เวินเส้าหยีเห็นกู้ชูหน่วน เหมือนอย่างเห็นปีศาจคลานออกมาจากนรก
นางหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข แล้วก็ตบไปที่ปานดอกเหมยบนก้นของเวินเส้าหยีหลายที พร้อมพูดขึ้นว่า “แค่ล้อเจ้าเล่น ถึงแม้ข้าจะชอบผู้ชายรูปงาม แต่ก็ใช่ว่าแมวหมาที่ไหนก็เอา”
“พัฟ…..”
เวินเส้าหยีโกรธจนแน่นหน้าอก หายใจลำบาก กระอักออกมาเป็นเลือด เปื้อนเสื้อผ้าใบไม้บนตัว
“ไม่ใช่มั้ง นี่โกรธจนกระอักเลือดเลยหรือ?”
รับรู้ถึงความปั่นป่วนทางอารมณ์ จนเลือดลมพลุ่งพล่านของเขา กู้ชูหน่วนไม่กล้าพูดล้อเล่นเอง นางกลัวว่าหากล้อเล่นต่อไป ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ จะกล้ามเนื้อหัวใจตายเพราะโกรธโมโหนาง
กู้ชูหน่วนขยับตำแหน่ง ปูที่นอนบนพื้นแล้วก็นอนตะแคง หนุนแขนทั้งคู่ของตนพร้อมมองดูเขา
“เจ้าผีเสื้อ เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงบรรลุขั้นอยู่ในป่าลึกคนเดียว?”
“…”
“เจ้าจะบรรลุขั้นไปถึงระดับไหนหรือ? ระดับสอง? หรือว่าระดับสาม?”
“…”
“พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะปล่อยพวกเราไปไหม แต่ข้ายังพอมียาสมุนไพร เดี๋ยวข้าเตรียมการ พรุ่งนี้มะรืนนี้สามารถใช้ยาทำให้พวกเขาสลบ”
“ตอนนั้นข้าจะเอาเจ้าไปซ่อนไว้ในสถานที่ปลอดภัย รอเมื่อร่างกายของเจ้าหายชาแล้ว เจ้าหาโอกาสหนีออกไปเอง”
“เฮ้อ มองดูรูปร่างสมบูรณ์แบบของเจ้าแล้ว ข้าอยากที่จะทำลายวิทยายุทธของเจ้า แล้วก็ควบคุมเจ้าให้อยู่ข้างกายข้าไปตลอด”
ได้ยินว่าทำลายวิทยายุทธ เวินเส้าหยีไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ ร่างกายเยือกเย็นขึ้นมา สายตาฉายแววอาฆาต
กู้ชูหน่วนต่อไปอีกว่า “แต่ถ้าหากข้าตัดปีกทั้งสองข้างของเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตนี้เจ้าก็คงจะไม่มีความสุข ผู้ชายรูปงามเหมือนอย่างเจ้า ข้าชื่นชมอยู่ไกลๆก็พอ”
“เจ้าหน้าบางมากเลย ง่ายที่จะถูกลวนลาม ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าเคยถูกลวนลามไหม แล้วก็ถูกลวนลามไปกี่ครั้ง”
ตลอดทั้งคืน กู้ชูหน่วนล้วนพูดอยู่คนเดียว เวินเส้าหยีไม่ตอบสักคำ
แล้วกู้ชูหน่วน ก็นอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
แต่เวินเส้าหยีกลับนอนไม่หลับ
วันนี้เขาถูกเหยียดหยามอย่างอนาถมาก แต่เมื่อมองดูใบหน้าที่สะอาดและคุ้นเคยของผู้หญิงตรงหน้า ในใจเวินเส้าหยีพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง ในหัวสมองก็คิดถึงกู้ชูหน่วนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
กู้ชูหน่วน…
ผู้หญิงคนที่ ชั่วชีวิตนี้เขาไม่อยากคิดถึง
และก็เป็นผู้หญิงที่เขาเกลียดชังไปถึงกระดูก
เขาเดินทางมาไกลแสนไกล ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาถึงแคว้นน้ำแข็ง รวบรวมหน่วยย่อยเผ่าเทียนเฟิ่น เพื่อที่จะกลับไปอย่างแข็งแกร่ง ทำลายเผ่าหยก พร้อมฆ่านาง
กลับคิดไม่ถึง…..
เขายังไม่ได้ฆ่านาง
นางก็ตายไปแล้ว
ต่อให้นางตายไปแล้ว เขาก็จะขุดสุสานของนาง ทลายเถ้ากระดูกของนาง
“ซิ้ว…..”
เงาดำเงาหนึ่งบุกเข้ามา คุกเข่าตรงหน้าเวินเส้าหยี
“ข้าน้อยมีความผิด นานขนาดนี้แล้วค่อยตามมาเจอนายท่าน”
เมื่อเงาดำนั้นบุกรุกเข้ามา กู้ชูหน่วนก็รู้สึกตัวแล้ว แต่ลักษณะของคนที่มา คิดว่าอย่างน้อยก็อยู่เหนือระดับสี่ ด้วยกำลังของนางในตอนนี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา จำต้องแกล้งนอนหลับ ในมือกำผงยาพิษหนึ่งห่อไว้แน่น
“กลับไปรับโทษหนึ่งร้อยที ส่วนคนอื่นที่เหลือสามร้อยที”
“ขอบคุณนายท่าน”
เงาดำลุกขึ้นมา ก็เห็นนายท่านของตนเองสวมไว้เพียงเสื้อใบไม้ พอปกปิดร่างกายไว้ได้บ้างเท่านั้น
เขาจึงรีบถอดเสื้อผ้าของตนเอง สวมให้กับเวินเส้าหยี
“นายท่าน จะทำลายล้างทั้งหมู่บ้านและเผ่าพันธุ์ไหม?”
กู้ชูหน่วนกำฝ่ามือแน่น
ทำลายล้างทั้งหมู่บ้านและเผ่าพันธุ์?
เข่นฆ่าทั้งหมู่บ้านหรือ?
เวินเส้าหยีมองดูแสงจันทร์ที่สว่างไสวด้านนอก ในหัวสมองปรากฏภาพเมื่อตอนเผ่าเทียนเฟิ่นถูกทำลาย คนตายเป็นจำนวนมาก ศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้นดิน
พูดขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไปก่อนเถอะ”
“งั้นผู้หญิงคนนี้ล่ะ?”
“ฆ่าตายเสีย”
ประโยคที่พูดว่าฆ่าตายเสีย เยือกเย็น เรียบเฉย ไม่มีความสงสารเลยสักนิด
กู้ชูหน่วนก่นด่าสาปแช่งเขาอยู่ในใจเป็นร้อยพันรอบ
คนเนรคุณ
หากไม่ใช่เพราะนาง เขาจะสามารถมีชีวิตจนถึงตอนนี้หรือ