ฉือเฟยหยู! เจ้าเฒ่านี่ทำไมจึงทำเรื่องไร้ยางอายได้ปานนี้!
ท่ามกลางการต่อสู้อันดุดันนั้นเฟิงซวนยี่ก็ได้หันมาร้องด่าอย่างสุดกำลัง
เดิมทีแล้วตอนที่ฉือเฟยหยูนั้นคิดเล่นงานเย่หยวนเขายังพอทนรับได้เพราะมันไม่ได้ลงมือใดๆ ร้ายแรงหรือทำเรื่องเสียดายแก่นิกาย
แต่เวลานี้ในวินาทีที่นิกายกำลังเผชิญหายนะตัวเขานั้นกลับมีความคิดชั่วร้ายอย่างไร้ยางอายถึงที่สุด
เฟิงซวนยี่ หากเจ้าอยากหาเรื่องตายก็ตายไปคนเดียวเถอะ ข้าฉือเฟยหยูจะไม่ขอตายที่นี่!
ฉือเฟยหยูหัวเราะลั่นก่อนจะยกมือขึ้นเตรียมกระแทกใส่เย่หยวน
แต่ในเวลานั้นเองที่สีหน้าของเขาต้องเปลี่ยนสีไปเพราะรู้สึกได้ว่าปราณเทวะในร่างกายนั้นมันกลับติดขัดจนขยับไม่ได้
ค่ายกลร้อยพิษ!
เวลานี้มันผ่านมาได้กว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนใช้มันออกมาต่อหน้าผู้คนเป็นครั้งแรกและแน่นอนว่าพลังของค่ายกลร้อยพิษที่เขาใช้ออกมาในครั้งนี้มันย่อมจะรุนแรงกว่าครั้งก่อนอย่างไม่อาจเทียบเคียง!
เย่หยวนนั้นเปิดแผ่นหยกของจงเจียนโชวออกมาได้และย่อมจะได้พบเจอวิธีการใช้งานพิษต่างๆ มากมายภายในทำให้เย่หยวนได้เรียนรู้อย่างมากมายมหาศาล
พิษเหล่านั้นมันถูกเย่หยวนนำมาปรับใช้ในค่ายกลร้อยพิษทำให้พลังของมันพัฒนาขึ้นไปอย่างน่าเหลือเชื่อ!
เวลานี้แม้แต่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเองก็ยังต้องเสียท่า!
หวงฟู่หยุนซือที่ได้เห็นเช่นนั้นกลับไม่ได้คิดตกใจใดๆ เพราะเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนสามารถใช้วิชาเช่นนี้ได้
ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่พลาดเมื่อตอนนั้น
พลังของค่ายกลร้อยพิษมันพัฒนาขึ้นมาอีกครั้งแล้ว! แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงขั้นสังหารยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้แต่มันก็มากพอจะหยุดพวกเขาลงราวห้าอึดใจ! หวงฟู่หยุนซือกล่าวขึ้นมาอย่างชื่นชม
ตอนที่เย่หยวนอยู่ในมหารัฐเมฆรุ้งนั้นเขาใช้ค่ายกลร้อยพิษนี้ออกมาแต่มันหยุดเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายได้เพียงแค่ไม่ถึงอึดใจ
แต่เวลานี้มันกลับรุนแรงมากกว่าเก่าไปหลายเท่าตัว!
ระหว่างที่หวงฟู่หยุนซือกำลังมองดูเรื่องราวด้วยความชื่นชมนั้นเย่หยวนก็ปล่อยคลื่นพลังรุนแรงขึ้นมาจากร่างกาย
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏก้อนหินหนึ่งขึ้นมาในมือของเขา
หวงฟู่หยุนซือนั้นต้องเบิกตากว้างจ้องมองมันอย่างตกตะลึง สมบัติวิญญาณสวรรค์!
ก้อนหินนั้นมันย่อมจะเป็นเขาแห่งถงเทียนที่ย่อขนาดลงแล้ว
เวลานี้เย่หยวนย่อมจะไม่คิดปกปิดใดๆ อีกต่อไป
ฉือเฟยหยูนั้นคิดสังหารเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เวลานี้ยังกลับมาคิดทรยศหักหลังนิกายตน เย่หยวนย่อมจะไม่คิดยั้งมืออีก
ค่ายกลร้อยพิษนั้นมันหยุดฉือเฟยหยูลงได้แค่ราวสามถึงห้าอึดใจ แต่มันก็มากพอจะเปิดช่องให้เย่หยวนลงมือแล้ว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังจากเขาแห่งถงเทียน ฉือเฟยหยูก็ต้องเบิกตาค้างขึ้น
มีหรือที่เขาจะคิดฝันว่าเย่หยวนมียอดอาวุธเช่นนี้ติดตัวอยู่?
เย่หยวนนั้นไม่คิดรอช้ารีบยกฝ่ามือใช้งานเขาแห่งถงเทียนพุ่งเข้ากระแทกร่างของฉือเฟยหยูที่ยืนค้างทันที!
พลังของเขาแห่งถงเทียนนั้นมันดูจะเหนือล้ำกว่าหอกศึกสวรรค์สังหารเสียด้วยซ้ำ
แม้ว่าเย่หยวนจะไม่อาจดึงพลังของมันออกมาใช้ได้เต็มที่แต่การจะโจมตีฉือเฟยหยูที่ไม่อาจป้องกันตัวให้บาดเจ็บหนักนั้นมันก็ไม่ยากเกินมือ!
ตูม!
ฉือเฟยหยูรับมันเข้ากลางอกจนลอยลิ่วออกไปกระอักเลือดเต็มหน้าตน
หากมิใช่เพราะพลังบ่มเพาะของเขานั้นสูงส่งเขาคงไม่อาจจะรอดชีวิตจากการโจมตีนี้ได้แน่แล้ว
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บหนักรู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในปั่นป่วนสิ้น
แต่เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดปล่อยเขาไป เวลาที่เหลือนั้นมันมากพอจะให้เย่หยวนลงมือโจมตีอีกครั้ง!
อ-อย่านะ! ผู้อาวุโสเย่ ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปจริงๆ
ฉือเฟยหยูนั้นหวาดกลัวเพราะสัมผัสได้ถึงกลิ่นแห่งความตายที่กำลังมาเยือน
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจและลงมือต่อไปทันที
ตูม!
กระแทกเข้าอีกครั้ง!
หน้าอกของฉือเฟยหยูนั้นยุบลงไปทันที
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งกลับโจมตียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกจนบาดเจ็บสาหัส!
ภาพนี้มันเหนือล้ำความเข้าใจเกินไป!
อย่าว่าแต่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนเดียวเช่นนี้ ต่อให้จะมีนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่เป็นพันๆ มันก็คงไม่มีทางจะเอาชนะยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกลงได้!
ช่องว่างของชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่และชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นมันยิ่งใหญ่มากล้ำ
แต่เย่หยวนกลับโจมตีฉือเฟยอยู่จนบาดเจ็บปางตาย!
ฉือเฟยหยูได้ร้องกล่าวขอชีวิตแต่เย่หยวนกลับไม่คิดจะแสดงความเมตตาใดๆ ออกมา
เพราะอาการบาดเจ็บหนักนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉือเฟยหยูขับพิษออกไปจากร่างได้ช้าลงกว่าเก่ามาก
นั่นจึงเปิดโอกาสให้เย่หยวนได้โจมตีอีกครั้ง!
รู้จักร้องขอชีวิตด้วยหรือ? ปกติแล้วชอบเดินชี้หน้าด่าเหยียบหัวข้านักมิใช่หรือ? ไม่ต้องไปมองมันหรอก เจ้าคิดว่าเวลานี้แล้วพันธมิตรโอสถมันยังจะคิดสนใจมาช่วยเหลือเจ้า? ผู้อาวุโสฉือ เจ้ามีสมองบ้างหรือไม่? เย่หยวนกล่าวขึ้น
ฉือเฟยหยูนั้นหันไปมองหวงฟู่หยุนซือด้วยสายตาอ้อนวอนแต่อีกฝ่ายนั้นกลับไม่คิดสนใจใดๆ
เย่หยวนนั้นย่อมจะเข้าใจถึงเป้าหมายของหวงฟู่หยุนซือเป็นอย่างดี
ฉือเฟยหยูนั้นเป็นอะไรไม่ได้มากกว่าเครื่องมือที่หวงฟู่หยุนซือใช้ทดสอบเย่หยวน
เวลานี้เมื่อเย่หยวนแสดงไม้ตายออกมาแล้วหวงฟู่หยุนซือเองก็ย่อมจะบรรลุเป้าหมาย
ฉือเฟยหยูเองก็ไม่มีค่าใดอีกต่อไป
ตายก็ปล่อยตายไป!
ท่าทางของหวงฟู่หยุนซือนั้นมันทำให้ฉือเฟยหยูสิ้นหวัง
หากเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้แล้วเขาคงยอมเสี่ยงตายสู้ศัตรูไปดีกว่า!
ผู้อาวุโสเย่ ข้าผิดไปแล้ว! มันเป็นความผิดของข้าเอง ปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าจะไปสู้กับพวกพันธมิตรโอสถให้มันรู้แล้วรู้รอดเอง! ฉือเฟยหยูนั้นกล่าวขึ้นมา
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจ ไม่ต้อง สภาพเจ้าเป็นเช่นนี้แล้วสู้กับใครคงไม่ได้ ขาดเจ้าไปไม่เป็นปัญหาใดๆ หรอก ข้าจะขอส่งเจ้าล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน แต่จงวิ่งให้เร็วเล่าไม่เช่นนี้หากคนนิกายเราไปเจอเจ้าเข้าเจ้าคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่!
ตูม!
พูดไปเย่หยวนก็ยกเขาแห่งถงเทียนขึ้นและโจมตีลงกลางอกของฉือเฟยหยูอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันเป็นการโจมตีต่อเนื่องกว่าสิบครั้งจนทำให้ฉือเฟยหยูตายสนิทลง
ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกลับตายลงง่ายๆ เช่นนี้!
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ผู้นี้มันช่างเก่งกาจนัก!
แต่ในเวลานั้นเองที่หวงฟู่หยุนซือต้องผงะก่อนจะพุ่งตัวออกไป!
เขานั้นยื่นมือไปแตะอากาศรอบๆ ตัวคนของตัวเองก่อนที่อากาศทั้งหลายนั้นมันจะเกิดความสั่นไหวขึ้น!
เพียงแค่ว่ามันสายเกินไปแล้ว!
เวลานี้นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำและชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่อันมากมายของทางพันธมิตรโอสถตายตกลงพร้อมๆ กัน
หวงฟู่หยุนซือหันกลับมามองด้วยสายตาดำมืด เจ้าเด็กคนนี้มันฉลาดเสียจริง! นี่มันคือการใช้ค่ายกลร้อยพิษซ่อนไว้ในพลังแห่งกฎห้วงมิติทำให้ไม่อาจจะสัมผัสได้ ต่อให้จะเป็นข้าคนนี้เองก็ยังถูกเจ้าหลอกเข้าจนได้! แต่ตอนนี้เจ้าทำมันไม่ได้แล้ว!
ที่แท้แล้วตอนที่เย่หยวนกำลังสังหารฉือเฟยหยูอยู่นั้นเขาก็ได้ค่อยๆ สร้างค่ายกลร้อยพิษขึ้นมาและขยับย้ายมันไปผ่านกฎแห่งห้วงมิติ
ค่ายกลร้อยพิษนั้นมันไร้สีไร้กลิ่นไม่อาจสัมผัสได้ทำให้ยากแก่การตรวจสอบ
แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของหวงฟู่หยุนซือไปได้
เพียงแค่ว่าเขานั้นเองก็ตกตะลึงกับการที่เย่หยวนสังหารฉือเฟยหยูลงไม่น้อยทำให้เขาไม่ทันได้มองมัน
แม้ว่าเขาระวังค่ายกลร้อยพิษของเย่หยวนมาตลอดแต่สุดท้ายเขาก็ยังปล่อยให้เย่หยวนทำได้สำเร็จ
เย่หยวนตอบกลับไป อ่า เช่นนั้นหรือ? ค่ายกลร้อยพิษ ขยาย!
เย่หยวนชี้นิ้วขึ้นฟ้าไปอย่างที่ไม่อาจจะมีใครเข้าใจได้
เพราะว่าจุดที่เย่หยวนชี้ไปนั้นมันไม่มีอะไรอยู่เลยแม้แต่น้อย
ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่สีหน้าของหวงฟู่หยุนซือกลับเปลี่ยนสีไป!
เพราะว่าเขานั้นสัมผัสได้ว่าค่ายกลร้อยพิษนั้นมันขยายแผ่ตัวออกไปจนกลายเป็นมหาค่ายกลที่แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ที่สำคัญไปกว่านั้นค่ายกลย่อยๆ แต่ละจุดนั้นมันยังใช้พลังของกฎแห่งห้วงมิติในการหลบซ่อนไว้ด้วย
ค่ายกลย่อยๆ ทั้งหลายนั้นมันย่อมจะไม่ได้มีพลังเหนือล้ำเหมือนค่ายกลที่เย่หยวนสร้างขึ้นมารอบๆ ตัวทำให้มันไม่ส่งผลถึงเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลาย
แต่สำหรับนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำลงไปแล้วมันย่อมจะเป็นพิษร้าย!
เวลานี้จู่ๆ มันก็มีเหล่าคนของฝ่ายพันธมิตรโอสถตกร่วงลงไปนอนกองกับพื้นอีกชุดใหญ่!
พวกเจ้าจะยังยืนงงอะไรกันอีก? ทุกคนจงฟัง! จงฝ่าวงล้อมออกไปเสีย! หลังจากที่ออกจากแนวเทือกเขาไปได้แล้วก็จงแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง! จำไว้ว่าอย่าได้หยุดเท้าลง! ตราบเท่าที่ขุนเขายังเขียวขจีมันก็ย่อมจะยังมีที่ให้เราอยู่อาศัย! เย่หยวนกล่าวขึ้นมาอย่างสุดเสียงจนดังลั่นสะท้านไปทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น