เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 113 ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

บทที่ 113 ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

บทที่ 113 ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
ฟางหนิงคิดว่าถ้าเจิ้งต้าวยังคงใช้ QQ ได้อยู่ เพราะฉะนั้นอีกฝ่ายจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่ยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จึงน่าจะอยู่ใกล้ๆ แถวนี้

สิ่งที่แน่นอนคือเขาอาจจะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่รู้จักเพราะแผนที่ระบบยังไม่ได้เปิดใช้งาน ดังนั้นบริเวณรอบตัวเขาจึงแสดงเป็นภาพสีดำ หากเป็นกรณีนี้อย่างน้อยก็ไม่ใช่ ‘เมืองเฉิง’ และ ‘เมืองจี้’

ขณะที่ฟางหนิงกำลังขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจิ้งต้าวก็ส่งข้อความจาก QQ เข้ามาอีกข้อความหนึ่ง

เจิ้งต้าวกล่าวว่า “ขอบคุณท่านมังกรขาวที่เป็นห่วง ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ผมได้กราบลานายท่านทั้งสองในวันนี้แล้วก็จะขอลาออกกลับบ้านเกิดเพื่อแต่งงาน ในอนาคตคงไม่มีโอกาสได้พบท่านทั้งสองแล้ว การไม่ได้อยู่รับใช้ช่างเป็นอะไรที่น่าละอายใจจริงๆ ผมได้แต่อวยพรให้นายท่านทั้งสองประความสำเร็จในชีวิตและมีความสงบสุขในโลก”

ฟางหนิงตกตะลึง อะไรกัน! ทีมห้าผู้พิทักษ์ปราบปรามปีศาจของอัศวิน A กำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง แต่แล้วพ่อบ้านใหญ่อย่างเจิ้งต้าวผู้รับผิดชอบการจัดตารางเวลากำลังจะขอลาออกกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิดเนี่ยนะ?

ฟางหนิงหดหู่ใจมาก แต่แล้วเขาก็คิดได้ว่า ‘ถ้าอีกฝ่ายต้องการจะกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิดจริงๆ เขาก็คงจะบังคับไม่ได้’ ท้ายที่สุดเมื่อทุกคนอายุย่างสี่สิบปี การจะอยู่คนเดียวโดยไม่ได้แต่งงานหรือมีลูกคงไม่สามารถทำได้จริงๆ

ตอนนี้ไม่ใช่ยุคโบราณแล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ผูกพันส่วนตัว จากสามัญสำนึกพ่อบ้านเจิ้งต้าวจึงเป็นเพียงลูกจ้างที่ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านนอกเวลาในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัทโดยไม่ได้เซ็นสัญญาใดๆ ผูกมัด ทุกคนย่อมมีอิสระอย่างเต็มที่ที่จะลาออกและจากไป

ขณะที่ฟางหนิงกำลังจะพิมพ์ข้อความเพื่อแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย จู่ๆ ระบบก็ขัดจังหวะ “โฮสต์ปล่อยให้พ่อบ้านเจิ้งกลับบ้านเกิดไม่ได้นะ ถ้าไม่มีเขาล่ะก็แย่แน่ โฮสต์ไม่ชอบสื่อสารกับผู้คนไม่ใช่เหรอ ฉันคงไม่สะดวกที่จะจัดการกับปีศาจตัวยักษ์ไปพร้อมกันหรอก ถ้าเขาอยากแต่งงานก็แต่งไป ส่วนเราก็แค่มอบของขวัญแสดงความยินดีแก่เขาล่วงหน้าด้วยบ้านในเมืองฉีก็ได้นี่ ทั้งภารกิจในปัจจุบันก็ตั้งใจจะจ่ายเงินรางวัลให้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เขาสามารถช่วยเราทำงานต่อไปได้ ทำไมถึงต้องลาออกไปแต่งงานด้วยล่ะ? เขาต้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อแต่งงานและมีลูกจริงๆ หรือว่าบ้านเกิดของเขาต้องการตัวเขากลับไปสืบราชบัลลังก์หรือไง?”

ฝางหนิงถูกระบบรบกวนจึงหยุดพิมพ์ทันที ภายในใจว่างเปล่า ตระหนักได้ถึงปัญหาบางอย่าง ‘จริงด้วย ทำไมเขาถึงยืนกรานที่จะกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิดและต้องการตัดขาดจากเราโดยสิ้นเชิงล่ะ? มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่’

“เมื่อเจอบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการอัพเกรดปีศาจ ระบบยังคงฉลาดและน่าชื่นชมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“ที่ไหนกันเล่า? ระบบเท่แบบนี้ได้แค่บางโอกาสเท่านั้นแหละ” เมื่อระบบได้รับคำชมจากโฮสต์ก็พลันปลื้มใจ พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “แต่น่าเสียดาย ถ้าผู้ติดตามเป็นเหมือนโฮสต์ก็คงมีข้อบังคับว่า ‘ก่อนที่ระบบจะอัพเกรดเป็นเลเวล 100 ห้ามไม่ให้ผู้ติดตามแต่งงานและเบี่ยงเบนความสนใจ’ ถ้าโฮสต์ยังไม่อัพเกรดระดับเหมือนระบบ โฮสต์ก็จะพบกับปัญหาเหมือนในวันนี้อีก…”

“ระบบความคิดของนายร้ายกาจเกินไปแล้ว น่าผิดหวังที่ก่อนหน้านี้นายกล้าพูดว่าตัวเองเป็นระบบที่ชอบธรรม ใจดีและใจกว้าง” ฟางหนิงส่ายหน้าและดูถูกความคิดไร้ยางอายของระบบ แต่แล้วเขาก็ตกตะลึง “บัดซบ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง!”

ระบบดีใจใหญ่ “โฮสต์คิดได้แล้วเหรอว่าทำไมพ่อบ้านเจิ้งจะจากไป?”

ฟางหนิงอาเจียนเป็นเลือด “ไปไกลๆ เลย ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ จู่ๆ ฉันก็เข้าใจว่าทำไมแกถึงเอาแต่หมุนไปรอบๆ ตอนที่เลเวล 10! พูดมาสิว่า ‘เลเวลไม่ใช่กุญแจและต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังต่อสู้’ สิ่งเหล่านั้นควรจะมี แต่หลายอย่างแกกลับพยายามจะลดระดับของฉันลง การที่อยากให้ฉันอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตก็เพื่อที่ทุกๆ วันแกจะได้สามารถใช้ร่างกายของฉันตามฆ่าปีศาจอย่างนั้นสินะ?”

ระบบ “อะไรกัน ระบบไม่ได้พูดอะไรเลยนะ? ลดระดับลงอะไรนั่น เป็นเพราะโฮสต์เล่นเกมเจ็ดวันเจ็ดคืนติดกันต่างหาก ตอนนี้โฮสต์มีอาการประสาทหลอนทางการได้ยินใช่ไหม? ก่อนหน้าที่ระบบยังไม่อัพเลเวลว ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่ายังไม่มีประสบการณ์มากพอ แต่ตอนนี้มีประสบการณ์เกือบสิบล้านครั้งแล้ว อีกอย่างเพิ่งจะผ่านการเก็บตัวฝึกพลังมาอีกเจ็ดวันด้วย เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ก็จะถึงเวลาอัพเลเวล…”

ฟางหนิง “แกโกหกฉันอีกแล้ว ยังไงก็ตามแกรู้อยู่แล้วว่าตราบใดที่มันเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ แกก็ยังถือไพ่เหนือฉันเสมอ…”

“โฮสต์กำลังใส่ร้าย…ระบบเป็นระบบที่ซื่อสัตย์มากทุกประการ” ระบบเปลี่ยนเรื่องทันที “การที่พ่อบ้านเจิ้งคนนี้ต้องการจะจากไป ระบบรู้สึกว่านี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ทีเดียว แม้เครดิตที่เขาสร้างขึ้นนั้นมีไม่น้อยก็จริง แต่ยังไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่เราลงทุนไปหรอก โชคดีที่เขาไม่มีเวลาเรียนรู้ ‘คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’…”

หลังจากฟางหนิงถูกขัดจังหวะแบบนั้นเข้า จิตใจของเขาก็สงบลงมากทีเดียว เขาพยายามคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ฟางหนิงก็หัวเราะ “ฮ่าฮ่า ระบบ นิสัยขี้เหนียวของแกบางครั้งก็มีประโยชน์จริงๆ เตือนสติฉันได้ดีเลย ไม่ต้องห่วง ฉันรับประกันได้ว่าพ่อบ้านเจิ้งจะไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น”

ระบบตกตะลึง “เกิดอะไรขึ้นอีก มนุษย์อย่างโฮสต์ชอบพูดวกไปวนมา ไม่มีความตรงไปตรงมาเหมือนอัศวิน A เลย…”

ฟางหนิงแทบกระอักเลือด “ก็ใช่ นี่แกตั้งฉายาให้ฉันว่า ‘ตรงไปตรงมา’ เหรอ? ฉันจะตอบแกอย่างตรงไปตรงมาให้ก็ได้ เหตุผลที่เจิ้งต้าวบอกว่าเขาจะลาออกไปแต่งงานและไม่ได้เจอเราอีกนั้น มีเพียงความจริงข้อเดียวนั่นคือสิ่งที่ ‘เจิ้งต้าว’ พูดมาทั้งหมดคือเรื่องหลอกลวง!”

ระบบตื่นตกใจ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ระบบไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นเลยสักนิด? ไอคิวของโฮสต์สูงเทียบเท่าระบบไม่ได้หรอกนะ!”

ฟางหนิงแสร้งตีหน้าขรึม “หืม นายคงไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์สินะ? พ่อบ้านเจิ้งใส่ใจในความดีงามและความชอบธรรม เขาจะละทิ้งบุญคุณผู้ที่ช่วยชีวิตเอาไว้โดยไม่ตอบแทนและจากไปหลังจากพูดทิ้งทวนประโยคหนึ่งผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ยังไง? ฉันฟางหนิงในฐานะโอตาคุขนานแท้ ย่อมรู้ดีว่าคนเราต้องตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างเต็มที่ ก่อนที่เราจะไม่ได้เจอคนๆ นั้นอีก เขาถูกระบบจดจำว่าเป็นชื่อสีน้ำเงิน ทั้งตัวละครของเขาก็เหมือนกับฟางหนิงซึ่งเป็นคนดีที่รู้จักตอบแทนความกตัญญู ในสายตาของฟางหนิงนักสืบชื่อดัง ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ‘มีใครบางคนแอบสวมรอยเป็นเจิ้งต้าวและบอกว่าจะกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิด เพื่อให้เราล้มเลิกความคิดที่จะตามหาเขา พวกมันคงจะกระวนกระวายมากแน่ๆ ! เพราะถ้าไม่พูดแบบนี้ เราก็จะออกตามหาเจิ้งต้าวไปทั่ว ซึ่งนั่นคงทำให้พวกมันไม่สบายใจ และผู้อาวุโสตระกูลไป๋ก็เป็นแบบอย่างของพวกเขา”

ระบบเอ่ยชมทันที “โฮสต์นี่น่าเชื่อถือได้เหมือนเคย…”

ฟางหนิงสนุกกับคำเยินยอของระบบมาก นานแค่ไหนแล้วที่ระบบห่วยไม่ได้เทิดทูนเขาแบบนี้?

ระบบยังพูดไม่จบ “ถ้าอย่างนั้นโฮสต์ก็รีบช่วยระบบตามตัวพ่อบ้านเจิ้งให้กลับมาเร็วๆ เถอะ ระบบต้องการเขา…”

ฟางหนิงเงียบไปครู่หนึ่ง “ตามบัญชา…”

จากนั้นเขาก็พิมพ์หา ‘เจิ้งต้าว’ “หึหึ แกคิดว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใคร? กล้าดียังไงมาขโมยเบอร์ของเจิ้งต้าว? แกรู้ชื่อของฉันผู้นี้และท่านมังกรขาว ก็ควรจะรู้ด้วยว่าเราแข็งแกร่งแค่ไหน! พวกที่กล้าลอบกัดเราอย่างเจ็บแสบแบบนี้ มีหลายคนนักที่คิดว่าตัวเองฉลาด แต่สุดท้ายพวกมันก็ถูกพวกเราฆ่าทิ้งหมด พูดอีกอย่างก็คือพวกมันถูกเราไล่ล่า…”

คำพูดของฟางหนิงเต็มไปด้วยจิตสังหารและความโกรธแค้น เขาปวดใจเล็กน้อยคนคุ้นเคยมาเอ่ยลาทันทีแบบนั้น เป็นเรื่องน่าเศร้ามากทีเดียว…

เจิ้งต้าว “ท่านมังกรขาว ทำไมท่านพูดแบบนี้ล่ะ? ผมคือเจิ้งต้าวเอง ใช่คนอื่นที่ไหนกัน ทำไมเราไม่วิดีโอคอลกันดูสักหน่อย?”

ฟางหนิง “ได้สิ งั้นเรามาวิดีโอคอลกันเถอะ”

จากนั้นฟางหนิงก็พูดกับระบบว่า “เฮ้ ผลการใช้ ‘เนตรเทพตาภูต’ ของแก สามารถมองเห็นความจริงผ่านทางวิดีโอได้ไหม?”

ระบบ “โฮสต์คิดว่าฉันเป็นพระเจ้าหรือไง? มีผลแค่ในกรณีที่ศัตรูอยู่ใกล้เท่านั้นแหละถึงจะมองเห็นร่างจริงของพวกมันได้ ใช้อินเตอร์เน็ตแบบนี้ไม่รู้ห่างไกลกันตั้งกี่หมื่นลี้ เป็นแค่การประมวลภาพจำพวกหนึ่งจะมองเห็นร่างจริงได้ยังไง?”

ฟางหนิงยังคงแน่วแน่ สวมมาดนับสืบต่อไป เขากล่าวต่อ “ไม่เป็นไร ฉันมีทางออก แกคงจำท่าทางและนิสัยทั้งหมดของเจิ้งต้าวได้สินะ ท้ายที่สุดแกก็คือระบบ หน่วยความจำของแกก็เป็นเหมือนฮาร์ดดิสก์”

ระบบ “แน่นอน ระบบเข้าใจดีว่าโฮสต์หมายถึงอะไร โฮสต์คงอยากเช็คเขาผ่านทางวิดีโอสักครู่ว่ายัง ‘สบายดีเดินคล่องปร๋อ’ อยู่หรือเปล่าใช่ไหม?”

ฟางหนิง “ระบบช่วงนี้แกเรียนรู้อะไรจากอินเทอร์เน็ตได้เยอะแยะเลยนะ ถึงไอคิวจะเท่าเดิม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว น่าชื่นชมๆ”

ระบบ “อย่าคิดว่าระบบไม่ได้ยินว่าโฮสต์เรียกระบบว่าคนโง่เง่าที่มีประสบการณ์นะ…”

“อะไรกัน ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ? แกพูดเอาเองต่างหาก” ฟางหนิงได้แต่นึกในใจ ระบบห่วยนี้มีประสบการณ์ห่วยสมชื่อจริงๆ เขารีบเปลี่ยนเรื่องโดยเร็ว “ช่างเถอะ รีบไปสะสางธุระก่อน แกระบุด้วยล่ะว่าเป็นเจิ้งต้าวจริงๆไหม…”

ในเวลานี้ ‘เจิ้งต้าว’ ก็ได้ได้ส่งคำขอวิดีโอคอล QQ เข้ามาพอดี

ฟางหนิงไม่ยอมรับคำขอวิดีโอในทันที ก่อนจะสำรวจร่างของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาอยู่ในร่างมังกรขาว จากนั้นจึงถอดปลั๊กไมโครโฟนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ออก เพื่อป้องกันไม่ให้การสนทนาระหว่างเขากับระบบแพร่ออกไป

หลังจากทำทั้งหมดนี้ ฟางหนิงจึงยอมรับคำขอวิดีโอคอลจากอีกฝ่าย

อีกฝ่ายกลัวว่าฟางหนิงจะไม่เชื่อ จึงตั้งกล้องเพื่อให้จับภาพได้ทั้งหมด

ฟางหนิงมองภาพรวมของ ‘เจิ้งต้าว’ ในวิดีโอ ชุดสูทรองเท้าหนัง แว่นตากรอบทอง ชายวัยกลางคนที่งามสง่าและมีเสน่ห์ รูปลักษณ์ของเขาเหมือนกับของเจิ้งต้าวไม่ผิดเพี้ยน

ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่ในห้องธรรมดา ตกแต่งแบบเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์สมัยก่อนและหน้าต่างทางด้านหลัง จากหน้าต่างสามารถมองเห็นภูเขาและป่าไม้ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้เลือนราง ให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านเกิดที่บนภูเขาจริงๆ

เป็นไปได้ไหมว่าความจริงคนๆ นี้ก็คือเจิ้งต้าว?

ฟางหนิงค่อยๆ ทำความเข้าใจสถานการณ์ “ในช่วงสองวันที่ผ่านมาคุณเป็นยังไงบ้าง?”

“ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงเป็นใย ตอนนี้เจิ้งต้าวจิตใจแจ่มใส สบายกายสบายใจ สุขภาพแข็งแรงเยี่ยมยอดดีครับ”

เมื่อเห็นท่าทางตอบกลับแบบนั้น ฟางหนิงก็รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องจับผิดอะไรอีกแล้ว

‘เจิ้งต้าว’ คนนี้ แน่นอนว่า…ไม่ ไม่สิ ฉันจะพูดคำสองพยางค์บ้าๆ ว่า ‘แน่นอน’ ไม่ได้ ควรจะบอกว่า ‘มีโอกาสเป็นตัวปลอมถึง 99%’!

เจิ้งต้าวพูดแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?

เขาเป็นคนที่ใส่ใจมิตรภาพ มีความรอบคอบและมักจะรักษาหน้าคนอื่นอยู่เสมอ

ทั้งมังกรขาวมังกรแห่งจิตวิญญาณ หมาดำ หมาเหลือง ผู้บังคับบัญชาทั้งสี่ และเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนร่วมทุกข์ร่วมโศกกันมา การที่ตัวเขากลับบ้านเกิดไปแต่งงานว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ต่อหน้าเจ้านายเขาจะพูดจาอวดดีตรงๆ อย่าง ‘อารมณ์ดีมีความสุข’ แบบนี้ได้ยังไง?

คนอื่นอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่มีทางที่เจิ้งต้าวตัวจริงจะทำแบบนี้แน่นอน!

แต่ก็ไม่สามารถฟันธงได้เลย เพราะยังมีความไม่แน่นอนเหลืออยู่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟางหนิงยังคงพิมพ์ต่อไป “ในเมื่อนายไม่ป่วย งั้นก็ลองเดินให้ดูสักสองก้าวทีสิ ถ้านายปฏิเสธแสดงว่านายเป็นตัวปลอม เพราะเจินเจิ้งต้าวไม่มีทางปฏิเสธ”

‘เจิ้งต้าว’ ได้ยินคำขอนี้กลับไม่ตื่นตระหนก

ราวกับว่าเขารู้ดีว่าฟางหนิงกำลังจะทำอะไร เขาลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าเรียบเฉย เดินกลับไปกลับมาสองสามครั้งในวิดีโอ จงใจให้กล้องถ่ายภาพพฤติกรรมท่าทางของเขาอย่างชัดเจน

จากมุมมองของฟางหนิง ‘เจิ้งต้าว’ คนนี้เหมือนกับที่เจินเจิ้งต้าวพ่อบ้านที่เขาเคยเห็นมาก่อนทุกประการ ทั้งท่าเดิน การเคลื่อนไหวของมือและฝีเท้า นั่นทำให้เขากังวลเล็กน้อย มันจะเป็นโอกาสหนึ่งเปอร์เซ็นต์จริงเหรอ?

เขารีบถามระบบ

ระบบ “หมอนี่ไม่ใช่ตัวจริง มีจุดบกพร่องมากมาย เช่น ระยะเดินเท้า ช่วงการวาดมือ การสั่นของไหล่ และการกระเพื่อมของหน้าอก เหล่านี้ล้วนต่างจากพ่อบ้านเจิ้งตัวจริงอย่างเห็นได้ชัด”

ระบบไม่ได้ดำรงอยู่เหมือนมนุษย์ วิสัยทัศน์และความทรงจำนี้มนุษย์จะเทียบกับมันได้ยังไง? เพราเขามองไม่เห็นถึง ‘ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด’ อะไรเลย

ฟางหนิงโล่งใจขึ้นมาทันที

………………………………………………………

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท