เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 28 ก็ทักษะเดียวน่ะสิ

บทที่ 28 ก็ทักษะเดียวน่ะสิ

“ในที่สุดแกก็มาสินะ”

คืนหนึ่ง ณ ลานกว้างในเมืองอันไร้ซึ่งผู้คนแห่งหนึ่ง มีเพียงไฟถนนที่อยู่รอบๆ เท่านั้นที่ยังส่องแสงสลัวให้พอมองเห็นได้บ้าง

ฉีเทากล่าวขึ้น เขายืนอยู่กลางลานกว้าง ก่อนจะโยนผู้หญิงคนหนึ่งในอ้อมแขนของเขาลงแปลงดอกไม้ที่อยู่ไกลออกไป แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

อัศวิน A ยืนอยู่ตรงข้ามเขา

“ให้ฉันเดาก่อนว่าใครเป็นคนจ้างแกมาแก้แค้นฉัน เศรษฐีขี้ขลาดหน้าใหม่ที่สลบไปจากการโจมตีของฉันเพียงไม่กี่ครั้งคนนั้นเหรอ? หรือเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลฉี ฉีเย่ว์ที่คิดว่าฉันจะแย่งชิงตำแหน่งของเขา หรือคนใหญ่คนโตสักคนที่ฉันแผลงฤทธิ์เอาแต่ใจแล้วไปแหย่เข้า? หรือว่าอัศวิน A อย่างนายได้รับข้อมูลว่าเมื่อก่อนฉันดูถูกชายรังแกหญิง กระทั่งนำคนเป็นๆ ให้ปู่ของฉันทำการทดลองฝังเข็มเพื่อเพิ่มกำลังภายใน จึงมาที่นี่เพื่อผดุงคุณธรรม?”

ฉีเทาหน้านิ่งและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ ไม่หลงเหลือความหยิ่งผยองและสุขุมอย่างในงานเลี้ยงก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย

ภายในพื้นที่ระบบ

ฟางหนิง “เจ้านกโง่ตัวนี้ดูเหมือนจะตั้งใจตกปลาเลยนะ? ก่อนหน้านี้ยังจงใจเยาะเย้ยฉันอยู่เลย แล้วจุดประสงค์แท้จริงของเขาคืออะไรล่ะ?”

ระบบตอบกลับ “ไม่รู้”

ฟางหนิงเอ่ย “เป็นไปได้ไหมที่จะคล้ายฉัน ที่ได้รับพลังจากการฆ่าผู้แข็งแกร่ง หรืออย่างอื่น?”

ระบบตอบ “ดูเหมือนว่าใช่”

ฟางหนิงพูด “แล้วแกยังมั่นใจอยู่ไหม?”

ระบบตอบกลับ “จะใช้ทักษะเดียวเหมือนเดิม”

ฟางหนิงว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปเล่นต่อนะ…”

ระบบรับคำ “ขอให้สนุก แต่ถ้าระบบเรียกหา โฮสต์ต้องปรากฏตัวทันที”

ฉีเทาเห็นว่าหลังจากอัศวิน A ได้ยินสิ่งที่เขาพูดแล้ว ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ และมีสีหน้าเหมือนเดิม

เขาส่ายหัวเล็กน้อย “ไม่ดีเลย ฉันไม่ชอบเหยื่อที่ตายโดยไม่แสดงสีหน้า มันไม่สนุก จริงๆ นะ ฉันจะบอกให้ มันไม่สนุกเลย แกต้องเป็นเหมือนพวกเขาสิ…”

ทันทีที่เขาพูดจบ จู่ๆ ก็ทำการแยกร่าง เพียงพริบตาก็มีร่างแยกอีกสองร่างปรากฏออกมาจากร่างของฉีเทา!

จากนั้นคนสองคนก็กระโดดออกมาจากแปลงดอกไม้ที่อยู่ไกลออกไป พร้อมดึงชายสองคนในชุดสูทออกมาด้วย แล้วเหวี่ยงพวกเขากระแทกกับพื้นอย่างแรง ‘ตู้ม’

ชายทั้งสองกุมปากพร้อมส่งเสียงไอ ‘แค่กๆ ‘ อยู่หลายครั้ง และเมื่อมองไปที่มืออีกรอบ ก็พบว่ามันเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าจึงถอดสีทันที

“ดูสิ ต้องสีหน้าหวาดกลัวแบบนี้ของพวกเขาต่างหากถึงจะสนุก เฮ้อ เห็นไหม มนุษย์เป็นของเล่นที่น่าสนใจมากแค่ไหน ความดีใจ ความโกรธ ความเศร้าโศก และความสุข เปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้าได้ในชั่วพริบตาเดียว มันช่างน่าสนุกจริงๆ!”

ฉีเทาแหงนหน้ามองฟ้า ราวกับว่าเขากำลังดูดบางอย่าง แล้วแสดงสีหน้าเพลิดเพลิน

“เฮ้ พวกแกสองคน พวกแกคงเป็นคนของเฟิงเหนี่ยวสินะ ใครเป็นคนจ้างพวกแกมา?”

“เราไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณ เราเป็นแค่สายลับ ไม่ได้รับภารกิจใดๆ แค่มาเพื่อรวบรวมข้อมูลนิดหน่อยเท่านั้น” หนึ่งในชายสองคนนั้นเอ่ยปากขึ้น เขารู้สึกถึงความน่ากลัวของชายผู้นี้แล้ว

“เหอะๆ ถ้าพวกแกเป็นศัตรูล่ะก็ จะยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ?” ฉีเทาพูดโดยไม่แม้แต่จะหันมองพวกเขา

“การแสดงของฉันต้องการผู้ชม ดังนั้นพวกแกโชคดีมาก ที่จะยังไม่ตายในตอนนี้…” เขาพูดพลางมองไปยังอัศวิน A

“โอ้ แข็งแรงจริงๆ เลยนา…แต่น่าเสียดาย ทำไมแกถึงไม่กลัวเลย เพราะแกคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากพอล่ะสิ? จริงด้วย ฉันเคยฆ่าคนมาไม่น้อย และฉันถือว่าแกเป็นผู้แข็งแกร่งในหมู่มนุษย์ แต่ฉันชอบที่จะเห็นความโกรธของคนแข็งแกร่งเสียด้วยสิ คนแข็งแกร่งหลายคนที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งนั้นก็ไม่รู้สึกกลัวในตอนแรกเหมือนกัน พวกเขาจะโมโหก่อน จากนั้นเมื่อพบว่าตัวเองไร้พลังต่อสู้แล้ว ความหวาดหวั่นก็จะก่อตัวขึ้น ร้องไห้สะอึกสะอื้น และอ้อนวอนให้ฉันปล่อยพวกเขาไป แกไม่กลัวใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันจะเรียกคนออกมามากกว่านี้ แกจะได้รู้จักกลัวบ้าง…”

ฉีเทาพูดด้วยรอยยิ้ม จู่ๆ ก็มีผู้คนหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาเป็นจำนวนมาก ในหมู่พวกเขามีทั้งชายและหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แม้แต่เด็กทารก… แต่ทุกคนล้วนดูเฉื่อยชา ซึมกะทื่อไร้ความรู้สึก และลอยอยู่กลางอากาศ โดยล้อมรอบฟางหนิงและสายลับเฟิงเหนี่ยวทั้งสองไว้ตรงกลาง…

สายลับทั้งสองของเฟิงเหนี่ยวต่างกลัวจนตัวแข็งทื่อไปหมดแล้ว พวกเขารู้ว่าตัวเองได้พบกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติในองค์กรที่มีระดับแรงค์ D ขึ้นไป หรือเหตุการณ์ผิดปกติธรรมดา เหตุการณ์ระดับนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยพลังทางกายภาพเช่นปืนและกังฟูได้ แต่จำเป็นต้องจัดการด้วยพลังลี้ลับ

“ซวยแล้ว A32 พวกเราจะตายในภารกิจแรกเลยเหรอ?” สายลับ A กอดคู่หูของตัวเอง

“อย่ากลัวไปเลย อย่างน้อยก็มีคนที่ต้องตายก่อนเรา” สายลับ B กอดคู่หูกลับ

“นายทำให้ฉันกลัวกว่าเดิม…” สายลับ A เกือบจะร้องไห้

อัศวิน A ยังคงสีหน้านิ่งเฉยและเงียบสงบซึ่งนั่น ‘ดูเสแสร้งมาก’

“ไม่สนุกเลย แกยังไม่กลัวอีกเหรอ?” ฉีเทาส่ายหัว และดูเหลือเชื่อเล็กน้อย

ความจริงแล้ว ฟางหนิงผู้ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของอัศวิน A ก็รู้สึกหวาดกลัวไม่ต่างไปจากสายลับทั้งสอง สิ่งเดียวที่แตกต่างกันก็คือ เขามีที่ซ่อนที่ปลอดภัย แต่สายลับทั้งสองทำได้แค่ยืนกอดกัน

ถึงแม้ว่าเมื่อครู่นี้เขากำลังเล่นเกมอยู่ในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่สภาพแวดล้อมภายนอกยังคงส่งเสียงน่ากลัวตลอดเวลาและใบหน้าผีที่คลุมเครือก็ปรากฏขึ้นมาในสมองของเขา

เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ฟางหนิงหวาดกลัวจนยอมวางเกมลง และวิ่งเข้าไปหลบในร้านตีเหล็กใกล้ๆ “ฉันแทบจะร้องไห้แล้ว เทพแห่งระบบ ที่นี่น่าจะมีคนเป็นๆ แค่สี่คน และมีนายคนเดียวที่ไม่รู้จักคำว่ากลัว เพราะฉะนั้นอย่ามัวยืนทื่ออยู่เลย รีบแสดงพลังสิ แล้วจัดการปีศาจตัวนี้สักทีเถอะ!”

ระบบตอบกลับ “คอยอีกสักนิดเถอะ ดูว่ามันจะแสดงพลังอะไรออกมาอีก ระบบจะได้ประเมินความแรงโดยประมาณของศัตรูเหล่านี้ได้ถูก ยังไงซะก็ใช้แค่ทักษะเดียวอยู่แล้ว”

ฟางหนิงพูด “ถ้าอย่างนั้นแกอย่าตายกลางคันแล้วกัน ฉันไม่มีวิธีรับมือกับผีพวกนี้หรอกนะ”

ระบบ “ตกลง ถ้าอย่างนั้นระบบจะลงมือเลย”

หลังจากที่ระบบพูดจบ อัศวิน A ก็เคลื่อนไหวทันที เขาลอยตัวขึ้น และใช้ฝ่ามือตบไปที่ร่างของฉีเทา!

ฉีเทานั้นดูเหมือนจะประเมินความเร็วของอัศวิน A ต่ำไป จึงไม่ได้ทำการหลบหนี แต่ร่างของเขาสลายตัวแตกเป็นฟองพร้อมกับเสียงดัง “ปัง”

“ฮ่าๆ ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ !” เสียงของเขาดังมาจากทุกสารทิศ

“ฉันซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางวิญญาณเหล่านี้ แกหาฉันสิ ถ้าแกหาร่างจริงของฉันไม่เจอ ต่อให้แกมีทักษะล้ำลึกแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์!”

ฉีเทายิ้ม เขาอดหัวเราะไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งมากเท่าไรที่ตายกับทักษะเรียบง่ายแต่ยากที่จะอ่านออกของเขา!

อัศวิน A คนนี้แข็งแกร่งจริงๆ เขาเพิ่งจะเคยเห็นความเร็วในการโจมตีระยะประชิดเมื่อครู่ เกรงว่าในบรรดาผู้แข็งแกร่งที่เขาพบเจอมาทั้งหมด จะไม่มีใครสามารถหลบหลีกการโจมตีนั้นได้

น่าเสียดายที่อีกฝ่ายต้องเสียแรงเปล่าแล้ว!

อัศวิน A ถูกกำหนดให้ไม่สามารถค้นร่างจริงของเขาเจอ เพราะฉะนั้นแล้วเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายกจะถดถอยลงเรื่อยๆ จนหมดแรงไปในที่สุด และถูกฉีเทาสังหาร!

ถึงเวลานั้นเขาก็จะได้รับวิญญาณที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกตน

ฟางหนิง “ไอ้ระบบ แกพ่ายแพ้กลางคันแล้ว แกบอกว่าจะใช้แค่ทักษะเดียว…”

จากนั้นเขาก็มองร่างกายของตัวเองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของระบบ เขาไม่ได้ชักฝ่ามือกลับ แต่ยังคงวาดวงกลมในอากาศแล้วผลักออกไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นฟางหนิงก็ได้ยินเสียงมังกรคำราม…

ทันใดนั้น มังกรเพลิงลำตัวเพรียวบางและทรงพลังก็ปรากฏออกมาจากวงกลมที่เขาวาด แล้วกระแทกเข้าที่อกของวิญญาณร้ายตัวหนึ่งท่ามกลางกลุ่มวิญญาณเหล่านั้น! จากนั้นมังกรก็หมุนวนและพุ่งเข้าไปทั้งตัว!

กลุ่มวิญญาณพลันสลายไป แววตาของวิญญาณร้ายตัวนั้นก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ตามด้วยความหวาดกลัว สิ้นหวัง และความเหลือเชื่อ…

ร่างของฉีเทาค่อยๆ ปรากฏให้เห็น “นี่มันเป็นไปไม่ได้! ทำไมแกถึงหาร่างจริงของฉันได้ง่ายดายแบบนี้! ทำไมการสับเปลี่ยนร่างของฉันถึงไม่ทำงาน! ฉันจะไม่ตายที่นี่ มันเคยบอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครฆ่าฉันได้!”

เขาฝืนพูดจนจบ จากนั้นร่างกายของเขาก็พองตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็ระเบิดกระจัดกระจาย ‘ตู้ม!’ เลือดที่ไหลไม่รู้จบ เศษกระดูก และเศษผ้ากระจัดกระจายไปทั่วลานกว้าง

ลานกว้างคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

ฟางหนิงคิดในใจ ‘แกเปลี่ยนสีจากแดงเป็นม่วงซะขนาดนั้น แม้แต่คืนที่มืดมิดก็ไม่สามารถซ่อนตัวตนของแกจากแผนที่ระบบได้ มันแปลกตรงไหนที่ระบบจะค้นเจอร่างจริงของแก?’

ระบบแจ้งเตือน: ระบบได้ทำการโจมตีผู้คุมวิญญาณฉีเทาอัตโนมัติ

ระบบได้ใช้ทักษะลับ ‘เสียงคำรามมังกรเพลิงสวรรค์’ ซึ่งได้ใช้สล็อตความโกรธระดับสาม

ระบบโจมตีร่างจริงของฉีเทา ฉีเทาถูกโจมตีโดยพลังหยางและถูกปราบด้วยพลังมังกร ทักษะติดตัว ‘สับเปลี่ยนร่าง’ ของฉีเทาดำเนินการล้มเหลว

ระเบิดพลังโจมตี! ละเว้นการป้องกัน! บดขยี้โจมตี!

ผู้คุมวิญญาณฉีเทาได้รับความเสียหาย 1,800 หน่วย

ผู้คุมวิญญาณฉีเทาเสียชีวิต

ระบบได้รับค่าประสบการณ์ 75,000 คะแนน ระบบได้รับการอัปเกรด และตอนนี้อยู่ที่ระดับ 11…

ระบบได้รับค่าพลังปราณจำนวนมาก สล็อตพลังปราณระดับแรกเต็ม

ระบบว่าต่อ “ใช้แค่ทักษะเดียว”

ฟางหนิงพูด “แกไม่จำเป็นต้องอธิบายความเจ๋งของตัวเอง…แย่แล้ว!”

ระบบ “เขายังไม่ตายเหรอ?!”

ฟางหนิง “ไม่ ฉันหมายถึง แกทุบเขาเละซะไม่เป็นชิ้นดีแบบนี้ กรงเล็บเมฆามังกรบินที่เราใช้จัดการปีศาจไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว เราสูญเสียรายได้ไป…”

ฟางหนิงเพิ่งพูดจบ ก็เห็นระบบกำลังควบคุมร่างกายของเขา และเดินไปหาสายลับของเฟิงเหนี่ยวทั้งสองที่รอดชีวิตมาได้

“ท่านจอมยุทธ์ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเรา” สายลับ A และสายลับ B คำนับคุกเข่าเอาหัวโขกพื้นไม่หยุด

ซึ่งต่างจากการเผชิญหน้ากับฉีเทา พวกเขาไม่รู้สึกกลัวอัศวิน A ที่จัดการฉีเทาจนเละไม่เป็นชิ้นเลย เพราะคนของเฟิงเหนี่ยวทุกคนต่างรู้ดีว่า อัศวิน A ไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์เลยสักครั้ง

พวกเขาเพิ่งเข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ และมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยกระทำความผิดใดมาก่อน ทั้งสองกำลังคิดว่า ‘ที่อัศวิน A คนนี้เดินเข้ามาหานั้น แค่ต้องการมาปลอบทั้งสองคนแล้วปล่อยพวกเขาไปสินะ?

อัศวิน A “ไปหาดูรอบๆ แล้วเก็บของที่หล่นจากคนคนนั้นมาให้ฉัน…”

สายลับทั้งสองตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยืนขึ้นและมองไปรอบๆ ‘ลานกว้างขนาดนี้ ชิ้นส่วนของฉีเทาก็กระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งแล้วน่ะสิ จะเจออะไรได้ล่ะ?’

ทั้งสองมองหน้ากัน หยิบไฟฉายที่พกติดตัวออกมาแล้วก้มหน้าค้นหาอย่างระมัดระวัง แรกเริ่มพวกเขาแสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่หลังจากหาไปครู่หนึ่ง ก็แทนที่ด้วยความซาบซึ้ง อัศวิน A ผู้นี้แข็งแกร่งกว่าฉีเทาร้อยเท่า โชคดีที่เขาเป็นคนดี…

แต่เมื่อเห็นท่าทีหนักแน่นของจอมยุทธ์ พวกเขาก็หน้าถอดสี เห็นทีว่าถ้าคืนนี้ไม่เจออะไรดีๆ ล่ะก็ คงไม่ได้ไปไหนแน่นอน…

……………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท