อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่896 ทะลุระดับเจ็ด

บทที่896 ทะลุระดับเจ็ด

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่896 ทะลุระดับเจ็ด
สุดยอดผู้อาวุโสยังพูดไม่ทันจบ รอบกายจอมมารก็มีแสงสว่างจ้า ไม่เพียงแต่คลายจุดทั้งตัวของออกได้ ขนาดม่านอาคมที่แข็งแกร่งก็ยังถูกดอกไม้ทลายได้

“ปังๆ…”

แสงสว่างระเบิดออก คนที่ถูกขังอยู่ภายในม่านอาคมถูกปล่อยตัวออกมา

ขณะเดียวกันก็มีพลังอันยิ่งใหญ่ครอบงำพวกเขาไว้ จนพวกเขาหายใจไม่ออก

พลังนี้…ยิ่งใหญ่เหลือเกิน…

จอมมารทะลุจากระดับห้าไปถึงระดับเจ็ด…

ยกระดับทีเดียวสองขั้น…

นี่มันน่ากลัวมากจริงๆ…

ไม่รอพวกเขาตกใจเสร็จ แสงสีแดงรอบกายจอมมารก็หายไป เขาพูดทิ้งท้ายแค่ว่า “พี่สาว รอข้าก่อนนะ…”

“สุดยอดผู้อาวุโส…”

“นั่นเป็นวิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้ง เขาใช้วิชาต้องห้าม ยกระดับวิทยายุทธตัวเองไปจนถึงขั้นสูงสุด”

สุดยอดผู้อาวุโสอยากรีบวิ่งไปยังห้องหลอมยา แต่แค่ขยับนิดเดียว เลือดบนร่างกายก็ไหลไม่หยุด แล้วล้มลงไปกับพื้น

มีคนพุ่งเข้าไปในห้องหลอมยาตาม บ้างก็เข้าไปพยุงสุดยอดผู้อาวุโสและผู้อาวุโสใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัส

สุดยอดผู้อาวุโสพูด “เร็ว รีบเข้ามาพยุงข้าเข้าไป ภายในครึ่งชั่วโมงนี้ ถ้าทำให้จอมมารคืนวิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งกลับไปได้ จอมมารอาจจะไม่ต้องตาย ไม่งั้น…ไม่งั้น…”

สุดยอดผู้อาวุโสไม่อยากจะคิดเรื่องราวหลังจากนั้นเลยจริงๆ

อาหน่วนมีเพื่อนแค่ไม่กี่คน จอมมารเป็นหนึ่งในเพื่อนที่นางเชื่อใจและรักมากที่สุด ก่อนไปนางยังฝากให้เขาดูแลจอมมารดีๆ

เขารักษาอาหน่วนไว้ไม่ได้ จะต้องรักษาจอมมารไว้ให้ได้

“สุดยอดผู้อาวุโส ท่านบาดเจ็บสาหัส ถ้าท่านไม่รีบรักษาแผล…”

“พูดมากความจริงๆ รีบพาข้าไปห้องหลอมยา…”

“ขอรับ…”

ภายในห้องหลอมยา กู้ชูหน่วนสร้างค่ายกลไว้มากมายเพื่อห้ามพวกเขาไม่ให้เข้ามา

ค่ายกลพวกนี้ถูกยอดฝีมือฝืนกฎธรรมชาติทำลายจนหมด

สุดยอดผู้อาวุโสรู้ว่า นอกจากจอมมารแล้ว ไม่มีใครทำลายค่ายกลของอาหน่วนได้

ทางไปห้องหลอมยาเละเทะไปหมด ไม่รู้ว่าจอมมารรีบร้อนแค่ไหน ถึงทำลายห้องหลอมยาจนพังเละขนาดนี้

ในที่สุด…

พวกเขาก็ไปถึงห้องหลอมยา

และได้ยินเสียงร้องครวญครางของจอมมาร

“พี่สาว…ไม่นะ…”

สุดยอดผู้อาวุโสพวกเขารีบวิ่งเข้าไป กลับเห็นกู้ชูหน่วนนำเตาหลอมยาหยินหยางขนาดใหญ่สองเตาหลอมเป็นหนึ่งเดียว

และนางก็ยืนอยู่ขอบเตาหลอมยา ใช้มีดสั้นแทงไปยังหน้าอกของตัวเองแรงๆ เลือดไหลลงไปยังเตาหลอมยา

มีเลือดจากหัวใจของนาง ไฟของเตาหลอมยาก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ลุกโชนไปทั่ว

สีของไฟเป็นสีทองเหลือง

และปนสีแดงเลือดด้วย

แดงเฉกเช่นสีเลือดของกู้ชูหน่วน

สีหน้าพวกเขาซีดเซียว

ยังไงก็มาช้าไปหนึ่งก้าว?

“หัวหน้าเผ่า…”

ชาวเผ่าหยกไม่น้อยต่างก็คุกเข่าลง

จอมมารรีบพุ่งเข้าไปด้วยสีหน้าซีดเซียว

กู้ชูหน่วนตะคอก “หยุดนะ อย่าเข้ามา ไม่งั้นข้าจะควักหัวใจของตัวเองออกมาเดี๋ยวนี้”

“พี่สาว…ข้าไม่เข้าไปแล้ว พี่วางมีดลงนะ มีอะไรพวกเรามาคุยกันได้ไหม”

จอมมารในตอนนี้ เหมือนเด็กที่ตกใจกลัว ใบหน้าอันสวยงามเต็มไปด้วยสีหน้าหมดหนทางและร้องขอ

ดวงตาสีฟ้าข้างสีม่วงข้าง สะท้อนสีหน้าที่เด็ดขาดของกู้ชูหน่วนและเลือดที่ไหลไม่หยุดของนาง

เขากังวล

หมดหนทาง

ร้อนรน

ต่ำต้อย

กู้ชูหน่วนเห็นแล้วอยากจะกอดเขาเอาไว้แน่นๆ

เรื่องดีๆที่จอมมารทำให้นาง หลายๆเรื่อง นางจำได้ขึ้นใจทั้งหมด

เขาเป็นคนที่ยโสโอหัง

ไม่เคยมีสีหน้าที่ต่ำต้อยและหมดหนทางขนาดนี้มาก่อน

“อาโม่ ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเข้ามา ทำไมเจ้าไม่ฟังคำข้านะ? เจ้ายังต่อต้านสวรรค์เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตอีก แถมยังใช้วิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งอีก……”

“ขอแค่พี่วางมีดในมือลง ต่อไปข้าสัญญาว่าข้าจะเป็นเด็กดี ข้าจะไม่ใช่วิชาดอกไม้ผลิบานอีกครั้งอีกแล้ว”

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท