อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่886 จอมมารขอแต่งงาน

บทที่886 จอมมารขอแต่งงาน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่886 จอมมารขอแต่งงาน
ระยะห่างจากห้องหลอมยาเผ่าหยกอยู่ไม่ไกลแล้ว เย่จิ่งหานพวกเขากับจอมมารเจอหน้ากัน

จอมมารสวมชุดแดง ยิ้มหน้าบาน ท่าทางเบิกบานสำราญใจ ร่างกายเขาสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาและสวยสง่า จนแยกเพศชายหญิงไม่ออก

โดยเฉพาะดวงตาข้างหนึ่งสีฟ้าข้างหนึ่งสีม่วงของเขา กระชากใจของผู้คนได้โดยไม่รู้ตัว

จอมมารเหมือนจะอารมณ์ดีมาก พอเห็นเย่จิ่งหานก็ไม่ได้ทะเลาะกับเขา แต่กลับยิ้มแล้วทักทายแทน

“คนเราย่อมต้องพบเจอกันอีกครั้งทุกที่ ท่านอ๋องหาน พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ ครั้งนี้ เจ้าอย่าอิจฉาข้าเชียวล่ะ”

เย่จิ่งหาน “…”

ผู้อาวุโสหก “…”

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย “…”

ไม่มีใครรู้ว่าจอมมารอยากพูดอะไร

อิจฉา?

อิจฉาเขาทำไม?

เผ่าหยกเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขากำลังดีใจอะไร?

หรือว่าเขาร่วมมือกับยอดฝีมือระดับเจ็ดของเผ่าเทียนเฟิ่นคนนั้น มาโจมตีเผ่าหยกเหรอ?

ไม่สิ ไม่มีทาง

ไม่รวมเรื่องความสัมพันธ์ของจอมมารกับกู้ชูหน่วน เขาไม่มีทางร่วมมือกับเผ่าเทียนเฟิ่นแน่นอน

แค่นิสัยของเขา เขาอยากฆ่าใครก็ฆ่าใคร ถึงแม้จะสู้ไม่ไหว เขาก็ไม่มีทางยอมร่วมมือกับใครหรอก

เย่จิ่งหานกวาดตามองรอบๆ

ที่นี่นอกจากจอมมารแล้ว ไม่มีลูกน้องของเขาเลยสักคน

นึกถึงความโง่ของจอมมาร เย่จิ่งหานก็ขี้เกียจเถียงกับเขาต่อ และมุ่งตรงไปยังห้องหลอมยา

จอมมารกับเขาเดินไปด้วยกัน มุมปากก็แสยะยิ้มอย่างได้ใจ

“เสี่ยวเย่เย่ วันนี้กลิ่นคาวเลือดโอบล้อมไปทั่วเผ่าหยกเลยนะ เจ้านำกำลังคนเข้ามาโจมตี จากนั้นก็ถูกคนเผ่าหยกจับได้หรือเปล่า?”

จอมมารส่ายหน้า แล้วพูดต่อว่า “น่าจะไม่ใช่ ถ้าใช่ล่ะก็ เจ้าคงโดนไล่ออกไปแล้ว จะเข้ามาในสถานที่สำคัญของเผ่าหยกพร้อมผู้อาวุโสหกได้ยังไง”

“ข้ารู้แล้ว ก่อนหน้านี้เผ่าหยกบุกโจมตีเผ่าเทียนเฟิ่น ไม่เพียงแต่ชนะเท่านั้น แถมยังทำลายเผ่าเทียนเฟิ่นจนราบคาบเป็นหน้ากองเลย เผ่าเทียนเฟิ่นจะต้องมีทหารตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่พอใจ วิ่งมาหาเรื่องเผ่าหยก จากนั้นก็ถูกเผ่าหยกจับได้ บาดเจ็บสาหัส จึงทำให้มีกลิ่นคาวเลือดโอบล้อมเผ่าหยกใช่หรือไม่?”

เย่จิ่งหาน “…”

ผู้อาวุโสหก “…”

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย “…”

จอมมารถูมืออย่างรู้สึกผิด “ก่อนหน้านี้ข้ามัวแต่ยุ่งกับการปลูกดอกพุดซ้อน ไม่มีเวลาสนใจโลกภายนอก ไม่งั้นข้าคงเอาทหารมาช่วยเผ่าหยกด้วย”

“ข้าไม่ชอบเผ่าเทียนเฟิ่นมานานแล้ว ถูกทำลายไปก็ดี ใช่สิ เวินเส้าหยีล่ะ ว่ากันว่าเจ้าต่อสู้กับเขา พวกเจ้าสองคนใครแพ้ใครชนะเหรอ? เขาตายหรือยัง?”

“ข้าว่าเขาต้องมีความรู้สึกต่อพี่สาวแน่ ตายไปก็ดี ข้าจะได้มีศัตรูน้อยลงด้วย แต่คนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ตายไปแบบนั้น ก็น่าเสียดายอยู่นะ ต่อไปคงหาคนมาประชันฝีมือด้วยยากแล้วล่ะ”

“ใช่สิ วันนี้คนของเผ่าหยกไปไหนกันหมดนะ ทำไมตลอดทางไม่เจอใครเลยล่ะ? หรือว่า…พวกเขารู้ว่า วันนี้ข้าจะมาขอพี่สาวแต่งงาน ดังนั้น แต่ละคนเลยเตรียมจะทำอะไรให้ข้าเหรอ?”

จอมมารแอบดีใจ และยิ้มกว้างขึ้น

ผู้อาวุโสหกกระตุกมุมปาก ในที่สุดก็อดไม่ได้พูดว่า “จอมมาร ท่านไม่รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศแปลกๆไปเหรอ?”

ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขากับอาหน่วนสนิทกัน ผู้อาวุโสหกเกือบคิดว่า เขามาหาเรื่องแล้ว

“บรรยากาศไม่ดี? ข้ารู้สึกว่าบรรยากาศดีมากเลยนะ ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาว เวลาและบรรยากาศดี ขาดแค่คนรู้ใจ”

เย่จิ่งหานกัดฟันกรอดพูดว่า “เจ้าใช้สมองอันน้อยนิดของเจ้าคิดให้ดีๆ”

เสี่ยวเย่เย่อะไรกัน?

เขามีสิทธิ์เรียกเสี่ยวเย่เย่เหรอ?

บนโลกนี้ คนที่กล้าเรียกเขาว่าเสี่ยวเย่เย่ มีแค่กู้ชูหน่วนคนเดียวเท่านั้น

“สมองอันน้อยนิด?”

จอมมารอึ้ง

นานมากกว่าจะรู้ตัวว่าเย่จิ่งหานกำลังด่าเขาอยู่

เขาไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน “ข้าว่าแล้วว่าเจ้าต้องอิจฉาข้า เจ้ายังไม่รู้ใช่ไหม พี่สาวบอกแล้วว่า ขอแค่ข้าปลูกต้นดอกพุดซ้อนทั้งภูเขาหนึ่งลูกเองกับมือ นางก็จะแต่งงานกับข้า ข้าเอาแต่ปลูกอยู่ทุกวันทุกคืน ใช้เวลาอยู่นาน ในที่สุดก็ปลูกต้นดอกพุดซ้อนทั้งภูเขากับมือเสร็จสักที”

“พี่สาวเห็นดอกพุดซ้อน จะต้องดีใจมากแน่ๆ”

เดินผ่านแดนต้องห้ามของเผ่าหยก ประตูสถานที่ต้องห้ามถูกคนตบด้วยฝ่ามือพิฆาตจนทะลุเป็นรอยใหญ่

ประตูแดนต้องห้ามเป็นเหล็กที่หลอมอย่างดีมาหลายหมื่นปี แทงไม่เข้ายิงไม่เข้า แต่ตรงประตูกลับมีรอยฝ่ามือประทับไว้

รอยยิ้มของจอมมารหายไป เขาจับประตูแดนต้องห้าม แล้วถามเย่จิ่งหานอย่างแปลกใจ

“ใครมันเก่งขนาดนั้น คงไม่ใช่ยอดฝีมือระดับเจ็ดหรอกนะ?”

เย่จิ่งหานไม่ได้ตอบเขา และวิ่งต่อไปข้างหน้า อยากจะรีบไปถึงห้องหลอมยาโดยเร็วที่สุด

จอมมารวิ่งเร็วมาก วิ่งมาพร้อมกับเย่จิ่งหานพวกเขาตลอด

เขาหันหน้าไปถามว่า “เผ่าหยกมียอดฝีมือระดับเจ็ดด้วยเหรอ? หรือผนึกของพี่สาวคลายออกแล้ว พลังกลับมาแล้ว?”

“พี่สาวจะต้องรู้ว่าข้าจะต้องปลูกดอกพุดซ้อนได้ ดังนั้นถึงได้คลายผนึกออกเพื่อยินดีกับข้า”

“แต่ไม่สิ คลายผนึก พิษคำสาปโลหิตของนางก็กำเริบน่ะสิ? เย่จิ่งหาน เจ้าพูดมาสิว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

“ผู้อาวุโสใหญ่…”

จอมมารยังไม่ได้ยินคำตอบจากเย่จิ่งหาน ก็ได้ยินเย่จิ่งหานตะโกนเรียกผู้อาวุโสใหญ่

ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน กลับเห็นผู้อาวุโสใหญ่ล้มกองอยู่หน้าห้องหลอมยา สีหน้าเขาซีดเซียว พิงกำแพงอย่างหมดเรี่ยวแรง

ผู้อาวุโสหกรีบพยุงตัวเขาขึ้น

“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านไม่เป็นไรนะ?”

“เร็ว สุดยอดผู้อาวุโสอยู่ข้างใน รีบไปช่วยท่านเร็ว”

“ฟิ้วๆๆ…”

เย่จิ่งหานรีบหายตัวเข้าไปด้านในทันที

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียก็หายไปพร้อมกัน

ผู้อาวุโสหกกัดฟัน ปล่อยตัวผู้อาวุโสใหญ่แล้วรีบวิ่งตามเข้าไป

จอมมารก็ดึงแขนเสื้อของเขา แล้วถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมเหรอ? เผ่าหยกมีสงครามภายในเหรอ?”

ผู้อาวุโสหกสะบัดมือของเขาออกแรงๆ “เจ้าดูไม่ออกหรือไง เผ่าหยกถูกยอดฝีมือระดับเจ็ดโจมตี คนในเผ่าตายบ้าง บาดเจ็บบ้าง หายตัวบ้าง”

เขานี่มันโง่จริงๆเลย

เป็นถึงจอมมารได้ยังไงกันนะ?

จอมมารอึ้ง

“ยอดฝีมือระดับเจ็ดไม่ใช่พี่สาวเหรอ?”

“อาหน่วนจะฆ่าคนของตัวเองทำไม? เจ้าไม่เห็นศพระหว่างทางเหรอ?”

“ข้าหลงทาง เดินอ้อมมาตรงครึ่งภูเขา ไม่เห็นศพเลย”

“เฮ้อ ข้าไม่มีเวลาอธิบายกับเจ้าแล้ว ข้าไปก่อนล่ะ”

“ช้าก่อน งั้นพี่สาวอยู่ไหน?”

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง”

ผู้อาวุโสหกหวังแค่ว่าสุดยอดผู้อาวุโสจะใช้กับดักค่ายกลที่บรรพบุรุษเคยวางไว้ดักยอดฝีมือระดับเจ็ดนั้นไว้ได้

ไม่งั้นเผ่าหยกจะต้องอันตรายแน่

แต่ทว่า สุดยอดผู้อาวุโสมีบาดแผลบนตัว อีกฝ่ายก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับเจ็ด เขากลัวมากจริงๆ

แต่สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือ อาหน่วนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า

จอมมารมองดูมือขวาของตัวเอง และมือซ้ายของตัวเอง ก็ถึงรู้ตัวทีหลัง

เขาตบขาตัวเอง ตะโกนเสียงดังว่า “รอข้าก่อนนะ ตาแก่ เจ้ารีบพาข้าไปหาพี่สาวเร็ว”

เฮือก…

ข้างหน้า ทุกคนหยุดลง

จอมมารก็หยุดตาม

ภาพที่เห็นตรงหน้า ช่างน่าสะเทือนใจจริงๆ แดนต้องห้าม…

กลับถูกทำลายทั้งหมด

แดนต้องห้ามอันกว้างขวางถูกทำลายล้างโดยพลังอันแข็งแกร่ง

ห้องประชุมของเผ่าหยกก็ถูกทำลาย ทุกที่ต่างก็พังไม่เป็นท่าไปหมด

ขนาดห้องหลอมยาก็ยังเละไปหมด เศษซากหักพังตกอยู่เต็มพื้น

บนพื้นมีเลือดเยอะมาก แต่กลับไม่เห็นศพเลย

ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ และไม่รู้ด้วยว่านี่เป็นเลือดของใคร

พวกเขามีลางสังหรณ์ใจไม่ดี อันตรายของเผ่าหยกหนักหนากว่าที่พวกเขาคิดไว้เยอะมาก

“ดูตรงนั้นสิ สุดยอดผู้อาวุโสอยู่ตรงนั้น” ทันใดนั้น เจี่ยงเสวียก็ตะโกนขึ้น

สุดยอดผู้อาวุโสนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เส้นเอ็นบนร่างกายถูกตัดขาดทั้งหมด ใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว

สุดยอดผู้อาวุโสเป็นผู้อาวุโสที่แกร่งที่สุดของเผ่าหยก ขนาดเขายังถูกทำร้ายขนาดนี้ งั้นกู้ชูหน่วนจะเป็นยังไง…

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน