เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 99 หลังจากนี้ข้าจะตั้งใจฝึกฝนวิถีแห่งเซียน

บทที่ 99 หลังจากนี้ข้าจะตั้งใจฝึกฝนวิถีแห่งเซียน

บทที่ 99 หลังจากนี้ข้าจะตั้งใจฝึกฝนวิถีแห่งเซียน
ฟางหนิงมั่นใจว่าเทพแห่งระบบจะกินพลังของอีกฝ่ายเข้าไปแน่นอน แต่เมื่อเขาเปิดคอมพิวเตอร์และพบโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า ‘เครื่องกำเนิดความโกรธ’ เขียนอยู่เขาก็รู้สึกว่าเขาอาจไม่ได้กินพลังงานของอีกฝ่าย

นี่ก็เป็นเวลาสามเดือนแล้วหลังจากอ่านข้อความสีเขียว คาดว่าต่อจากนี้ไปรสนิยมในการอ่านนิยายของเขาอาจจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันสินะ…

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหนิงก็เหลือบมองฝูงแมลงด้านล่างจากมุมมองของระบบ มันหนาแน่นจนมองไม่เห็นสิ่งอื่น พลุ่งพล่านไปทุกหนทุกแห่ง แต่ไม่กล้าจะก้าวเข้าใกล้ลูกกรงที่สร้างด้วยพลังแห่งความโกรธของปราณมังกร

จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ “ระบบ ขอถามอะไรหน่อยสิ แมลงพวกนี้กลัวไฟไหม?”

ระบบ “ไร้สาระ โฮสต์กำลังอ่านนิยายอยู่ก็จริง แต่ไม่ได้สังเกตเหรอว่ามีซากต่อจำนวนมากที่ถูกเผาตายระหว่างทางมาที่นี่น่ะ? นั่นน่าจะเป็นฝีมือของหน่วยกิจการพิเศษท้องถิ่น”

ฟางหนิง “ถ้าอย่างนั้นฉันมีวิธีฆ่าปีศาจที่ทั้งประหยัดแรงและมีประสิทธิภาพแล้ว แกอยากจะฟังไหม”?”

ระบบ “ไม่ฟัง เดี๋ยวเสียเวลา ระบบจะเริ่มกำจัดปีศาจแล้ว”

ฟางหนิงได้ยินแบบนั้นก็สวนกลับทันที “เดี๋ยวสิ แกน่าจะสามารถควบคุมค่ายกลนี้ให้เล็กลงได้นี่ ลองคิดดู ถ้าค่อยๆ ปิดค่ายกล ต่อพวกนั้นก็จะไม่กล้าโจมตีลูกกรงของมังกร และเมื่อมันมารวมตัวกันในพื้นที่เล็กๆ ท้ายที่สุดเราก็จะเทน้ำมันลงไปแล้วเผาซะ แบบนี้ไม่ดีเหรอ…”

ระบบ “ไม่ได้ ซากต่อเหล่านี้เป็นวัสดุทางการแพทย์ชั้นดี ถ้าพวกมันถูกเผาทั้งหมดจะเป็นยังไงล่ะ? นอกจากนี้เมื่อย่อขนาดค่ายกลแล้ว โฮสต์คิดว่ามันไม่ต้องใช้พลังเหรอ? อย่าพูดเหลวไหล รีบๆ อ่านนิยายแล้วเพิ่มระดับความโกรธเถอะ คราวนี้อยากฟังเพลงแนวไหน? ระบบจะตามใจโฮสต์”

ฟางหนิงกุมหัว เขาอยากจะบ้าตาย “ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้นแหละ…ปีศาจสังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ฉันต้องรื้อฟื้นความทรงจำอันเจ็บปวดเหล่านั้นอีก พวกเขาต้องตายก็เพื่อฉัน!”

ระบบแจ้งเตือน โฮสต์เข้าสู่สถานะ ‘ความโกรธทะยานสูง’ แล้ว มาตรวัดความโกรธทั้งหมดจะเต็มทันทีหลังจากบริโภคความโกรธ

ระบบ “ดี รักษาสถานะนี้ไว้ ระบบเลือกเพลงที่เหมาะกับฉากนี้ได้แล้ว และจะเปิดให้โฮสต์ฟัง…”

เพลงขึ้น “XXXXXXXXX…”

ฟางหนิง “ให้ตายเถอะ นี่แกไปขุดเพลงนี้มาจากบ่อไหนเนี่ย? เชยสะบัดเลย!”

ระบบแจ้งเตือน สถานะความโกรธของโฮสต์เปลี่ยนเป็น ‘ความโกรธบ้าระห่ำ’ เอฟเฟกต์เพิ่มเติม จำนวนช่องความโกรธชั่วคราวทั้งหมดคูณสอง เพิ่มจำนวนช่องความโกรธชั่วคราวเป็น 18 ช่อง

…………

ณ ศูนย์บัญชาการลับ

จู่ๆ ก็มีเพลงแบ็คกราวด์ออกมาจากลำโพงข้างๆ หน้าจอใหญ่ เสียงนั้นดังจนทุกคนสะดุ้ง

บางคนมองหน้ากันแล้วก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เคยเห็นฉากการต่อสู้ของอัศวิน A

ตอนนั้นใครบางคนก็พูดขึ้นมาเบาๆ “ลืมเตือนทุกคนไปเลยว่าอัศวิน A เป็นผู้ชายที่ชอบนำ BGM ของตัวเองมาเปิด…”

“แต่วันนี้เพลงดูแปลกๆ นะ…”

เซวียเฟิงไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา เขาเพียงแค่อุดหูตนเองไว้แล้วโบกมือไปมา

ทันใดนั้นเสียงก็เงียบลงและทุกคนก็กลับไปทำงานตามปกติ

จากนั้นฉากแห่งนรกก็ฉายขึ้นบนหน้าจอใหญ่:

เปลวเพลิงไม่มีที่สิ้นสุดลุกโชนขึ้นทุกหนแห่งในพื้นที่ค่ายกล จากนั้นลมก็หวีดหวิว พัดเปลวไฟและพุ่งเข้าหาฝูงต่อยักษ์ ต่อยักษ์ถูกย่างจนมีเสียงดัง ‘เปาะแปะ’ แล้วร่วงหล่นจากอากาศเข้าไปในกองเพลิง

ต่อยักษ์บินไปรอบๆ ด้วยความตระหนก จากนั้นอีกฝ่ายก็พบกับจุดจบของนรก ไม่มีความดุร้ายที่ทำลายล้างกลืนกินผู้คนอีกต่อไปแล้ว…

ไร้เสียงพูดคุยที่ศูนย์บัญชาการ มีแต่ท่าทางตกใจกับพลังของอัศวิน A การดูรีเพลย์จากวิดีโอนั้นแตกต่างจากการรับชมการถ่ายทอดสดมาก

เปลวเพลิงเหล่านั้น ทั้งลมกระโชกล้วนแสดงให้เห็นถึงโลกใหม่ที่สามารถบรรลุได้ด้วยกำลังส่วนบุคคล…

ใช้เวลาไม่นานนักในการรับมือกับต่อยักษ์

พวกมันรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ทีละแถวๆ เหมือนทหารที่เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่สุดแล้วพ่นพิษอย่างสิ้นหวังผ่านเข็มพิษทางหาง

ต่อขนาดเท่านกกระจอกสามารถพ่นพิษได้ในปริมาณที่จำกัด แต่การที่ต่อนับพันตัวพ่นรวมกันนั้นช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ชั่วขณะหนึ่งในพื้นที่ของค่ายกลราวกับฝนตกลงมาและเปลวเพลิงที่ไร้รากฐานเหล่านั้นก็มอดลง

ในใจของทุกคนรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาในทันที หากอัศวิน A ทนไม่ไหว สถานการณ์อาจจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ซับซ้อน ปีศาจแมลงจะรักษาคำพูดได้จริงเหรอ? ใครจะเชื่อมันได้กันล่ะ?

ผ่านไปครู่หนึ่ง ไฟแห่งนรกก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้งทั้งยังโหมแรงยิ่งขึ้น หลังจากเห็นฉากนี้ทุกคนก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย

…………

ระบบแจ้งเตือน ระบบใช้ช่องความโกรธทั้งหมด 18 ช่องเพื่อร่ายสกิลลับ ‘นรกปราณมังกร’ คุณสมบัติกระบวนท่าปัจจุบันคือลมและไฟ โฮสต์อยู่ในสถานะ ‘ความโกรธบ้าระห่ำ’ และช่องความโกรธทั้งหมดก็เต็มแล้ว

ต่อยักษ์กลายพันธุ์ถูกโจมตีโดยลมและไฟซ้อนทับกัน เสริมด้วยพลังมังกรกดทับและบดขยี้! ละเว้นการโจมตีป้องกัน!

ฝูงต่อยักษ์กลายพันธุ์ได้รับความเสียหาย 150,000 หน่วย

ต่อยักษ์กลายพันธุ์ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง…

ต่อยักษ์กลายพันธุ์ตายแล้ว…

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 10 คะแนน

ต่อยักษ์กลายพันธุ์ชนชั้นสูงตายแล้ว…

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 50 คะแนน

ตัวอ่อนต่อกลายพันธุ์ตายแล้ว…

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 2 คะแนน…

…………

ต่อยักษ์กลายพันธุ์ใช้ ‘วิถีพ่นพิษ’ ความเสียหายจากการไหม้ของไฟหายไป

ระบบใช้ ‘นรกปราณมังกร’ อีกครั้ง…

ฟางหนิงไม่แม้แต่จะดูที่ระบบแจ้งเตือน เพราะการปัดหน้าจอทำให้เขาเวียนหัว…

ไม่รู้ว่าใช้เวลานานไปแค่ไหน แต่เขายังคงเวียนหัวอยู่เพราะความโกรธ

ระบบแจ้งเตือน โฮสต์มีการสูญเสียทางจิตมากเกินไปและต้องการพักผ่อน

ฟางหนิงรู้สึกโล่งใจและรีบนอนลงบนพื้นอย่างรวดเร็วราว “ดูสิ คำเตือนขึ้นแล้ว รีบปล่อยให้ฉันพักผ่อนสักที”

ระบบ “มันเป็นความผิดของโฮศต์ที่ไม่รู้จักฝึกฝน! สัมผัสทางวิญญาณเลยยังอ่อนแออยู่และมันก็ใช้เวลานานมากในการรักษาจิตวิญญาณด้วย! ระบบเพิ่งเก็บค่าประสบการณ์ได้ 200,000 แต้ม ไปจัดการบอสตัวเล็กๆ เพิ่มดีกว่า”

ฟางหนิงโบกมือปัด “หลังจากนี้ฉันจะตั้งใจฝึกวิถีแห่งเซียนนะ อ่า…มันเป็นการฝึกฝนนี่นา เหนื่อยจนพูดไม่ชัดแล้ว ขอนอนพักแป๊บหนึ่งนะ”

หลังจากที่เขาพูดจบ ก็ผล็อยหลับไปทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่บนพื้นของระบบร้านอินเทอร์เน็ต

เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ เขาเป็นคนแรกที่หยุดใช้พลัง…

ภายในศูนย์บัญชาการลับ หลังจากที่เปลวเพลิงในค่ายกลหายไป อัศวิน A ก็ไม่ได้เปิดการโจมตีแผงลูกกรงขนาดใหญ่ แต่พลังปราณมังกรสองตัวกลับปรากฏขึ้น พุ่งเข้าใส่ฝูงแมลงยักษ์ที่ยังเหลืออยู่

เมื่อต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของพลังปราณมังกรสองตัว ฝูงแมลงกลับไม่ได้นิ่งเฉย พวกมันบินมารวมกัน ก่อตัวเป็นลูกบอลขนาดใหญ่ทีละลูก

ต่อยักษ์รวมกันเป็นทรงกลมขนาดต่างๆ ปราณที่สร้างจากความโกรธเกรี้ยวของมังกรก็ลดประสิทธิภาพการฆ่าลงอย่างมาก ต้องออกแรงสองสามครั้งก่อนที่จะวิ่งผ่านโล่เข้าไปในลูกบอลทรงกลมเพื่อไล่ฆ่าได้

ในเวลานี้ทุกคนเริ่มวิตกอีกครั้ง หากเป็นเช่นนี้อัศวิน A จะต้องดื่มกินปราณแท้เข้าไปมากแค่ไหนกัน? จนถึงตอนนี้หลังจากการฆ่าแมลงเหล่านั้นแล้ว ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงเลย…

ภายในพื้นที่ของระบบ

ระบบ “ไม่มีความโกรธและก็ไม่สามารถใช้ปราณแท้ได้อีก แม้ว่าตอนนี้โฮสต์จะสามารถฆ่ามันได้ แต่ประสิทธิภาพนั้นต่ำเกินไป…โฮสต์บอกว่าจะพักผ่อนแค่สองชั่วโมงไม่ใช่เหรอ โฮสต์คุณตื่นขึ้นได้แล้ว”

ฟางหนิงทำหูทวนลม ไม่ยอมพลิกร่างกายกลับมา เพียงอ้าปากกว้างทำเสียงพึมพำ

ระบบ “ดูเหมือนว่าโฮสต์จะเล่นเกมมากเกินไปจนหมดแรงสินะ…”

ฟางหนิง “งือ…งือ…”

ระบบ “เพื่อป้องกันไม่ให้โฮสต์ขาดพลังงานในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้อีกในอนาคต ระบบจะขายอุปกรณ์เกมของโฮสต์และลบหมายเลขบัญชี”

ฟางหนิงผุดลุกขึ้นทันที “ฉันเผลอหลับไปเหรอ! ไอ้ปีศาจแมลงสมควรตาย ทำชั่วไว้มากนัก อยู่ดีๆ ไม่ชอบแต่กลับโผล่ออกมาสร้างความเดือดร้อน! เพราะพวกแก อุปกรณ์เกมอันล้ำค่าของฉันถึงตกอยู่ในอันตราย เพราะฉะนั้นพวกแกก็สมควรตายแล้ว!”

ระบบแจ้งเตือน โฮสต์เข้าสู่สถานะ ‘ความโกรธทะยานสูง’ และมาตรวัดความโกรธทั้งหมดจะเต็มทันทีหลังจากการบริโภคความโกรธ

ระบบ “จัดการได้เจ๋งมาก…ฉากนี้เอาไปเลยสามล้านคะแนน นี่เป็นแค่ฝูงต่อที่ปีศาจแมลงอัญเชิญมา ถ้าเป็นร่างจริงของมันเอง ไม่รู้ต้องใช้ค่าประสบการณ์เท่าไหร่ ระบบเคยกำจัดอย่างมากที่สุดก็คือสามพี่น้องตระกูลไป๋ ซึ่งทั้งสามคนให้ 1.1 ล้านคะแนน ช่องว่างระหว่างบอสใหญ่กับบอสเล็กนั้นมีมากเกินไปจริงๆ”

ฟางหนิงทำอะไรไม่ถูก “ก็ดีแล้วถ้ามันทำให้แกสบายใจได้…แล้วก็อย่ายุ่งกับอุปกรณ์เกมของฉันล่ะ มันไม่คุ้มเงินหรอก”

ระบบ “ไม่จริงหรอก? ครั้งที่แล้วระบบจำได้ว่ามีคนจะจ่ายหนึ่งแสนหยวนสำหรับหนังสือที่โฮสต์ตีพิมพ์ ถ้าโฮสต์ตีพิมพ์หนังสือหลายร้อยเล่มจริงล่ะก็…คงจะทำเงินได้ไม่น้อยไปกว่าร้านอาหารเลย…”

ฟางหนิง “แกนี่ความจำดีจริงๆ…”

แมลงในค่ายกลเริ่มลดน้อยลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีสัญญาณของการเสริมกำลัง

ทว่าเทพแห่งระบบกลับไม่ได้พักเลย นี่ย่างเข้าสู่วันที่แปดแล้ว

ด้านศูนย์บัญชาการลับก็มีการเปลี่ยนผลัดพนักงานเข้าประจำการ ทุกคนต่างมองโลกในแง่ดี

ทุกคนมาเพื่อผลัดกันดูท่านเทพมังกรตนนี้และท่วงท่าอันสง่างามของอัศวิน A แน่นอนว่าพวกเขามาเพื่อฟังดนตรีคลายความเบื่อหน่ายด้วย เพียงไม่มีใครรู้ว่ากฎของการเปลี่ยน BGM ของอัศวิน A ทุกวันนี้คืออะไร? เรื่องนี้จึงได้กลายเป็นหัวข้อการวิจัยขนาดเล็กไปโดยปริยาย

……………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท