“ลุงเหวิน!”
“ขอรับ!”
ในฝูงชนนั้นมันมีพลังหมัดหนึ่งพุ่งออกมาทำลายร่างของคันเฟยหงลงสิ้น
ที่ด้านข้างนั้นซุนซูได้แต่ต้องหันมามองอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คนทั้งหลายนั้นต่างหันไปมองที่ต้นตอพลังและได้เห็นว่าพวกเขาเป็นคู่ชายหนุ่มกับชายแก่
ชายหนุ่มนั้นเดินนำขึ้นมาก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยความดูถูก “ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันสู้ ทำพันธมิตรโอสถเราเสียหน้าสิ้น เจ้ามันสมควรตายแล้ว!”
“ท-ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์? ซุนซูแห่งห้างเมฆเฉื่อยขอคารวะท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!” ซุนซูก้มหัวลงกล่าวเพราะเขานั้นคาดเดาได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร
ตัวหลัวหยุนชิงที่ข้างกายเย่หยวนนั้นก็ได้แต่กล่าวขึ้นมาอย่างกังวลใจ “เฒ่าคนนี้มันมีกำลังฝีมือแข็งแกร่งมาก มันเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก!”
เย่หยวนพยักหน้ารับอย่างไม่คิดสนใจมากมาย
เพราะในเมื่อมันเป็นการท้าทายด้านโอสถแล้ว ฝ่ายพันธมิตรโอสถเองก็ย่อมจะไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา
แม้ว่าการสังหารเขาลงนั้นจะง่ายแต่ชื่อเสียงที่เสียไปมันจะกู้คืนได้ยากยิ่ง
หากคิดอยากจะกู้ชื่อเสียงคืนนั้นมันก็มีแต่ต้องเอาชนะเขาในการประลองโอสถลงให้ได้ก่อนเท่านั้น!
ชางหยงหนิงหันมามองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดสนใจซุนซูที่ก้มหัวอยู่หน้าประตูนั้น “เป็นแค่หิ่งห้อยก็ริอาจมาเทียบแสงจันทร์! เด็กน้อย เจ้าคิดลบหลู่พันธมิตรโอสถเราแล้วรู้หรือไม่ว่ามันจะต้องรับผลอย่างไร?”
เมื่อชางหยงหนิงก้าวขึ้นมานั้นเขาก็ปล่อยพลังกดดันออกมารอบกาย
นี่มันคือท่าทางของคนที่เหนือหัวทุกชีวิตอย่างไม่ต้องสนใจใคร
เย่หยวนนั้นเป็นได้เพียงแค่มดปลวกในสายตาของเขา
เย่หยวนกล่าวตอบกลับไป “ลบหลู่พันธมิตรโอสถ? หึๆ เจ้ามีสมองบ้างหรือไม่? พันธมิตรโอสถของพวกเจ้านั้นคว่ำบาตรนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเราและยังคิดบังคับหักดาบพี่หลัวข้า บอกให้เขาเป็นคนรับผิดก้มหัวขอโทษพวกเจ้าทั้งยังคิดจะชิงเอาศิษย์ของข้าไปเป็นของเล่นให้เจ้าสวะนั้น! เวลานี้เจ้ากลับเดินมาเชิดหน้าบอกว่าเป็นพวกข้าที่ไปลบหลู่พันธมิตรโอสถเจ้า? สมองของคนในพันธมิตรโอสถนั้นมันไปแย่งของสุนัขมาใช้หรือ?”
ชางหยงหนิงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ปากร้ายนัก เด็กน้อย คิดจะวางตัวโอหังมันก็ต้องมีฝีมือรองรับ! ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะได้กลายเป็นแค่ตัวตลก! เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าแค่เอาชนะขยะได้ไม่กี่ชิ้นเจ้าก็จะเอาชนะพันธมิตรโอสถได้จริง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเองก็อยู่กับขยะมิใช่หรือ? เช่นนั้นเจ้าเองก็เป็นขยะด้วยหรือไม่? หรือว่าจริงๆ แล้วพันธมิตรโอสถมันเป็นกองขยะกัน?”
“ฮ่าๆๆ…”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาทันที
ชางหยงหนิงผงะไปก่อนจะร้องตอบกลับมา “ไอ้เด็กนรก เจ้ามันโอหังนัก! ในเมื่อเจ้ากล้าขนาดนี้แล้วเจ้าจะกล้าเดิมพันชีวิตกับข้าหรือไม่เล่า?”
“ทำไมจะไม่…”
“ไม่ได้!” เย่หยวนนั้นพูดยังไม่ทันจบแต่ตัวหลัวหยุนชิงก็กล่าวขึ้นมาขัด
ตัวตนของเย่หยวนนั้นคือความหวังและอนาคตของนิกายสวรรค์ยุทธมั่น มันย่อมจะปล่อยให้เกิดเรื่องใดๆ ไม่ได้
บุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้มันให้ความรู้สึกอันตรายล้ำทำให้เขาไม่อาจจะปล่อยให้เย่หยวนออกไปเสี่ยงได้
มันมิใช่ว่าเขานั้นไม่มั่นใจในฝีมือของเย่หยวนแต่เขานั้นไม่อยากจะให้เย่หยวนไปรับความเสี่ยงไว้
ชางหยงหนิงนั้นหัวเราะขึ้นตอบ “หากเจ้าไม่กล้าท้าทายก็ก้มหัวขอโทษรับความผิดตัวเสีย!”
“พี่หลัว ใจเย็นๆ ก่อน ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะแพ้ให้ขยะอย่างมันหรอกใช่หรือไม่?” เย่หยวนหันมากล่าวกับหลัวหยุนชิงด้วยรอยยิ้ม
หลัวหยุนชิงนั้นขมวดคิ้วแน่นแต่ก็ยังไม่อาจยอมรับ
ชายหนุ่มคนนี้มียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาคอยดูแล มันย่อมจะมิใช่แค่ศิษย์ทั่วๆ ไปของพันธมิตรโอสถแน่แล้ว
การที่พันธมิตรโอสถส่งเขาออกมานี้มันย่อมจะเพราะพวกเขามั่นใจว่าชายหนุ่มคนนี้จะเอาชนะเย่หยวนได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องระวังอย่างถึงที่สุด
เย่หยวนหันไปมองชางหยงหนิงพร้อมตอบ “ข้าจะเดิมพันกับเจ้าเอง!”
ชางหยงหนิงนั้นยิ้มตอบกลับมา “ได้ เช่นนั้นเจ้ากับข้ามาผูกคำสาปวิญญาณดั่งเดิมกัน! ผู้แพ้นั้นจะต้องถูกทำลายวิญญาณดั่งเดิมลง!”
เย่หยวนตอบรับ “ย่อมได้!”
หลัวหยุนชิงนั้นยังไม่คิดยอมรับแต่เย่หยวนกลับกล่าวขึ้นมาขัดก่อน “พี่หลัว ถอยตอนนี้มันย่อมจะเป็นการเสียเวลาที่ผ่านๆ มาสิ้นแล้ว! ท่านเองก็รู้ดีว่าพันธมิตรโอสถมันไม่ได้มีแค่ขยะพวกนี้มิใช่หรือ? กำลังฝีมือของพวกมันนั้นเหนือล้ำเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหากเราเอาชนะบุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้มันลงได้นามของศาลาโอสถมันก็จะยิ่งเลื่องลือ!”
จริงๆ แล้วเย่หยวนเองก็รู้ดี
พันธมิตรโอสถนั้นเป็นกองกำลังที่สุดแสนแข็งแกร่ง พวกเขานั้นมีวิชาการโอสถที่เข้าถึงแก่นของเต๋าโอสถได้อย่างแท้จริง
พวกเขานั้นสามารถก้าวขึ้นมาถึงระดับของเย่หยวนได้ด้วยวิธีการที่แตกต่าง
ศัตรูที่เย่หยวนเอาชนะมาตลอดทางนั้นพวกเขาต่างมีรากฐานที่สุดแสนมั่นคงและทำให้พวกเขามากฝีมือล้น
แต่คนทั้งหลายนี้จะอย่างไรก็เป็นแค่คนที่ทางพันธมิตรโอสถส่งออกมาทำงานภายนอก
เช่นนั้นแล้วเหล่ายอดฝีมือที่ประจำการภายในพันธมิตรโอสถนั้นจะต้องเป็นยอดคนระดับไหน?
ที่เย่หยวนอาละวาดมาตลอดสามเดือนนี้มันก็เพื่อจะลากให้พันธมิตรโอสถส่งกำลังที่แท้จริงออกมา
หากพวกเขานั้นไม่อาจจะรู้ได้เสียด้วยซ้ำว่าศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่ต้องสู้ใดๆ กันแล้ว
ในเมื่อชายหนุ่มคนนี้อ้างตัวว่าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เขาก็ย่อมจะมีฝีมืออย่างแท้จริง
หรืออย่างน้อยๆ มันก็ต้องแข็งแกร่งกว่าเหล่าคนทั้งหลายก่อนหน้าสิ้น!
หลัวหยุนชิงนั้นได้แต่ต้องกัดฟันตอบกลับมา “เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย!”
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะหันมาทำคำสาปวิญญาณดั่งเดิมกับชางหยงหนิง!
แต่หลังจากตกลงผูกพันธะเสร็จสิ้นชางหยงหนิงก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้ารอรับความตายจากคำสาปวิญญาณดั่งเดิมได้เลย! เจ้านั้นคงไม่เคยได้รู้เลยใช่หรือไม่ว่าคุณภาพที่แท้จริงของโอสถสวรรค์มันเป็นอย่างไร? คนทั้งโลกนั้นรู้จักแค่ว่าโอสถสวรรค์นั้นแบ่งคุณภาพออกเป็นเก้าระดับและระกับเก้าขั้นสุดนั้นคือจุดสุดยอด! แต่พวกมันนั้นไม่ได้รู้เลยว่าพันธมิตรโอสถเราสามารถหลอมให้คุณภาพมันล้ำกว่าระดับเก้าขึ้นไปได้! เหนือกว่าระดับเก้าขึ้นไปนั้นมันคือระดับแท้!”
คำพูดเดียวนี้ทำให้เกิดเสียงฮือฮาแตกตื่นขึ้น!
ชางหยงหนิงนั้นกล่าวความลับที่คนทั้งหลายไม่รู้ถึง
พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามันมีโอสถสวรรค์ที่คุณภาพเหนือล้ำกว่าระดับเก้าขึ้นไป!
เพราะว่ามันไม่เคยมีใครหลอมได้!
ระดับเก้านั้นมันคือตำนานในความเข้าใจของคนทั้งหลายอยู่แล้ว มีหรือที่พวกเขาจะยังคิดฝันว่ามันมีอะไรเหนือกว่าระดับเก้าขึ้นไปอีก?
“ระดับแท้มันคืออะไรกัน?”
“ในเมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์ของพันธมิตรโอสถกล่าวขึ้นมาเช่นนั้นแล้วมันก็ย่อมจะหมายความว่าเขานั้นหลอมได้หรือ?”
“ที่แท้เขาวางกับดักให้เย่หยวนเดินเหยียบ!”
…
หลังจากหายตกตะลึงคนทั้งหลายก็ต่างเข้าใจได้ทันทีว่าชางหยงหนิงนั้นขุดหลุมดักเย่หยวนแล้ว
เขานั้นมั่นใจว่าเย่หยวนไม่เคยจะได้ยินถึงระดับแท้มาก่อน แน่นอนว่าย่อมจะไม่สามารถหลอมระดับแท้ขึ้นมาได้แน่
ตราบเท่าที่เย่หยวนผูกคำสาปวิญญาณดั่งเดิมกับเขา เย่หยวนก็จะต้องตายลงแน่แล้ว!
ช่างเป็นคนมากเล่ห์นัก!
หลัวหยุนชิงนั้นหรี่ตาลงด้วยความคับแค้น “เด็กน้อย เจ้าโกง!”
หลัวหยุนชิงชักดาบขึ้นมาฟันอย่างทันที
ลุงเหวินคนนั้นยกเท้าขึ้นกระทืบและต่อยหมัดสวนออกมา
ตูม!
การปะทะนี้มันทำให้หลัวหยุนชิงต้องเสียหลักกระเด็นกลับหลังออกมา
ส่วนตัวลุงเหวินคนนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว!
“นักดาบหน้าหยก สมชื่อดีเสียจริง! รับหมัดของข้าไปแล้วเจ้ากลับไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย!” ลุงเหวินคนนั้นกล่าวขึ้น
แต่ใบหน้าของหลัวหยุนชิงนั้นมันเหยเกอย่างถึงที่สุด
เพราะกำลังฝีมือของเฒ่าคนนี้ แม้แต่เขาก็ไม่อาจจะรับมือได้!
“พี่หลัว การเดิมพันชีวิตนั้นจะอย่างไรมันก็เป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไปแล้ว! ในเมื่อพันธะมันถูกสร้างขึ้นมาแล้วสู้ไปมันก็ไม่ได้อะไร! ที่สำคัญไปกว่านั้นข้าว่าตัวมันเองก็คงไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ได้ง่ายๆ เหมือนกันใช่ไหมเล่า?” เย่หยวนกล่าวขึ้น
ชางหยงหนิงนั้นหัวเราะตอบกลับมา “ใช่! การหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันต้องใช้ดวงจะตั้งใจแค่ไหนหลอมมันก็ไม่อาจจะทำได้ง่ายๆ! ในพันธมิตรโอสถนั้นมีผู้อาวุโสหลายคนที่สามารถหลอมระดับแท้ได้แต่มันก็มีโอกาสเพียงหนึ่งในสิบ แต่กำลังฝีมือของข้านั้นเหนือล้ำกว่าผู้อาวุโสทั้งหลายนั้นไปมาก! หากข้าได้หลอมห้าครั้งมันจะต้องมีครั้งหนึ่งแน่ที่ได้โอสถสวรรค์ระดับแท้ขึ้นมา! ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะก้าวขึ้นมาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรกัน?”
ระดับแท้นั้นมันเป็นสิ่งที่คนทั้งหลายไม่เคยมีใครได้ยิน
พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ไม่ต้องถามเลยว่ามีใครเคยเห็นหรือไม่
แต่ดูแล้วมันย่อมจะเป็นระดับที่เหนือล้ำมือของคนทั่วๆ ไป
ผู้อาวุโสของพันธมิตรโอสถนั้นอย่างน้อยๆ ก็คงเป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่เช่นกัน!
แต่แม้คนระดับนั้นก็ยังหลอมได้แค่หนึ่งในสิบครั้ง แต่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าชางหยงหนิงนั้นเป็นยอดฝีมือแค่ไหน
ก่อนหน้านี้ตัวเย่หยวนเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่ามันมีระดับนี้อยู่
เพราะแม้แต่ในบันทึกของจงเจียนโชวนั้นเขาก็ไม่เคยเขียนถึงมัน
ดูท่าแล้วตัวจงเจียนโชวเองก็คงยังไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงระดับนี้ได้
เย่หยวนนั้นรู้สึกใจสั่นขึ้นมาไม่น้อยเพราะกำลังของพันธมิตรโอสถนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดเดาไว้มาก
แค่ฟังจากปากของชางหยงหนิงนี้เขาก็พอเดาได้ว่าเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่ของพันธมิตรโอสถนั้นต่างสามารถก้าวขึ้นไปถึงระดับแท้นี้ได้สิ้น!
…………