ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “แค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ทั้งยังเป็นแค่มนุษย์! นายน้อยผู้นี้สามารถจะสังหารมันได้ด้วยมือข้างเดียวด้วยซ้ำ! น้องจิงเฟยกล่าวล้อเล่นมากเกินไปแล้ว!”
แต่เมื่อหันไปหาจิงเฟยนั้นเขากลับแสดงน้ำเสียงที่อ่อนน้อมออกมาไม่น้อย
“พี่รุ่ยเฉิน จิงเฟยไม่ได้กล่าวล้อเล่น พี่เย่หยวนนั้นเก่งกาจมากจริงเก่งมากๆ ท่านเอาชนะเขาไม่ได้หรอก!” จิงเฟยกล่าวขึ้นมา
ท่าทางไร้เดียงสานั้นมันได้ทำลายความมั่นหน้าของรุ่ยเฉินลงสิ้นเชิง
รุ่ยเฉินคนนี้เป็นใคร?
เขานั้นเองก็มาจากราชวงศ์แห่งทะเลเมือกสงัด ร่างกายของเขานั้นเป็นปลาหมึกยักษ์มีสถานะสูงส่งในทะเล พลังสายเลือดของเขานั้นมันไม่ได้ด้อยกว่าเผ่ามังกรเสียด้วยซ้ำไป!
แต่วันนี้เขากลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งมากล่าวดูถูกต่อหน้าคน!
รุ่ยเฉินนั้นไม่อาจจะทนรับไว้ได้อีกต่อไปต้องลุกขึ้นเดินเข้ามาหาเย่หยวนพร้อมหัวเราะ “มนุษย์ชั้นต่ำ เจ้ากล้ารับคำท้าของนายน้อยผู้นี้หรือไม่? หากเจ้าไม่กล้าก็ไสหัวกลับขึ้นฝั่งไปเสีย!”
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหนื่อยใจตอบกลับไป “ข้าปฏิเสธได้หรือไม่?”
เขานั้นย่อมจะไม่ได้กลัวเกรงใดๆ เพียงแค่ว่าเขานั้นเหนื่อยที่จะต้องไปสร้างเรื่องราวใหญ่โต
ชายหนุ่มคนนี้ดูอย่างไรก็เป็นคนที่คิดหลงตัวเองอย่างมากล้น
คนเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีค่าให้เย่หยวนต้องลดตัวไปสุงสิงด้วย
แต่รุ่ยเฉินนั้นกลับไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เย่หยวนได้ปฏิเสธและกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าเจ้าปฏิเสธได้แต่เจ้าต้องคลานลอดขาข้าไปก่อน!”
“ฮ่าๆๆ ไปๆ ลอดขารุ่ยเฉินมันให้จบๆ เสียเถอะ!”
“วางใจเถอะ บุตรมังกรผู้นี้จะเป็นคนยืนยันให้เอง! หากทำแล้วมันยังคิดหาเรื่องเจ้าอีกบุตรมังกรผู้นี้จะจัดการมันลงให้เอง!”
“มาสิ คุกเข่ามุดไปเร็ว!”
…
คำพูดของรุ่ยเฉินนั้นมันทำให้เกิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากทุกทิศทางขึ้นมาตาม
ดูท่าแล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลัวเกรง
คำพูดขององค์หญิงน้อยนั้นมันไม่อาจจะเชื่อถือได้
เพราะเด็กคนนี้แทบจะไม่เคยพูดอะไรที่เป็นจริงเป็นจังเลย
ที่สำคัญไปกว่านั้นมนุษย์มันคงไม่มีทางจะปรับตัวเข้ากับบรรยากาศใต้มหาสมุทรได้ง่ายๆ
เย่หยวนที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา เขานั้นไม่อยากจะก่อเรื่องแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขากลัวที่จะก่อ
“ทำไมเล่า? ดูหน้าเจ้าแล้วเหมือนเจ้าจะไม่ยอมรับ? เจ้าคิดหรือว่าแค่น้องจิงเฟยเรียกเจ้าว่าเป็นพี่แล้วเจ้าจะมีสถานะเทียบเคียงพวกข้าทั้งหลายได้? เจ้ามันก็แค่มนุษย์อันต่ำต้อยเท่านั้น!” รุ่ยเฉินนั้นยิ้มเย้ยขึ้นมาพร้อมกล่าว
เย่หยวนเองก็ยิ้มตอบกลับไปก่อนจะปล่อยปราณดาบออกมาทันที
ฟุบ!
รุ่ยเฉินนั้นผงะไปทันทีที่สัมผัสได้เพราะเขานั้นสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่เข้ามาเยือน
ฟุบ!
พริบตาเดียวนั้นรุ่ยเฉินก็ได้กลับร่างเดิมและพ่นหมึกดำออกมาเป็นวงกว้าง
เวลานี้แทบทั้งห้องมันได้กลายเป็นสีดำมืด
จากนั้นหนวดทั้งแปดมันก็พุ่งผ่านความมืดเข้ามาโจมตีเย่หยวนในทันที
แต่ว่าเย่หยวนก็ไม่คิดอะไรมากมายแค่ใช้พลังของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบออกมาสองใบพุ่งโจมตีกลับออกไป
“ทลายลง!”
เย่หยวนร้องสั่งก่อนที่มิติสีดำมืดนั้นมันจะถูกพังทลายลงไปจริงๆ!
รุ่ยเฉินนั้นกระอักเลือดออกมาในทันทีก่อนจะพุ่งลอยไปกระแทกเข้ากับผนังของโถง
หนวดทั้งแปดของเขานั้นมันถูกตัดขาดออกสิ้น!
ไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรอีก
เพราะตั้งแต่ที่เย่หยวนโจมตีรุ่ยเฉินจนไปถึงตอนที่รุ่ยเฉินถูกกระแทกจนลอยปลิวไปนั้นมันเป็นเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที
หรือก็คือรุ่ยเฉินนั้นไม่อาจจะรับมือเย่หยวนได้แม้แต่กระบวนท่า!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังยืนอยู่กับที่และใช้มือแค่ข้างเดียว!
เย่หยวนหันไปมองรุ่ยเฉินที่นอนกองอยู่บนพื้นก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เจ้าคิดจะจัดการข้าด้วยมือข้างเดียวมิใช่หรือ? เวลานี้เจ้าใช้แปดมือแต่ข้านั้น…ใช้แค่มือเดียว!”
รุ่ยเฉินนั้นนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมชักกระตุกแต่ไม่นานหนวดทั้งแปดของเขามันก็ค่อยๆ งอกกลับออกมาก่อนที่เขาจะค่อยๆ คืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง
แต่ใบหน้าของเขาในตอนนี้มันกลับเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว “เจ้าชั่ว เจ้าลอบโจมตีข้า!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อ่า นับเป็นการลอบโจมตีหรือ? เช่นนั้นมาประลองกับอย่างตรงไปตรงมาอีกครั้งดีหรือไม่เล่า? คราวนี้ใครที่พ่ายแพ้ต้องมุดลอดขาคนที่ชนะจริงๆ แล้ว?”
รุ่ยเฉินนั้นได้แต่ต้องผงะไปเมื่อได้ยิน ตอนนี้เขาไม่กล้าจะเถียงใดๆ กลับไปแล้ว
เพราะคำพูดที่เขากล่าวนั้นมันก็แค่ข้ออ้างรักษาหน้า แค่ดาบที่เย่หยวนใช้โจมตีออกมาทีแรกนั้นมันก็ชัดเจนแล้วว่าเย่หยวนเก่งกาจกว่าเขาไปไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า!
หมึกดำของเขานั้นมันคงเรียกได้ว่าเป็นไม้ตายแต่กลับถูกเย่หยวนทำลายลงในพริบตา
ช่องว่างระหว่างคนทั้งสองนั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินกว่าจะหาอะไรมาทับถมได้!
“ไอ้เด็กมนุษย์คนนี้มันกลับเป็นยอดฝีมือผู้แปลงยอดเต๋า!”
“รุ่ยเฉินนั้นกลับไม่อาจจะทนรับมือได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!”
“เท่านี้รุ่ยเฉินก็เสียหน้ายิ่งใหญ่แล้ว! เขากลับแพ้ให้มนุษย์เสียได้!”
…
เป็นตอนนี้เองที่เหล่ายอดฝีมือหนุ่มสาวทั้งหลายกลับมาตั้งสติได้อีกครั้งและต่างต้องร่ำร้องขึ้นมาอย่างตกตะลึง
พวกเขานั้นได้พบแล้วว่าเด็กมนุษย์คนนี้มันกลับแข็งแกร่งจริงๆ!
แม้แต่ตัวราชามังกรน้ำดำเองก็ยังต้องเบิกตากว้างขึ้นมา
มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่าลูกสาวตัวน้อยกำลังคิดอะไรอยู่? เพียงแค่ว่าเขาไม่คิดจะหยุดห้ามมัน
เขาเองนั้นก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่ามนุษย์ที่หยุดทัพทะเลลงได้มันจะเก่งกาจแค่ไหน
แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ทำให้เขาผิดหวังแล้ว!
เย่หยวนนั้นมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันไปมาก!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเห็นได้ชัดเจนว่าจากแปลงยอดเต๋ารูปแบบต้นไม้ของเย่หยวนนั้นมันมีใบอยู่บนต้นถึงแปดใบ
แต่เย่หยวนใช้ออกมาแค่สอง!
หมายความว่าเย่หยวนนั้นยังแทบไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย!
เจ้าเด็กคนนี้มันไม่ธรรมดา!
เย่หยวนนั้นหันไปมองหน้าคนทั้งหลายก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ที่ข้าปฏิเสธไปก่อนหน้านั้นมันมิใช่เพราะว่าข้ากลัวแต่มันเป็นเพราะว่าข้าไม่อยากลดตัวไปสู้กับมัน ที่จิงเฟยบอกว่าข้านั้นเก่งกาจกว่าพวกเจ้าทั้งหลายนั้นดูพวกเจ้าจะไม่ค่อยเชื่อกันแต่ในเมื่อข้าลงมือแล้วเย่ผู้นี้ก็จะบอกให้ว่าที่นางกล่าวมานั้นมันคือความจริง! ด้วยความเคารพ แต่พวกเจ้าทั้งหลายนั้น…มันเป็นได้แค่ขยะต่อหน้าข้า!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาเหล่านายน้อยทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาตามๆ กัน
เจ้าเด็กคนนี้มัน มันกลับกล้าจะดูถูกพวกเขาทั้งหมด!
“ฮ่าๆ หลงตัวเองเสียจริง! เจ้าคิดว่าแค่เอาชนะรุ่ยเฉินได้นั้นเจ้าจะมีสิทธิมาวางตัวใหญ่โตในงานนี้หรือ?”
“เด็กน้อย เจ้าอย่าได้หลงตัวเองจนเกินไป!”
“พี่มู่เฉิน เจ้าเด็กคนนี้มันกล้าว่าแม้แต่ท่าน ท่านจะรับมันไปเช่นนี้หรือ?”
…
ฝีมือของเย่หยวนนั้นมันทำให้หลายต่อหลายคนต้องตกตะลึง
พวกเขานั้นย่อมจะไม่กล้าออกมาท้าทายเย่หยวนอีก แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครเก่งกาจกว่าเย่หยวนในงานนี้
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมันมีบางคนที่มีพลังบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นกลางแล้วเสียด้วยซ้ำ
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังมีหลายคนที่พลังสายเลือดรุนแรงจนไม่คิดจะกลัวเย่หยวนใดๆ ด้วย
ในเวลานี้เองคนที่ชื่อว่ามู่เฉินนั้นก็ได้ก้าวขึ้นมา
“เด็กน้อย เจ้าคิดว่ามีแค่ตัวเจ้าหรือที่แปลงยอดเต๋าได้? เผ่าทะเลของพวกข้านั้นมันมิใช่ที่ที่มนุษย์อย่างเจ้าจะมาอวดอ้างตัวเองได้! บุตรมังกรผู้นี้จะขอท้าทายเจ้าแล้ว!” มู่เฉินนั้นกล่าวขึ้นมา
มู่เฉินนั้นเองก็มีพลังสายเลือดมังกรเช่นกันแต่เขานั้นเป็นคนของเผ่ามังกรขด
กำลังของเขานั้นเป็นอันดับต้นๆ ของคนในที่แห่งนี้เลยก็ว่าได้
เพราะว่าตัวมู่เฉินนั้นเองก็เป็นยอดฝีมือผู้แปลงยอดเต๋าได้เช่นกัน
แต่ว่ามีหรือที่เย่หยวนจะกลัว?
“อ่า? จะอวดอ้างได้หรือไม่นั้น มันไม่ต้องใช้ปากพิสูจน์!” เย่หยวนตอบกลับไป
จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาเปลี่ยนใบไม้เป็นดาบแสงสองเล่มพุ่งเข้าไปโจมตีมู่เฉินทันที
มู่เฉินนั้นหัวเราะตอบกลับมาวินาทีเดียวกันนั้นมันก็ได้ปรากฏโซ่เส้นหนึ่งขึ้นมาในมือเขา
โซ่เส้นนี้มันปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้จิตใจของผู้คนสั่นสะเทือนเพราะมันเป็นโซ่ที่แปลงขึ้นมาจากพลังสายฟ้า!
โซ่สายฟ้า!
มู่เฉินนั้นขยับโซ่เบาๆ ก่อนที่จะปัดดาบทั้งสองเล่มของเย่หยวนทิ้งไปทันที
พลังบ่มเพาะของเขานั้นจะอย่างไรมันก็สูงกว่าเย่หยวนทั้งเขายังเป็นยอดฝีมือผู้แปลงยอดเต๋าได้เช่นกัน การคิดจะปัดป้องดาบแสงทั้งสองนี้มันจึงง่ายดายยิ่งนัก
จากนั้นเขาก็ได้เหวี่ยงโซ่ของตัวเองเข้าไปพันรอบกายเย่หยวนไว้ทันที
….