ใบหน้าของสาวน้อยมืดลง ปู่ของเธอจะมีโอกาสรอดเพียงสิบเปอร์เซ็นในโรงพยาบาล เธอจะเสี่ยงได้ยังไง? เธอจ้องที่แดร์ริล จากนั้นก็เข้าไปหาปู่ของเธอแล้วเตรียมตัวตามที่แดร์ริลแนะนำ
ในตอนนั้น อีวอนดึงแขนของเธอเพื่อหยุด เธอหันไปหาแดร์ริลแล้วถาม “แดร์ริล คุณมั่นใจเหรอ? นี่มันเป็นเรื่องความเป็นความตายนะ” อีวอนกังวลอย่างมาก
แดร์ริลหัวเราะ เขากล่าว “มันจะเรียบร้อย ผลจากวิธีของผมนั้นดีกว่าผลลัพธ์จากโรงพยาบาลมาก”
สาวน้อยปีนไปข้าง ๆ ปู่ของเธอ เธอกดจุดชีพจรวิญญาณจากมือซ้าย และมือขวานั้น เธอก็ทำแบบเดียวกันที่จุดทางเดินชีพจร ในเวลาเดียวกัน เธอก็โคจรพลังภายในแล้วพยายามผลักดันพิษออก
ฝูงชนเงียบสนิท แต่ผู้บ่มเพาะมากมายส่ายหัวของพวกเขาด้วยความไม่เห็นด้วย พวกเขาคิดว่าแดร์ริลนั้นเพ้อเจ้อทั้งเพ! พวกเขาเห็นด้วยกับสาวน้อย การกดจุดชีพจรทั้งสองนั้นเป็นข้อต้องห้ามใหญ่ หากไม่เรียบร้อย มันอาจทำให้ตายได้ ทั้งสองจุดสำคัญนั้นไม่ควรแตะต้องหากไม่ต้องการที่จะตาย!
คนที่กังวลที่สุดในห้องดูจะเป็นแซ็ค หัวใจของเขาเหมือนจะระเบิด หากชายชราไม่ถูกรักษา ไม่ใช่แค่เขาที่จะแย่ แต่ทั้งตระกูลของเขาจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน เขาพบว่ามันแปลกที่เม็ดโอสถแบบนั้นอันตรายนัก
เขากำหมัดแน่น ภาวนาอย่างเงียบงันให้ชายชราตื่นขึ้นมา ไม่มีทางอื่นแล้ว—เขามีโอกาสรอดน้อยกว่าสิบเปอร์เซ็นด้วยซ้ำหากไปโรงพยาบาลตอนนี้ วิธีของแดร์ริลเป็นวิธีเดียวที่จะคืนชีพให้ชายชรา
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง สีสันบนใบหน้าของชายชราเริ่มกลับมา การหายใจจองเขาเริ่มกลับมานิ่ง
เหล่าผู้บ่มเพาะอ้าปากค้าง—มันได้ผล?
ถึงแม้ชายชราจะยังไม่ตื่น แต่ก็ดูเหมือนอันตรายจะผ่านไปแล้ว สาวน้อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอเดินไปหาแดร์ริลแล้วพยักหน้า “ขอบคุณ ฉันขอรู้ชื่อคุณได้ไหม?” ถึงแม้แดร์ริลจะช่วยชีวิตปู่เธอไว้ และเธอเองก็ขอบคุณเขาเรื่องนี้มาก แต่น้ำเสียงของเธอยังคงเย็นยะเยือกเหมือนเดิม มันคือความหยิ่งยโสที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกดำของเธอ
“เหอะ เขามันโชคดีมาก! ช่วยชีวิตคนได้จากการเดาสุ่มและความผิดพลาด!” ทริสตันเย้ย
แด๊กซ์—ผู้ซึ่งเงียบมาได้พักใหญ่—ทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาตะโกนด้วยความโกรธ “-ึงจะจบได้รึยัง บ้ารึเปล่า? ชายชราถูกช่วยไว้ได้ แต่แกยังบ่นติเตียนไร้สาระอยู่ได้ ไสหัวออกไป แกมันน่ารำคาญ!”
แด๊กซ์รู้สึกว่าทริสตันนั้นเหมือนแมลงวันที่ส่งเสียงหึ่ง ๆ น่ารำคาญ ทริสตันเดือดพล่านด้วยโทสะ เขาตอบ “แกเรียกใครบ้านะ!” เขายังไม่ได้เอาคืนหมัดของแด๊กซ์ที่ชกเขาก่อนหน้านี้เลย
แด๊กซ์ไม่พูดพร่ำ เขาตวัดมัดพับออกมาแล้วเข้าหาทริสตัน
แนนซี่ ภรรยาของเขาห้ามเขาไว้ เธอกล่าว “ที่รัก อย่าโมโหสิ ใจเย็น ๆ ลงก่อนนะ” แนนซี่รู้จักความอารมณ์ร้อนของแด๊กซ์ดี หากเขาไม่เห็นด้วยกับใคร เขาจะใช้มีดข่มขู่พวกเขา ถึงไม่เป็นแบบนั้น หากแด๊กซ์ไม่โหดมากพอ เขาคงไม่มีทางครองฐานะนี้ได้อย่างมั่นคงแน่นอน
“โอเค ก็ได้ แกระวังตัวไว้แล้วกัน แก ระวังตัวไว้…” ทริสตันกลัวแทบตาย เขาสูญเสียความร้ายกาจในน้ำเสียงไปแล้ว
พยานในเหตการณ์อย่างแดร์ริลหัวเราะออกมาแต่ไม่ได้กล่าวอะไร
แซ็คเข้าไปหาแดร์ริลแล้วกล่าว “น้องชาย ผมต้องขอบคุณคุณมาก ผมชื่อแซ็ค โรเจอร์ ต้องขอบคุณคุณที่ทำให้เราไม่พบเจอหายนะครั้งนี้”
แซ็คยื่นมือออกไปหาแดร์ริล แล้วกล่าว “หากคุณไม่รังเกียจ เรามาเป็นเพื่อนกันได้ไหม? เรียกผมแซ็คได้เลย”
“แน่นอน” แดร์ริลตอบแล้วจับมือของเขาอย่างมั่นคง แดร์ริลและแซ็คสนิทกันในทันที เขารู้สึกว่าแซ็คเป็นชายที่พกความจริงใจไว้กับตัว
แดร์ริลไม่ปกปิดความสงสัยของเขาอีก เขาถาม “แซ็ค คุณปู่และหลานสาวสองคนนี้เป็นใคร? ทำไมนาย หลังจากเห็นป้ายของเธอ…”