บทที่ 115 ระบบยื่นหัวออกมา ฉันจะเป่าหัวนาย
“ทุกท่าน วันนี้เป็นเวลาที่พวกเราจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยพ่อบ้านเจิ้ง! ทุกคนต้องรวบรวมความกล้าในการจู่โจมเข้าเร่งช่วยเหลือพ่อบ้านเจิ้งที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนักโดยเร็วที่สุด ด้วยมิตรภาพของพี่น้องทุกคนและความรักของเพื่อนร่วมงาน ขั้นแรกพวกคุณต้องตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนว่าสมบูรณ์ไหม ไป๋หลี่ตรวจดูว่ากล้ามเนื้อของนายยืดหยุ่นดีไหม? เซวียปาสวมหมวกกันน็อคให้ถูกต้องด้วย…”
มังกรขาวตัวเล็กลอยอยู่กลางอากาศด้วยท่าทางเคร่งขรึม มันออกคำสั่งจากที่สูงบัญชาการคนที่อยู่บนพื้นดิน
น้ำเสียงของมันหนักแน่นและเปี่ยมด้วยพลัง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครชื่นชม…
จะมีก็แต่สุนัขสีเหลืองและสีดำสองตัวเท่านั้น
หมาเหลืองส่ายหัว เหยียดขาหน้าสองข้างออกและยืดหมวกให้ตรง จัดท่าทางอกผายไหล่ผึ่ง “นายท่าน ข้าตรวจสอบเสร็จแล้ว พร้อมออกปฏิบัติการในทันที”
สุนัขสีดำวิดพื้นสองครั้ง จากนั้นก็เขย่ากล้ามเนื้อและตะโกนว่า “นายท่าน ผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจสอบแล้ว พร้อมออกปฏิบัติการในทันที”
ฟางหนิงพอใจมาก น้องเล็กทั้งสองมีประสิทธิภาพสูง เมื่อหมาสองตัวนี้ฟื้นฟูพลังเต็มที่ พวกมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสตระกูลไป๋เมื่อก่อนเลย
แน่นอนว่าเมื่อความแข็งแกร่งของพวกมันได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่แล้ว ผู้อาวุโสตระกูลไป๋ก็อาจจะมีความก้าวหน้าอย่างมากเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ฟางหนิงได้เพิ่มขวัญกำลังใจเรียบร้อย เขาก็กลับไปยังพื้นที่ของระบบ
ระบบ “ผู้ติดตามพร้อมแล้ว โฮสต์พร้อมหรือยัง?”
ฟางหนิงตอบกลับ “ฉันต้องเตรียมตัวด้วยเหรอ? ฉันเป็นผู้บัญชาการนะ ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว รายงานบอกว่าถึงแม้จะมีศัตรูจำนวนมาก แต่ก็เป็นเพียงกลุ่มลูกสมุนตัวเล็กๆ ไม่มีบอสใหญ่ ระบบแกไม่ต้องแปลงร่างเป็นมังกรด้วยซ้ำก็สามารถจัดการได้ ฉันแค่ปรบมือให้กำลังใจอยู่ห่างๆ แทบไม่ต้องเตรียมอะไรเลย”
ระบบ “ไม่ เรื่องการต่อสู้โฮสต์ต้องฟังระบบ มีชัยชนะที่แน่นอนที่ไหนกันล่ะ? อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุด้วย มาๆ ไม่ต้องเกรงใจ ระบบเตรียมไว้ให้โฮสต์เรียบร้อยแล้ว งบประมาณการรบทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับโฮสต์หรอก……”
ขณะที่ระบบกำลังพูด จู่ๆ เสียง ‘ผึ่บผั่บ’ ก็ดังขึ้นในพื้นที่ระบบ กระทั่งกองหนังสือกองหนึ่งก็ตกลงมาจากฟากฟ้า
ฟางหนิงเหลือบมอง ก่อนจะเห็นชื่ออันคุ้นตาบนหน้าปกของหนังสือคู่มือราวกับมันกำลังกวักมือเรียกเขา
“XX” “XXX” “XXXX” “XXXXX”…
ไม่จำเป็นต้องอ่านเนื้อหาด้วยซ้ำ เพราะแค่มองปราดเดียวฟางหนิงก็รู้สึกได้ถึงพลังปราณที่ซึมซาบเข้ามาในอกแล้ว…
“ผลของการอ่านนิยาย ระบบเคยอ่านหนังสือของเพื่อนๆ ทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาว่ากันว่าหนังสือบางประเภทต้องดูของจริงถึงจะรู้สึกมากกว่า” ระบบพูดอย่างภาคภูมิใจ “แถมยังบอกอีกว่าเพราะมันมีอิทธิพลและเป็นสิ่งแท้จริงมากกว่า ผู้คนเลยมักจะเชื่อถือหนังสือกระดาษมากกว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์…”
ระบบแจ้งเตือน โฮสต์เข้าสู่สถานะ ‘ร้อนรุ่มในอก’ ขีดสล็อตความโกรธเต็มสามขีด
ระบบ “แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ มันประสิทธิภาพสูงกว่าเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ที่โฮสต์อ่านมาก…”
ฟางหนิงพูดไม่ออก “จำไว้เลยนะ แล้วแกเตรียมอะไรสำหรับกองกำลังหลักของการต่อสู้แนวหน้าบ้าง?”
ระบบ “อ่านการแจ้งเตือนก็จะรู้เอง มีเรื่องเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งอย่าง เนื่องจากในการต่อสู้ครั้งนี้โฮสต์ไม่จำเป็นต้องจัดการกับบอสใหญ่ แต่ควรลงสนามและทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศการต่อสู้ ระบบเตรียมอาวุธพิเศษไว้ให้โฮสต์เล่นโดยเฉพาะเลย…”
ทันทีที่ฟางหนิงได้ยินสิทธิประโยชน์มากมายแบบนั้น เขาก็สงบลงจากความโกรธทันที ดวงตาเป็นประกายเอ่ย “รีบเอามาให้ดูสักทีสิ ฉันไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้แกทำอะไรอยู่ ฉันไม่เห็นระบบแจ้งเตือนเลย…”
ระบบแจ้งเตือน ระบบใช้คะแนนประสบการณ์บางส่วนเพื่ออัพเกรดระดับเป็น 15 ค่าเลือดเพิ่มขึ้น ค่าปราณแท้เพิ่มขึ้น ค่าสถานะอิสระเพิ่มขึ้น 4 และค่าความตระหนักรู้ทั้งหมดได้รับเพิ่ม
สล็อตความโกรธพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1 ช่อง สล็อตความโกรธพื้นฐานที่มีอยู่คือ 4 ช่อง เอฟเฟกต์กำไลความโกรธ กักเก็บความโกรธ จำนวนสำรองสูงสุดเท่ากับจำนวนสล็อตความโกรธในระบบปัจจุบันคูณด้วยสอง ตอนนี้สามารถสำรองสล็อตความโกรธเพิ่มได้อีก 8 ช่อง สล็อตความโกรธทั้งหมดในปัจจุบันคือ 12
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์จำนวนมากเพื่ออัพเกรด ‘คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ เวอร์ชันสมบูรณ์เป็นระดับกลาง ระบบได้รับการอัพเกรดใหม่
หนึ่ง: เสริมร่างปราณแท้ ระดับปัจจุบันสามารถเก็บค่าพลังปราณได้ถึงสองเท่าของสล็อตพลังปราณในปัจจุบัน เพิ่มจำนวนสล็อตพลังปราณในปัจจุบันขึ้นเป็น 18 ช่อง
สอง: เพิ่มโบนัสพลังของวิทยายุทธ์ทั้งหมดหลังจากบริโภคพลังปราณ ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้น 100%
สาม: เพิ่มฟังก์ชันใหม่ของโมดูลพลังปราณ ทักษะที่มีอยู่ ‘เกราะป้องกันปราณแท้’ ระดับทักษะปัจจุบันเพิ่มความสามารถ: ‘ดูดซับพลังปราณ’ เมื่อระบบได้รับชื่อเสียงถึงขั้น ‘บูชา’ แล้ว สล็อตพลังปราณจะถูกเติม
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์ 100 คะแนน เพื่อเปลี่ยนชื่อหนังสือเกมหลัก ‘ชีวิตออนไลน์’ เป็น ‘ถ้าให้ข้าตัดสินแบบส่งเดชก็คือเผาแกซะ!’
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์ 5,000 คะแนน เพื่อเพิ่มโมดูลฟังก์ชันใหม่ให้กับหนังสือเกมหลักคือ โมดูลแผงคุณสมบัติของตัวละคร
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์ 500,000 คะแนน เพื่อเพิ่มโมดูลใหม่คือ ‘ทำลายไม่ได้’
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์ 500,000 คะแนน เพื่อเพิ่มโมดูล ‘การชุบชีวิตอัตโนมัติ’
ระบบได้ใช้คะแนนประสบการณ์ 500,000 คะแนน เพื่อเพิ่มคุณลักษณะใหม่ ‘การโจมตีไอคิว’
ผลกระทบหลัก: หากกระทบหัวศัตรูหลังจากการขว้าง จะมีโอกาสลดไอคิวของศัตรูลงยี่สิบสี่ชั่วโมง เอฟเฟกต์เพิ่มเติมจะถูกเพิ่มหลังจากการอัพเกรด
ฟางหนิงพูดไม่ออก นี่เป็น ‘เรื่องเซอร์ไพรส์’ จริงๆ ด้วย
หลังจากอ่านแล้ว เขาก็มองไปรอบๆ หลังจากนั้นไม่นานก็พบหนังสือเกมที่อัพเดตแล้วอยู่ตรงมุมหนึ่งของพื้นที่ระบบ
แม้หนังสือเกมเล่มนี้จะหยาบกร้านแต่อย่างน้อยก็อยู่ในรูปแบบของหนังสือ แต่ตอนนี้มันกลับอยู่ในสภาพที่จำเกือบไม่ได้
หน้าปกเสียหายหลายส่วน บนนั้นมีชุดอักษรจีนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นชื่อหนังสือ
“หนังสือเกมที่น่าสงสารของฉัน ตกไปอยู่ในมือของไอ้คนร้ายกาจจนกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ฟางหนิงถือหนังสือเกมด้วยความทุกข์ใจพร้อมกับลูบเบาๆ “อย่ากลัวเลย เจ้าโง่นั่นต้องสร้างบั๊กขึ้นอีกแน่นอน หลังจากที่มันเพิ่มโมดูล ‘ทำลายไม่ได้’ แล้ว แกก็จะไม่เป็นอะไร”
ทันทีที่ฟางหนิงพูดจบ หนังสือเกมก็สั่นหลายครั้งราวกับว่ามันเข้าใจ
ระบบ “โฮสต์อย่ายั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกของเราได้ไหม เด็กนั่นคือสิ่งที่ระบบสร้างขึ้นมาเองกับมือ ระบบเป็นพ่อของมัน จะทำร้ายมันได้ยังไง..”
หนังสือเกมไม่ได้พูดอะไร มันแค่หลุดออกจากมือของฟางหนิงแล้วลอยขึ้นไปในอากาศพลางกางหน้าหนังสืออก ‘ถ้าให้ข้าตัดสินแบบส่งเดชก็คือเผาแกซะ!’ ตัวหนังสือใหญ่พวกนี้เด่นชัดมาก…
ระบบพูดไม่ออก
ฟางหนิงไม่แปลกใจกับการกระทำของหนังสือเลย ในทางกลับกันเขาจึงถือโอกาสนี้ใส่ไฟเพิ่มเข้าไปอีก!
“เมื่ออาวุธพิเศษถูกปล่อยออกมาสิ่งแรกที่ต้องทำคือค้นหาดาบสังเวยซะก่อน พื้นที่ระบบนี้มีแค่เรา ฉะนั้นคงต้องยกให้แกเล่นบทบาทนี้แล้ว ประจวบเหมาะกับฉันที่ไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้แกก็โผล่มาแล้ว เพราะฉะนั้นให้ฉันได้ลองใช้เอฟเฟคสกิลของอาวุธพิเศษนี้หน่อยสิ…”
ระบบกลับกลายเป็นคนหูหนวกในทันที ก่อนจะควบคุมอัศวิน A ให้วิ่งด้วยความเร็วสูงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง…
หมาสองตัวเดินตามหลังอย่างใกล้ชิด ท่าทางของพวกมันแข็งแรงราวกับกำลังบินอยู่ ติดตามด้านหลังเจ้านายไม่ห่าง
ฟางหนิงเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน “จะออกแรงไปทำไม่ล่ะ เรียก ‘เที่ยวบินฟรี’ ของเราสิ…”
ระบบหยุดกึก “ทำไมโฮสต์ไม่พูดให้เร็วกว่านี้ล่ะ…”
…………
สถานที่นัดพบกับเฉียวจื่อเจียงอยู่ในเทือกเขาแห่งหนึ่งในภาคกลางของเสินโจว
อีกฝ่ายหนึ่งได้ส่งพิกัดละติจูดและลองจิจูดที่สอดคล้องกันของแผนที่มาแล้ว
“บิน!” เซวียเฟิงมาถึงทันทีที่เขาเรียก ก่อนจะนำส่งพวกเขาไปยังจุดหมายปลายทางในชั่วพริบตา เมื่อถึงจุดหมายก็ทำความเคารพนอบน้อม ก่อนจะจากไป
หลังจากลงจอด ฟางหนิงก็บินออกจากพื้นที่ระบบกลายเป็นมังกรขาว
สถานที่นัดพบเป็นเพียงหุบเขาแคบยาว มีภูเขาสูงสองข้างทาง ต้นไม้เจริญงอกงาม ใบไม้ส่วนใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากต้นแล้ว ลำต้นของมันเหี่ยวเฉาและมีสีเหลือง มีเพียงต้นไม้บางต้นเท่านั้นที่ยังคงเขียวขจี ที่นี่ช่างเป็นป่าที่เงียบสงบมาก นกไม่ตื่นตระหนก แมลงไม่ส่งเสียงหรีดหริ่ง
ตรงกลางมีแม่น้ำคดเคี้ยวไหลทอดยาวออกไปไกล พวกเขาลงจอดบนหาดหินกรวดที่ด้านหนึ่งของแม่น้ำ นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่เปิดโล่งไม่กี่แห่งที่อยู่ใกล้เคียง
ฟางหนิงมองสำรวจภูมิประเทศก็พลันรู้สึกตะคริวกินเล็กน้อย เขามองไปรอบๆ ก็ตระหนักได้ถึงปัญหาบางอย่าง ที่นี่เงียบเกินไปหน่อย
ไม่นานเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจากที่ไกลๆ
หลังจากฟางหนิงเห็นกลุ่มคนเหล่านั้นชัดเจนแล้ว เขาก็หันมองไปรอบๆ ก่อนจะพยักหน้า
กลุ่มคนที่เห็นคือเฉียวจื่อเจียงและพรรคพวก
คนที่เดินข้างหน้าคือเฉียวจื่อซานในมาดผู้ใหญ่ และข้างๆ เขาคือเฉียวจื่อเจียงที่มีใบหน้าสีเขียว
จากนั้นผู้หญิงในชุดสีเขียวร่วมสมัยก็ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งก็คือ ‘ความรักและความหวังอันเลือนลาง’ หรือติงเซียงที่อยู่ในวิดีโอ
เฉียวจื่อเจียงแนะนำ QQ และติงเซียงคนรักของเจิ้งต้าวให้รู้จัก
ถัดจากนั้นก็เป็นหญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวผู้มีใบหน้าเย็นชา
ฟางหนิงไม่คุ้นหน้าพวกเธอเลยสักนิด หลังจากครุ่นคิดเขาก็จำได้จากไฟล์โปรไฟล์ที่เจิ้งต้าวเคยส่งให้ทุกสัปดาห์ว่าผู้หญิงคนนี้หลายคนเรียกเธอว่า ‘ไห่หลาน’
อันที่จริงอีกฝ่ายเคยปรากฏตัวที่งานเลี้ยงอาหารค่ำของสถาบันฝึกอบรมพิเศษแล้ว แต่ฟางหนิงเกียจคร้านเกินกว่าจะสนใจ ในตอนนั้นที่ระบบกำลังกินดื่ม เขามัวแต่เล่นเกมทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลาสองวันติดเลยไม่ได้ออกมาพบอีกฝ่าย
เขาสามารถรับรู้ได้เนื่องจากไฟล์ข้อมูลตัวละครที่จัดโดยเจิ้งต้าว ซึ่งอีกฝ่ายรายงานและอัพเดตให้เป็นประจำ
ตัดภาพกลับมาตอนนี้ ฟางหนิงเอานิ้วขยี้ตาเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าคนคุ้นเคยเก่าแก่จะมาด้วย
เขาคนนั้นคือโม่ซิ่ง อดีตผู้อำนวยการหน่วยงานกิจการพิเศษของ ‘เมืองฉี’
อีกฝ่ายอายุสามสิบแล้ว ทว่าร่างกายยังผอมเช่นเดิม แม้ว่าเขาจะสวมแว่นแต่บุคลิกของเขากลับไม่สง่างามเท่าเจิ้งต้าว กลับกันราวกับมีคมดาบแฝงอยู่ในความสงบ
ข้างๆ เขาคือชายหนุ่มท่าทางเย่อหยิ่ง แม้จะเดินรั้งท้ายก็ยังคงนิ่งนอนใจ
ฟางหนิงไม่เคยพบคนคนนี้มาก่อน แต่เขาก็รู้ชื่อและความสัมพันธ์ทางสังคมจากไฟล์ที่เจิ้งต้าวให้ไว้
ไห่เฉิงน้องชายแท้ๆ ของไห่หลาน อายุยี่สิบเจ็ดปี อัจฉริยะร่วมสมัยของตระกูลไห่ เจ้าของฉายา ‘ดวงเนตรสีชาด’ คุณสมบัติการฝึกพลังระดับ A สองเท่า ทั้งการจับ ตัดสินประเภทของพลังและความเข้มข้นของพลังลมปราณ
ตอนนี้มีเพียงหกคนเท่านั้น ฟางหนิงเหยียดยิ้มมุมปากแสดงออกว่าไร้แรงกดดัน ที่นี่มีคนของเขาแล้วสี่คนและแน่นอนว่าตราบใดที่มีระบบก็สามารจัดการพวกเขาได้ทั้งหมด
………………………………………………………