อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 999 ข้าไม่รู้
คนชุดดำห้าคนไม่ยินยอมที่จะละทิ้งการโจมตีและสังหารเซียวหยู่เซวียน
ทั้งห้าคนก่อกลุ่มเป็นสองแถวโดยปริยาย สามคนแถวแรกรับมือพายุเชือดเฉือนอยู่ข้างหน้า ข้างในสองแถวหาโอกาสฆ่าเซียวหยู่เซวียน
จากนั้นเรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด
พวกเขายิ่งต่อต้าน อานุภาพของพายุเชือดเฉือนก็ยิ่งรุนแรง
คนชุดดำสามคนนั้นร่างกายระเบิดโดยตรง กลายเป็นหมอกเลือด
ซี๊ด…
เห็นแบบนี้แล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจ
ไม่มีพวกเขาสามคนคอยปกป้อง อีกสองคนแบกรับภาระหนัก ถูกพายุเชือดเฉือนปาดด้วยดาบพันเล่ม
ครั้งนี้ พวกเขาเชื่อฟังแล้ว ไม่ใช้ไม้แข็งกับพายุเชือดเฉือน พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
แต่ที่นี่ไม่มีที่กำบังลมฝนเลย ไม่ว่าพวกเขาจะหลบยังไง ก็หลบไม่ได้ ทำได้เพียงกัดฟัน หาโอกาสหนีออกไปจากซากปรักหักพังโบราณ
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนถูกพายุเชือดเฉือนพัดจนลืมตาไม่ขึ้น ร่างกายเจ็บปวดจนพวกเขาแทบสลบไป
แทบจะเห็นแต่แอ่งเลือดที่น่าตกใจอยู่ไม่ไกล
คิดว่ายอดฝีมือระดับห้าสองคนนั้นถึงแม้จะจากไปแล้ว แต่ก็น่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อพวกเขาจากไป พายุเชือดเฉือนก็เปลี่ยนทิศทาง ไม่รู้ว่าพายุเชือดเฉือนถูกพวกเขาดึงดูดไปแล้วหรือเปล่า
กู้ชูหน่วนอดกลั้นความเจ็บปวด กัดฟันพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเสือน้อย นิ่งอยู่ทำไม ยังไม่รีบพาข้าออกไปจากที่นี่”
“โฮ่กๆ….”
เจ้าเสือน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดตอบรับ กลายร่างใหญ่โต พากู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนจากไปด้วยกัน
เพื่อหลบพายุเชือดเฉือน เจ้าเสือน้อยส่ายไปมา เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวา พวกกู้ชูหน่วนเดิมก็บาดเจ็บสาหัส จะทนต่อการถูกส่ายโยนแบบนี้ได้อย่างไร?
รอพวกเขาตื่นมาอีกครั้งก็อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งแล้ว ในถ้ำปลอดภัยดี พายุเชือดเฉือนพัดเข้ามาไม่ได้
เจ้าเสือน้อยเกาะอยู่ตรงหน้ากู้ชูหน่วน ค้ำยันกรงเล็บเสือน้อยสองตัวแล้วมองดูนาง
ส่วนเซียวหยู่เซวียน เพิ่งช่วยนางพันแผลเสร็จ
บนใบหน้าขาวซีดของเขา แฝงไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนที่นางมองไม่ออก
กู้ชูหน่วนเจ็บปวดจนคิ้วขมวด
เมื่อก้มมองดู บนร่างกายตนเองแทบไม่มีส่วนไหนไม่บาดเจ็บ ถูกพายุเชือดเฉือนปาดจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล
นางหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างขมขื่นว่า “เจ้าบาดเจ็บภายใน ข้าบาดเจ็บภายนอก พวกเราสองคนถือว่ากลายเป็นสหายร่วมทุกข์ร่วมยากไปแล้ว”
“คนที่พวกเขาต้องการฆ่าคือข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง”
“สหายทุกข์ยาก เป็นพี่ใหญ่จะทอดทิ้งไม่สนใจได้อย่างไร”
มือของเซียวหยู่เซวียนหยุดเคลื่อนไหว ความคิดค่อนข้างล่องลอย
กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เพียงแค่ถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “สิ่งที่ข้าอยากพูดก็คือ รู้ว่าเจ็บขนาดนี้ตั้งแต่แรก ตีให้ตายข้าก็ไม่เข้าไปช่วยเจ้า”
“พัฟ….”
เซียวหยู่เซวียนโยนเสื้อผ้าคลุมตัวนาง หันหน้าไปมองดูข้างนอกที่มืดมน
“มู่หน่วน หากเจ้าเชื่อมั่นว่าคนคนหนึ่งเป็นสหายของเจ้า เมื่อสหายของเจ้าถูกข้าล้างตระกูล เจ้าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขาไหม?”
“แน่นอน เพื่อนของข้ามีไม่เยอะ เมื่อเชื่อมั่นแล้ว ล้วนเป็นมิตรที่ใจแลกใจ”
อาจเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขา กู้ชูหน่วนจึงไม่พูดล้อเล่นอีก นางพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า
“หาก…..คนที่ฆ่าล้างตระกูลสหายของเจ้า เป็นสหายอีกคนที่เจ้าปกป้องด้วยชีวิตล่ะ?”
“นั่นก็ควรที่จะปกป้อง การถูกฆ่าล้างตระกูลสำหรับเขาจะถูกทรมานขนาดไหน”
“เมื่อสหายของเจ้าสองคนเข่นฆ่ากัน เจ้าจะช่วยใคร?” เซียวหยู่เซวียนจ้องมองดูนาง ดวงตาทั้งคู่แน่นิ่ง
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
คำถามนี้ ซับซ้อนเกินไปไหม
“ข้าไม่เคยมีประสบการณ์ ข้าจึงไม่รู้ว่าตนเองจะช่วยใคร แต่ข้าคิดว่า หากคนคนนั้นเห็นข้าเป็นสหายจริงๆ ก็จะไม่ไปฆ่าล้างตระกูลสหายของข้า”