไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้นเลย อย่ามายุ่งมั่วซั่วแถวนี้”

เย่จิ่งหานไม่ตอบจอมมาร แต่เกิดเสียงฟิ้วดังขึ้นหนึ่งครั้ง ตัวโน้ตที่น่ากลัวได้หันไปโจมตีทางจอมมาร

จอมมารโกรธจัด

คนคนนี้มาแย่งความดีความชอบจากเขาไปก็แล้วไปเถอะ แต่ยังกล้ามาลอบกัดเขา

จอมมารไม่ยอมอ่อนข้อให้อย่างเด็ดขาด เถาวัลย์ของดอกลำโพงที่เดิมทีกำลังพุ่งเข้าไปลอบทำร้ายรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน เป็นการโจมตีเย่จิ่งหาน

นี่เป็นการต่อสู้ที่ชุลมุนมาก

ประเดี๋ยวเย่จิ่งหานร่วมมือกับจอมมารต่อกรกับรองหัวหน้าเผ่าซือคง

ประเดี๋ยวเย่จิ่งหานก็ต่อสู้กับจอมมารโดยที่แยกออกจากกันไม่ได้

กู้ชูหน่วนมองดูจนมึนงงไปหมด

เดิมทีสามารถโค่นรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้แล้ว แต่พวกเขากลับทะเลาะกันเอง ในเวลาที่สำคัญที่สุดทำให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงหนีจากเงื้อมมือไปได้อีกครั้ง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท