“แฮ่มแฮ่ม…….”
กู้ชูหน่วนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
หนิงเทียนโย่วก็ตกใจจนแทบไม่ไหว
“ท่านปู่……ทำไมแค่ยาไม่กี่เม็ดท่านก็ขายข้าซะแล้วล่ะ”
“นี่เป็นยาไม่กี่เม็ดหรือ? นี่เป็นยาร้อยกว่าเม็ดเกือบสองร้อยเม็ดเลยนะ อีกอย่าง แม่นางมู่ก็หน้าตางดงาม อ่อนโยนว่านอนสอนง่าย ไม่คู่ควรกับเจ้าตรงไหน”
หน้าตางดงามจุดนี้ยังสามารถรับได้
แต่อ่อนโยนว่านอนสอนง่าย?
ท่านปู่ตาบอดหรือ?
นางอ่อนโยนตรงไหน?
ว่านอนสอนง่ายตรงไหน?
หนิงเทียนโย่วกำลังคิดจะปฏิเสธคำพูดนี้ กู้ชูหน่วนก็กระแอมเบาๆแล้วกล่าว “อันนั้น ผู้เฒ่าหนิง เรื่องการหมั้นหมายพวกเราไม่เอ่ยถึงแล้ว”
“ถูกแล้ว เจ้ายังมีการหมั้นหมายอยู่กับซ่างกวนหมิงหลาง เช่นนี้ละกัน วันหน้าข้าไปที่ตระกูลซ่างกวนแทนเจ้ารอบหนึ่ง ช่วยเจ้าถอนหมั้นด้วยตัวเอง”
กู้ชูหน่วนกลอกตาขาว ผู้เฒ่านี่ เอาจริงแล้วใช่หรือไม่?
“ตระกูลซ่างกวนเป็นตระกูลชั้นสูง ถอนหมั้นตรงๆ ไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของพวกเขาน่ะสินะ”
“วางใจได้ ข้าจะคิดหาวิธีที่เอื้อประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเอง ทั้งไม่ทำให้พวกเขาเสียหน้า และไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”
“ตามใจท่านละกันว่าจะทำยังไง แต่ตอนนี้ยังไงข้าก็ยังไม่อยากแต่งงานกับผู้ใดทั้งสิ้น”
ช่วยนางจัดการแก้ไขปัญหาการหมั้นหมายก็ดี ซ่างกวนหมิงหลางอะไรนั่น นางไม่ได้สนใจแม้สักนิด
แหวนมิติยังคงเพิ่มราคาอยู่ต่อไป
เย่จิ่งหานโมโหเล็กน้อยแล้ว “ไปบอกตระกูลไป๋หลี่ หากยังกล้าเพิ่มราคา ก็ให้พวกเขาชั่งใจเอง”
“ขอรับ” ชิงเฟิงรับคำสั่งแล้วจากไป
เจี่ยงเสวียกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย “นายท่าน ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่แคว้นเย่ หาก…..หากเพิ่มต่อไป พวกเราก็ไม่มีเงินแล้ว”
“ไปเอาเงินจากหัวหน้าตระกูลของตระกูลไป๋หลี่มา”
“แต่ว่าตระกูลไป๋หลี่ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะได้แหวนมิติวงนั้นด้วยหรือขอรับ? เขาจะให้เงินพวกเราหรือขอรับ?”
“วางใจเถอะ เขาจะให้” ใบหน้าของเย่จิ่งหานเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ในห้องส่วนตัวตระกูลไป๋หลี่
ในไม่ช้าไป๋หลี่เจิ้นก็ได้รับข่าวจาก หัวหน้าตระกูลของตระกูลไป๋หลี่ไม่อนุญาตให้เขาประมูลต่อไปอีก กระทั่งยังมอบเงินให้เย่จิ่งหานอีกด้วย
ไป๋หลี่เจิ้นโกรธจนแทบจะพลิกโต๊ะ
ไป๋หลี่หยุนเยว่กล่าวว่า “ปล่อยไปเถอะ ในเมื่อหัวหน้าตระกูลมีคำสั่ง พวกเราปฏิบัติตามก็ได้แล้ว ประมูลมาถึงแปดสิบล้านตำลึงแล้ว แม้ว่าพวกเราจะประมูลต่อ เจ้าสามารถเอาเงินออกมาได้มากมายขนาดนั้นหรือ?”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หันหัวไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น มันก็ออกไปจากข้อมือของไป๋หลี่เจิ้นไป เลื้อยส่ายไปมาเข้าไปทางห้องส่วนตัวหมายเลขสาม
ไป๋หลี่เจิ้นร้อนใจ “ราชางูเหลือม…..ทำไมมันถึงได้ไปแล้วล่ะ? คงไม่ได้โกรธแล้วหรอกนะ? อาจารย์ควบคุมสัตว์ เร็ว ช่วยไปหยุดมันไว้”
อาจารย์ควบคุมสัตว์กล่าว “ราชางูเหลือมบอกว่า มันจะไปดูที่ห้องส่วนตัวหมายเลขสาม ครู่เดียวก็จะกลับมา ไม่อนุญาตให้พวกเราตามไป ไม่เช่นนั้นมันจะโกรธมาก”
ไป๋หลี่หยุนเยว่กล่าวด้วยความกังขา “ไม่ว่ายังไงก็เป็นสัตว์อสูรระดับห้า เฉลียวฉลาดเกินไปแล้ว
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ก็ไม่ดูซะบ้างว่ามันคืองูอะไร” ไป๋หลี่เจิ้นหน้าตาภาคภูมิใจ ราวกับว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ถูกตัวเองสยบแล้วเช่นนั้น
ในห้องส่วนตัวหมายเลขสาม
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โผล่หัวแล้วเลื้อยเข้ามา เตรียมจะกัดเขาอย่างรุนแรงทีหนึ่ง ทำให้เขาไม่กล้าแย่งเสนอราคากับตัวเองอีก
แต่เมื่อเห็นว่าชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือเย่จิ่งหาน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็แทบจะหงายหลังล้มไป
เป็นเป็นเป็นเป็นเขา……..
เป็นเขาได้ยังไง………
หูของเย่จิ่งหานว่องไว ความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ปิดบังเขาไปไม่ได้
พริบตาที่เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เขาก็ตกตะลึงแล้ว
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ได้พบคนบ้านเดียวกัน
จิตใจของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเย่จิ่งหานเต้นเร็วขึ้นแล้ว
โดยเฉพาะเย่จิ่งหาน
ตอนนั้นหลังจากที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไล่ตามวิญญาณดวงหนึ่งของอาหน่วนจากไป ก็ไร้ข่าวคราว ไม่กี่ปีมานี้ไม่ว่าเขาจะหาเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อย่างไรก็หาไม่พบ
มีครั้งหนึ่งที่เขายังสงสัยว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ได้หายไปจากโลกนี้แล้วหรือไม่
คิดไม่ถึงว่าจะได้มาพบมันที่นี่
มันเป็นสัตว์เลี้ยงของอาหน่วน และเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ยังมีกลิ่นอายของอาหน่วน