เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 116 วิธีทำให้โกรธที่ดีที่สุด

บทที่ 116 วิธีทำให้โกรธที่ดีที่สุด

บทที่ 116 วิธีทำให้โกรธที่ดีที่สุด!!
ฟางหนิงจำตัวตนทั้งหมดของอีกฝ่ายได้ และอีกฝ่ายก็จำตัวตนทั้งหมดของฝ่ายฟางหนิงได้เช่นกัน ถึงแม้ทั้งสี่จะรู้กันแล้ว แต่ก็มีสองคนที่ไม่ใช่ตัวจริง…

เฉียวจื่อเจียงและคนอื่นๆ เห็นฟางหนิงปรากฏขึ้นด้านข้างอัศวิน A จากระยะไกลแต่กลับไม่มีใครแปลกใจเลย เพราะมีรายงานแจ้งมาก่อนหน้านี้แล้วว่าอัศวิน A คือมังกรแห่งจิตวิญญาณ เขามาพร้อมกับอุปกรณ์ทางอากาศ และนี่ก็คือหนึ่งในปัญหาที่สำนักสัจธรรมได้รวบรวมกำลังคนที่จะเอาชนะเขา…

“ท่านมังกรขาว ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณและสุนัขผู้ยิ่งใหญ่สองตัวของเผ่าพันธุ์สุนัข ขอบคุณที่เดินทางมาจากแดนไกล จื่อซานกำลังรอพวกท่านอยู่เลย” หลังจากที่เฉียวจื่อซานนำผู้มาใหม่ขึ้นไปบนเขาก็แนะนำพวกเขาให้ทุกคนรู้จัก ทุกคนต่างโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อทักทายผู้อาวุโสทั้งสอง

แม้แต่ไห่เฉิงผู้หยิ่งผยองก็ยังอ่อนน้อมถ่อมตน นอกจากนี้เขายังโค้งคำนับและกล่าวทักทายผู้อาวุโสทั้งสองรวมถึงสุนัทั้งสองตัวโดยไร้ความเย่อหยิ่งและไร้การเสแสร้ง

จนปัญญา พวกเขาเพิ่งเริ่มคิดเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ มันอาจจะง่ายกว่าหากจับมือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็จริง แต่เฉียวจื่อเจียงกลับให้การปฏิเสธทันที ฝั่งตรงข้ามมีสี่คน แต่อีกสามคนไม่สะดวกที่จะจับมือ ฝั่งพวกเขาไม่กลัวความเขินอายหรอก แต่กลัวว่ารุ่นพี่สามคนนี้มากกว่าที่จะเขินอาย…

ฟางหนิงไม่ชอบการสื่อสารกับคนแปลกหน้า เขาพูดได้ไม่กี่คำ ก็บินกลับไปที่พื้นที่ของระบบและใช้ชีวิตต่อโดยใช้ข้ออ้างที่เขาเคยใช้มาก่อน อันที่จริงเป็นเพราะเขากังวลว่าระบบจะเล่นอะไรแผลงๆ โดยไม่มีเขามากกว่า และท้ายที่สุดแล้วไอคิวก็จะไม่เพิ่มขึ้น…

ทุกคนไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังจากกลับมาที่พื้นที่ระบบ ฟางหนิงกลับไม่มีอารมณ์จะเล่นเลยสักนิด เขาขลุกอยู่กับการทำงาน

ฟางหนิง “คนเยอะจนฉันตาลายเลยล่ะ ฉันต้องตรวจสอบแผนที่ระบบสักหน่อย ดูว่าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน และวิเคราะห์ว่าคนอื่นๆ พัฒนาไปถึงระดับไหนแล้ว?”

ในขณะที่พูดฟางหนิงก็เปิดแผนที่ระบบ แล้วไตร่ตรองดูอย่างระมัดระวัง ไร้หนทาง ระบบรู้แค่ว่าเขาชอบการฟาร์มดังนั้นจึงไม่กังวลกับเรื่องนี้

แผนที่ระบบของพื้นที่ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดใช้งานและยังคงเป็นสีดำสนิท ด้านข้างของเขามีจุดสีน้ำเงินจำนวนหนึ่งและอีกด้านมีจุดสีขาว โดยธรรมชาติแล้วมันคือเฉียวจื่อซาน

อีกห้าจุดนั้นมีสีเหลืองปนกับสีขาวจำนวนมากต่างกันแค่ระดับ ของติงเซียงส่วนใหญ่เป็นสีขาว ถัดไปคือเฉียวจื่อเจียงตามด้วยไห่หลาน โม่ซิ่ง และไห่เฉิง

หลังจากที่มองมันอยู่พักหนึ่ง วงกลมหนาทึบที่มีขนาดและสีต่างกันก็ทำให้ฟางหนิงรำคาญใจ

เขาบ่นกระปอดกระแปด “ระบบแผนที่ของแกยอดเยี่ยมก็จริงนะ แต่มันไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว วงกลมขนาดใหญ่วงกลมเล็กและสีเหลืองสีขาวอะไรนี่ ฉันดูแล้วไม่สะดวกเอาซะเลย แกดูสิว่าคนของสำนักสัจธรรมรู้ระดับพลังที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้โดยการระบุตำแหน่งหน้าที่การงาน ซึ่งมันง่ายกว่ามากเลยนะ”

ระบบ “ไร้สาระน่า แผนที่นั่นแต่เดิมทำขึ้นมาเพื่อให้ระบบดู ไม่ใช่ให้คนอื่นดู ใครสนใจกัน…”

ฟางหนิงไม่ตอบโต้ แล้วหันไปสนใจหนังสือเกมอันล้ำค่าบนโต๊ะ

ฟางหนิงโอบกอดรอบหนังสือเกมของเขา “เฮ้ หนังสือเกมที่รัก แกเห็นว่าพ่อของแกมักจะครอบงำและรังแกฉันอยู่เสมอเลย ต่อไปแกต้องช่วยฉันด้วยนะ ถ้าให้ฉันชี้ไปที่ใครสักคน แกจะถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด ช่วยฉันทำภารกิจที่สอง ‘ไม่อ่อนแอกว่าคน’ ให้สำเร็จทีได้ไหม? นั่นถือเป็นภารกิจหลักที่ยาวนานมาก ไตรมาสละครั้งเชียวล่ะ”

หนังสือเกมสั่นตอบราวกับจะบอกว่า ‘ไม่มีปัญหา’

ระบบ “พวกนายสองคนร้ายกาจมาก รีบโยนหนังสือทิ้งได้แล้ว! ระบบจะเพิ่มโมดูลสะสมสิ่งมีชีวิตเข้าไป สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ระบบเห็นในอนาคต มีค่าและแข็งแกร่งเพียงพอที่จะถูกรวบรวมให้โฮสต์โดยอัตโนมัติ

“เปลี่ยนแผนที่ระบบโดยแบ่งระดับให้เหมือนกับสำนักสัจธรรม โดยแบ่งออกเป็นความดีและความชั่วตามระดับของสี สิ่งนี้ควรทำอย่างนั้นเหรอ? จะมาโกงแบบนี้ไม่ได้…”

ฟางหนิง “มันก็เหมือนกันนั้นแหละ”

ฟางหนิงวางหนังสือเกมลงบนโต๊ะในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบทันที

ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงคำสั่ง

ระบบแจ้งเตือน ระบบใช้คะแนนประสบการณ์ 5,000 คะแนน เพื่อเพิ่มโมดูลการทำงานใหม่ให้กับหนังสือเกมหลักได้รวบรวมสิ่งมีชีวิต

จากนั้นหนังสือเกมก็ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า

ฟางหนิงบินขึ้นไปโอบกอดมันไว้ ราวกับกลัวว่ามันจะโปรยลงกับพื้น

หลังจากกอดมันแน่นๆ แล้ว ฟางหนิงก็เอ่ยว่า “หนังสือเกมที่รัก ไปที่หน้าของการรวบรวมสิ่งมีชีวิตให้ฉันทีสิ”

ฟางหนิงพบว่าหนังสือเกมค่อนข้างฉลาดทีเดียว มันทำให้เขาคิดหาวิธีต่างๆ มากมายในการแก้ปัญหาได้โดยเร็ว…

เห็นได้ชัดว่าหนังสือเกมนี้ยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือเขา เพราะหลังจากนั้นไม่นาน หนังสือก้เปิดออกทีละหน้า จนสุดท้ายก็เปิดหน้าที่ชื่อ ‘ม้วนสิ่งมีชีวิต’ ให้ปรากฏขึ้น

ก่อนที่ฟางหนิงจะเปิดดู ทันใดนั้นมันก็กลายเป็น ‘สี่เหลี่ยม’ !

เขาเห็นอะไรน่ะ?

คำใบ้ที่จุดเริ่มต้นของหน้าแรก ตามด้วยข้อมูลตัวละครของ ‘เฉียวจื่อซาน’

“หมายเหตุสำคัญ โปรดเข้าใจผู้เล่นทุกคนตามสถานการณ์ปกติทั่วไป สิทธิ์การตีความขั้นสุดท้ายเป็นของระบบ”

“เฉียวจื่อซาน เพศชาย งานอดิเรกไม่ทราบ อายุยี่สิบห้าปี ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษสำนักงานสัจธรรม”

สิ่งเหล่านี้ยังคงปกติ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการประเมินโดยละเอียดต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายของระบบ

“แนวโน้มความดีและความชั่วเท่ากับ ยุติธรรม”

“ระดับความแข็งแกร่ง: เท่าอ่างน้ำสูง ขนาดโดยละเอียด: อ่างอาบน้ำ หมายเหตุ: อ่างมีความลึกมากและสามารถเติมได้เองอย่างช้าๆ”

หลังจากที่ฟางหนิงอ่านบรรทัด ‘การประเมินความแข็งแกร่ง’ แล้ว เขาก็ใช้เวลาทบทวนครู่ใหญ่

เขาครุ่นคิด ‘เฉียวจื่อซานคงไม่ได้ไปแหย่อะไรให้ระบบไม่พอใจใช่ไหม? ทำไมการประเมินพลังถึงออกมาอย่างนั้นล่ะ?

แม้ว่าจะมีการระบุบนแผนที่ระบบ กล่าวล้อเลียนว่าระยะจุดของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีขนาดเกือบจะเท่ากับอ่างอาบน้ำ แต่ระบบไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จแน่นอน

เมื่อสติหวนกลับคืนมาหลังจากปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งไปครู่หนึ่ง สมองก็ประมวลผลความแข็งแกร่งของเฉียวจื่อซานบนแผนที่ระบบได้ทันที

ถ้าเฉียวจื่อซานได้รับสมญานามระดับ B มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหนในตอนแรก

แต่เมื่อฟางหนิงพลิกไปที่หน้าสอง เขาก็เข้าใจทันที ระบบห่วยนั่นใส่ใจมากว่าเขาอยู่ที่ไหน เห็นได้ชัดว่ามันมีความหมายลึกซึ้งอีกอย่างหนึ่ง ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ด้านการต่อสู้ด้วย…

เฉียวจื่อเจียง เพศหญิง งานอดิเรก สังหรณ์ไม่ดี อายุสิบแปดปี ตำแหน่งสมาชิกหน่วยสืบสวนพิเศษสำนักงานสัจธรรม

“แนวโน้มความดีและความชั่วเท่ากับ ความเป็นกลางเหนือความยุติธรรม”

“ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับถัง ขนาดโดยละเอียด: หนึ่งถัง หมายเหตุ: ถังลึก แต่อาจรั่วได้”

พรึ่บ! ฟางหนิงได้ยืนยันความตั้งใจที่แท้จริงของระบบอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

…………

ฟางหนิงยังคงพลิกหน้ากระดาษต่อไป ลองดูว่ามีการแบ่งแยกที่แปลกประหลาดกว่านี้อีกไหม ซึ่งตอนนี้เขาได้หมดความหวังในบรรทัดฐานของระบบไปแล้ว…

แน่นอนว่ามีส่วนที่น่าเศร้ากว่านั้น

“โม่ซิ่ง เพศชาย งานอดิเรก ไม่มี อายุสามสิบห้าปี ตำแหน่งสมาชิกหน่วยสืบสวนกิจการพิเศษ”

“แนวโน้มความดีและความชั่วเท่ากับ ความเป็นกลางเหนือความยุติธรรม”

“ระดับความแข็งแกร่ง: ผู้เล่นระดับมีด ขนาดโดยละเอียด: ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายให้เปลืองคำ มีโอกาสสูงที่จะวางสายก่อน”

…………

“ไห่เฉิง เพศชาย งานอดิเรก ไม่มี อายุยี่สิบเจ็ดปี ตำแหน่งสมาชิกของสำนักงานสัจธรรม”

…………

หลังจากที่ฟางหนิงเข้าใจเจตนาของระบบอย่างเต็มที่แล้ว เขาก็ไม่ได้ใจร้อนหรือรีบเร่งอีก แต่แสร้งพูดบีบคั้นแทน “เฮ้ ระบบฉันเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในแง่ของการต่อสู้และปรับปรุงความแข็งแกร่งของแกนะ! แต่การที่แกแบ่งแบบนี้ ไม่ใช่ว่าอยากให้ฉันออกไปเหรอ ในอนาคตสถานการณ์แบบนี้จะปรากฏทุกที่ – ‘แม้แต่ความแข็งแกร่งระดับถังยังกล้าท้าทายปรมาจารย์ระดับอ่างอาบน้ำ?’ เป็นใครจะไม่โกรธบ้างล่ะ? ฉันรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนต้นคิด แต่นั่นมันเกิดขึ้นเพราะความโกรธที่มีต่อแกในทุกๆ วัน แต่แกก็ดันทำจริงๆ”

น้ำเสียงของระบบไม่ค่อยพอใจ “โฮสต์นี่ชอบป้ายสีตีไข่คนอื่นจังนะ! ระบบไม่ได้วางแผนให้มันแบบนั้น และไม่ได้สร้างขึ้นโดยไร้เหตุผลหรือแบ่งสุ่มสี่สุ่มห้า มันถูกกำหนดโดยแผนที่ระบบและขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ก่อนหน้านี้ที่โฮสต์ดูแผนที่ระบบ ไม่ใช่เพราะโฮสต์เห็นชายร่างใหญ่บนแผนที่ระบบหรอกเหรอ หรือแค่คิดว่ามันอาจใหญ่พอๆ กับอ่างไม่กี่อ่าง ดูเหมือนว่าจะมีขนาดประมาณอ่างล้างหน้าล่ะสิ? ความคิดของโฮสต์เยี่ยมยอดมาก ระบบรู้สึกถึงมันได้อย่างแจ่มแจ้ง! และทั้งหมดนี้ก็เพื่อความสะดวกของโฮสต์ แบบนี้มันไม่สมจริงไปกว่าระดับ ABCD ที่พวกเขาคิดขึ้นเลยหรือไง? ถ้าระบบอธิบายแบบนี้ โฮสต์ก็จะสามารถเห็นขนาดของตำแหน่งได้ทันที และพวกมันยังเป็นขุมพลังระดับ A ทั้งความลึกก็แตกต่างกันด้วย คนระดับล่างจำนวนมากสามารถฆ่าคนได้แบบก้าวกระโดด เป็นเพราะภายนอกอาจดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งด้อยกว่าคนระดับสูง แต่จริงๆ แล้วมันหยั่งลึกลงไปกว่านั้นมาก ระบบใช้วิธีนี้เพื่อคัดแยกคนพิเศษเหล่านั้นออกมา เพราะกลัวว่าโฮสต์จะไม่ระวังจนอาจตกหลุมพรางได้ พูดมาสิว่าสำหรับโฮสต์แล้วระบบมีมนุษยธรรมมากแค่ไหน! ทั้งหมดนี้ที่ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ แต่ไม่นึกเลยว่าโฮสต์จะเข้าใจผิด กว่าระบบจะทำออกมาได้ มันยากมากจริงๆ นะ…”

ระบบรัวออกมาราวกับยิงลูกกระสุนปืนกลขนาดใหญ่ ฟางหนิงที่แสร้งทำเป็นพูดไม่ออกทำได้เพียงถือหนังสือเกมอย่างเงียบๆ…

ฟางหนิงรู้ดีว่าเหตุผลที่ได้รับมานั้นก็คืออย่าปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ใช้คะแนนประสบการณ์เพื่อเปลี่ยนแปลงมัน

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ในที่สุดเขาก็ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง “เอาเถอะ ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนเดียวที่ใช้มัน ฉันจะไม่บอกใครหรอก แกก็อย่าพูดไปล่ะ…”

ระบบ “ในที่โฮสต์ก็เข้าใจสักที ระบบค้นหาระดับพลังทั้งหมดในนิยายมนุษย์ของโฮสต์แล้วเลือกชื่อที่คิดว่าเก่งที่สุดและเข้ากันได้มากที่สุด แต่โฮสต์เพิ่งเตือนระบบเมื่อกี้ ระบบเลยไม่รู้จริงๆ ว่ามนุษย์อย่างโฮสต์จะยังคงสนใจเรื่องฉายาอยู่ ยังดีที่มันมีประโยชน์ต่อการเพิ่มความโกรธ เพราะฉะนั้นจะเป็นการดีกว่าที่จะช่วยระบบโปรโมตมัน โฮสต์จะได้ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือพวกนั้นแล้ว…”

ฟางหนิงแทบจะกระอักเลือด เขาส่ายหัวไปมา แสดงว่าไม่มีที่ว่างให้ต่อรอง “อย่างที่คาดไว้เลย ฉันไม่มีความหน้าด้านเหมือนแก ถ้าฉันใช้มันเป็นการส่วนตัวคงไม่กล้าพูดออกไปแบบนี้…”

ระบบ “อย่าเพิ่งตัดสินสิ ระบบจ้างก็ได้…”

ฟางหนิง “ฉันดูเป็นคนหิวเงินมากขนาดนั้นหรือไง! แต่มาคิดๆ ดูแล้ว ฉันก็คิดดีแล้วแหละที่ได้พูด ตกลงก็ตกลงแต่อย่าไปสร้างปัญหาใหญ่โตแล้วกัน”

ระบบ “ระบบเชื่อในโฮสต์ โฮสต์ทำได้!”

…………

ขณะเดียวกันเฉียวจื่อซานและคนอื่นๆ ยังไม่รู้ว่าพวกเขาแต่ละคนได้รับการเปลี่ยนโปรไฟล์โดยระบบเรียบร้อยแล้ว พวกเขาถูกทำเครื่องหมายว่าความแข็งแกร่งเป็นระดับอ่างอาบน้ำและระดับถังต่างๆ สารพัด

พวกเขานั่งคุยกันและพูดคุยถึงแนวทางปฏิบัติในครั้งต่อไป

………………………………………………….

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท