อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 1071 รังแกกันมากเกินไปแล้ว

บทที่ 1071 รังแกกันมากเกินไปแล้ว

นางตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล กลายเป็นคุณหนูสามของตระกูลมู่อย่างอธิบายไม่ได้ ทั้งยังมีท่านพ่อที่รักและเอ็นดูนางอีกผู้หนึ่ง

แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นความแปลกหน้า แปลกหน้าซะจนราวกับว่านางเพียงแค่ยืมใช้ร่างกายของคุณหนูสามตระกูลมู่เท่านั้น แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ตระกูลมู่ล้วนปฏิบัติต่อนางอย่างสุดหัวใจ

รวมทั้งอารองและอาสามของนางที่จับจ้องนางมาโดยตลอด

วันนั้นขณะที่นางถูกคนทั้งโลกหล้ารุมประณาม เจ้าบ้านรองและเจ้าบ้านสามก็พยายามปกป้องนาง โดยไม่สนใจอะไรเลย

สถานการณ์ความรู้สึกที่แท้จริงสามารถเห็นได้ในยามลำบากเท่านั้น

ในขณะนั้น กำแพงใจในของนางที่มีต่อเจ้าบ้านรองและเจ้าบ้านสามเพิ่งจะถูกทำลายลง ยังไม่ทันได้พูดจาดีๆกับพวกเขา พวกเขาก็ถูกฆ่าปาดคอแล้ว

ท่านปู่ของนางก็คือเจ้าบ้านมู่ แม้ว่าจะไม่ได้ยืนออกมาปกป้องนาง แต่นางรู้ดี เจ้าบ้านมู่เป็นหัวหน้าแห่งตระกูล เขาจำเป็นต้องแบกรับชีวิตความเป็นตายของทุกคนในตระกูลมู่ หากว่าทำได้ เขาก็จะปกป้องนางเช่นกัน

ท่านพ่อของนางก็ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงแล้ว

ความรักที่เขามีต่อนางนั้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ มาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตเหมือนยังคงเป็นเมื่อวาน แต่ตอนนี้ทั่วทั้งตระกูลมู่นอกจากเลือดแล้วก็คือซากศพ

เลือดหยดในหัวใจของกู้ชูหน่วน

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้าใจถึงรสชาติของความเจ็บปวดใจว่าเป็นเช่นไรหลังจากที่ฟื้นขึ้น

ทันใดนั้นลูกศิษย์ของพรรคไห่เทียนก็ปรากฏตัวขึ้น เห็นการตายของเจ้าบ้านมู่ แต่ละคนล้วนตกใจจนสีหน้าซีดเผือด

“นังปีศาจ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวของตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะใช้วิธีที่อำมหิตขนาดนี้ฆ่าล้างคนในครอบครัวของตัวเอง เจ้ามันคลั่งจนเสียสติไปแล้วจริงๆ”

“หึ เป็นเช่นนี้ก็ดี ตระกูลมู่แต่ละคนล้วนเป็นปีศาจ ควรจะตายไปตั้งนานแล้ว พวกเราจะได้ไม่ต้องลงมือ”

“นังปีศาจอยู่นี่ พวกเรามาฆ่านางพร้อมกัน ขจัดหายนะให้โลกซะ”

พวกเขาทุกคนกวัดแกว่งมีด เหยียบย่ำไปบนศพเลือดเนื้อและกระดูกของตระกูลมู่

ตระกูลมู่ถูกฆ่าล้างตระกูล ทั้งยังเป็นวิธีที่อำมหิตเพียงนี้อีก กู้ชูหน่วนที่มีความไฟโทสะเต็มท้องอยู่แล้วในเดิมที ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาไม่มีความเคารพต่อผู้ตายเช่นนี้ ความเดือดดาลจึงพรั่งพรูออกมา

สีหน้าของนางดุร้าย ริมฝีปากบางๆเม้มไว้สนิท แย่งมีดในมือของลูกศิษย์คนหนึ่งในนั้นมา เมื่อมือยกขึ้นดาบก็ฟาดลงไปอย่างไร้ความปรานี

ทุกดาบที่เข้าไป ล้วนเป็นหนึ่งชีวิต

เงาร่างเพรียวบางอรชรพุ่งพรวดไปมาอยู่ท่ามกลางเหล่าลูกศิษย์หลายสิบคน แม้ว่าจะถูกล้อม ก็ไม่ได้มีท่าทีจะพ่ายแพ้ใดๆ กลับยังฆ่าจนลูกศิษย์เหล่านั้นมือเท้าสั่นไม่หยุด

“ใครเป็นคนสังหารคนทั้งของตระกูลมู่ของพวกข้า พูด……”

ดาบเล่มหนึ่งของกู้ชูหน่วนปาดไปที่คอของลูกศิษย์คนหนึ่ง ตะคอกขึ้นด้วยความโกรธแค้น

ท่าทางที่โหดร้ายเช่นนั้น ทำให้ลูกศิษย์ที่เหลือกลัวจนไม่กล้าก้าวขึ้นไปด้านหน้า

“นังปีศาจ เจ้าฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า ประมุขพรรคของเราจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป”

“คนทั้งโลกจะไม่ปล่อยเจ้าไป”

“ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้า พวกเจ้าปล่อยข้าแล้วงั้นหรือ? ปล่อยคนในครอบครัวของข้าไปแล้วงั้นหรือ? ข้าจะถามอีกครั้ง เป็นใครที่มาฆ่าล้างตระกูลมู่ของข้า?”

“คนทั้งตระกูลมู่ล้วนสมควรตาย”

ประโยคเดียวกระตุ้นให้กู้ชูหน่วนเดือดดาลโดยสมบูรณ์แล้ว

ใบหน้าของนางเย็นชา ร่างกายกลายเป็นห่านป่าที่โบยบินด้วยความตกใจ สังหารพวกเขาทั้งหมดไปโดยตรง

“ติ๋ง……”

มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากปลายดาบ

เลือดในห้องลับไหลนองเป็นแม่น้ำ ศพแต่ละศพปะปนอยู่ด้วยกัน

ลูกศิษย์จากพรรคอื่นๆก็ถูกดึงดูดเข้ามาเช่นกัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากทางการด้วย

“นังปีศาจ เจ้ากล้าฆ่าคน รับความตายไปซะเถอะ ให้คนมา ยิงธนู”

คำว่ายิงธนูคำหนึ่ง นักธนูหลายสิบคนล้วนโก่งคันธนู ฝนธนูเนืองแน่นดั่งฝนดาวตกยิงไปทางกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนพลิกดาบยาวทันที ทำให้ธนูที่ยิงเข้ามาทั้งมดแยกออก

มีธนูมากเกินไป นางใช้ดาบยาวค่อนข้างเปลืองแรง กู้ชูหน่วนหมุนร่างกายอย่างสวยงามปลดเสื้อคลุมของนางออก เอากำลังภายในไปไว้บนเสื้อคลุม

เสื้อคลุมเป็นเหมือนกำแพงเหล็ก ดาบธนูฟันแทงไม่เข้า ลูกธนูที่ยิงเข้ามาไม่เพียงแค่ถูกนางแยกออกจากกันเท่านั้น กระทั่งยังถูกยิงสะท้อนกลับไปอีก นักธนูเหล่านั้นที่ตายก็ตาย ที่บาดเจ็บก็บาดเจ็บ

แทบจะในเวลาเดียวกัน ประมุขของพรรคใหญ่ๆไม่กี่พรรคบางพรรคก็ฟาดฝ่ามือลงไปอย่างรุนแรง บ้างก็ใช้ค้อนตีลงไปอย่างรุนแรง บ้างก็ใช้อาวุธลับโจมตีไปที่ดวงตาและเบื้องล่างของนาง

ใบหน้าอันเย็นชาของกู้ชูหน่วนตั้งตรง รับมือกับสงครามอย่างเคร่งขรึม

นอกจวนมู่

เซียวหยู่เซวียนที่ได้รับบาดเจ็บมา

มองเห็นจวนมู่มีแสงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากที่ไกลๆ กลิ่นคาวเลือดอบอวลไปทั่วทั้งถนนของพระนคร

ฝีเท้าของเขาโซเซทันที

ภาพของตระกูลเซียวที่ถูกเข่นฆ่าล้างตระกูลในอดีตท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจของเขาอีกครั้ง

ตอนนั้นที่ตระกูลเซียวถูกฆ่าล้างตระกูล กลิ่นคาวเลือดก็รุนแรงเช่นนี้

เขาสาวเท้าก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว วิ่งพุ่งไปทางตระกูลมู่ด้วยความรวดเร็ว

ระหว่างทางมีคนที่สกัดกั้นซุ่มโจมตีอยู่

ดวงตาทั้งสองข้างของเซียวหยู่เซวียนหรี่ลงเล็กน้อย ปลายเท้าเกี่ยว เกี่ยวเป็นหอกเงินขึ้นมา เปลี่ยนเป็นเทพแห่งการสังหารผู้หนึ่ง ตลอดทางที่ผ่าน คนที่สกัดกั้นซุ่มโจมตีต่างทยอยถูกปลิดชีพไปเหมือนดั่งถูกเครื่องหั่นเช่นนั้น

ซากศพร่วงหล่นเต็มพื้น กลิ่นคาวเลือดเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีก

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่วิทยายุทธของเขาแข็งแกร่งมาก แม้ว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะเป็นประมุขพรรค ก็ไม่มีทางขวางกั้นเขาไว้ได้ เพียงแค่เข้าไปก็จะต้องได้รับความตายเท่านั้น

การต่อสู้อย่างบ้าคลั่งชนิดนี้ ทำเอาผู้คนอดเหน็บหนาวขึ้นมาในหัวใจไม่ได้

“ยัยอัปลักษณ์ รอข้า เจ้าจะเกิดเรื่องไม่ได้”

เซียวหยู่เซวียนแทบอยากจะมีปีกบินเข้าไป

แต่บังเอิญคนเหล่านี้ก็ขวางกั้นเขาไว้อยู่ตลอด

เขาเสียกู้ชูหน่วนไปแล้ว เสียทั้งตระกูลเซียวไปแล้ว

ไม่อยากเสียมู่หน่วนไปอีกครั้ง

“เซียวหยู่เซวียน นังปีศาจนั่นฆ่าผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วน ในมือมีวิชามนต์ดำ หากว่าเจ้ากล้าช่วยนาง เจ้าก็จะเป็นศัตรูกับทุกพรรคในแคว้นปิงของพวกเรา”

“หากว่านางตาย ข้าไม่เพียงแต่จะให้พวกเจ้าตายไปพร้อมกับนาง ข้ายังจะเอาทั้งแคว้นปิงเซ่นไหว้ไปให้นางด้วย”

“วาจาเจ้าสามหาวยิ่งนัก เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นระดับห้าก็จะทำอะไรตามใจได้ และเป็นศัตรูกับทั่วทั้งโลกหล้าได้เช่นนั้นหรือ?”

คิดไม่ถึงว่าศักยภาพของเซียวหยู่เซวียนจะเป็นระดับห้า เหนือความคาดหมายของทุกคนจริงๆ

แต่สี่ตระกูลใหญ่ก็ล้วนมีคนที่อยู่ระดับห้าเช่นกัน เพียงแค่พวกเขาออกมา ยังจะกลัวที่จะจับเซียวหยู่เซวียนไม่ได้อีกหรือไง

ยิ่งไปกว่านั้นเซียวหยู่เซวียนมีบาดแผลนับไม่ถ้วน ขนาดจะยืนก็ยังยืนไม่ตรง พวกเขายังจะกลัวอะไรอีก

เมื่อเห็นเซียวหยู่เซวียนยิ้มเยาะ ไม่ได้เห็นพวกเขาในสายตาโดยสิ้นเชิง

หัวโจกของพรรคไม่กี่พรรคต่างตะโกนว่า “เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุกคนมาฆ่าเขาพร้อมกัน”

“กึก” เสียงหนึ่ง ร่างของเซียวหยู่เซวียนก็กลายเป็นธนูขนนก มาถึงเบื้องหน้าของเขาในพริบตา บิดคอของเขา คนที่รุมโจมตีก็ถูกเขาใช้หอกเงินกวาดไป บาดเจ็บล้มตายทั้งผืน

“วุ่นวาย”

เซียวหยู่เซวียนพ่นประโยคออกมาซอกฟัน สังหารเป็นเส้นทางเลือดต่อไป พุ่งไปทางจวนมู่

สิบกว่าวันก่อน เขาถูกคนของเวินเส้าหยีไล่ฆ่า แทบจะต้องทิ้งชีวิตไป

สิบกว่าวันนั้น เข้าต้องใช้ชีวิตอยู่ในภูเขารกร้าง

ไม่ง่ายกว่าจะลงเขามาได้ กลับได้รับรู้ว่ามู่หน่วนถูกพรรคต่างๆทั่วโลกรุมประณาม

เขาคาดเดาได้ว่ามู่หน่วนจะต้องกลับมาที่จวนมู่รอบหนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้เสี่ยงอันตรายในการเปิดโปงตัวตนของเองเพื่อมาที่จวนมู่

คิดไม่ถึงว่าอยู่ไกลๆก็สามารถได้กลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรงแล้ว

ในที่สุด……

เขาก็พุ่งสังหารเข้ามาในจวนมู่แล้ว

สิ่งแรกที่ได้เห็นเมื่อเข้าไปก็คือศพที่มีอยู่เต็มพื้น

ศพเหล่านั้นทั้งหมดล้วนเป็นคนตระกูลมู่

มีเจ้าบ้านรอง เจ้าบ้านสาม ลูกพี่ลูกน้องของมู่หน่วน

ยังมี……ศพของมู่ซินที่อยู่ด้านข้างอีกด้วย

ก่อนที่มู่ซินจะเสียชีวิตได้เผชิญกับความทรมานอย่างโหดเหี้ยม เป็นการตายทั้งเป็น

แล้วมองไปกู้ชูหน่วนอีกครั้ง ทั้งร่างกายของนางอาบไปด้วยเลือด กำลังฆ่าฟันอยู่ ด้านข้างเป็นลูกศิษย์ของแต่ละพรรค รวมทั้งศพของเจ้าหน้าที่ทหารด้วย

เซียวหยู่เซวียนไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนต่อสู้กับพวกเขามานานแค่ไหน แต่รู้เพียงว่านางตอบโต้กลับดั่งเครื่องจักร ร่างกายถูกแทงทะลุนับไม่ถ้วน แต่นางกลับไม่รู้ เพียงแค่กัดฟันต่อสู้อย่างลำบาก ราวกับว่าถ้าไม่ฆ่าพวกเขาให้หมด ก็จะไม่หยุด

นอกวงการต่อสู้ พรรคใหญ่แต่ละพรรครวมทั้งตระกูลใหญ่ไม่กี่ตระกูลล้วนเฝ้ามองดูอยู่ด้านข้าง

เซียวหยู่เซวียนตะโกนอย่างเฉียบขาดคำหนึ่ง “รังแกกันมากเกินไปแล้ว”

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท