บทที่ 119 พี่ชาย ถ้าไม่ลงทะเบียนก่อน ผมจะช่วยพี่ลำบากนะ
ทันทีที่ได้ยินไห่เฉิงอธิบายรายละเอียดของ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ เฉียวจื่อเจียงก็คิดหาวิธีตอบโต้ทันที
รายงานกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงสมุนของกลุ่มที่มีระดับความแข็งแกร่งไม่เกินระดับ C เท่านั้น แต่พวกเขาที่อยู่ที่นี่มีขุมพลังระดับ B และต่ำสุดคือแกนหลักระดับ D ซึ่งสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์
การใช้อาวุธเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทรงพลังนั้นค่อนข้างง่ายต่อการควบคุม รวมถึงการฝึกฝนทั่วไปและพัฒนาทักษะลับที่มีพลังระเบิดสูง เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากและถือเป็นแนวทางการวิจัยของสำนักสัจธรรม
ดังนั้นเฉียวจื่อเจียงจึงคิดว่าพวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับการเผชิญหน้าครั้งนี้
หลังจากฟัง เธอก็พูดขึ้นทันที “ฉันจะปล่อยเจ้างูดำหลงฟานให้มันออกสำรวจยอดเขาโดยรอบภายในยี่สิบกิโลเมตร นี่คือภูมิประเทศในหุบเขา ถ้าพวกเขาต้องการเปิดฉากโจมตีทางไกลอีกครั้ง เป็นไปได้ว่าอาจจะย้ายไปยังจุดสูงอื่นเพื่อตั้งค่าจุดลอบยิงใหม่ก็ได้ หลงฟานบินได้ไวมาก ทั้งยังไหวพริบดี สามารถซ่อนตัวได้แนบเนียน มีประสบการณ์การสืบสวนมากมาย ประสิทธิภาพสูงและแข็งแกร่งกว่าเครื่องมือสืบสวนทั่วไปร้อยเท่า รอให้เขายืนยันว่ามือปืนอยู่ที่ไหน เราจะแบ่งกองทหารของเราออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มนึงคอยทำลายมือปืน ส่วนอีกกลุ่มคอยโจมตีเป้าหมาย”
ขณะที่พูด งูดำก็เลื้อยออกมาภายใต้แขนเสื้อของเธอ
เฉียวจื่อซานครุ่นคิด พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ดี ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ หนีไม่รอดแน่ แต่หลงฟานคือศัตรู แม้จะหาพบก็ไม่วายถูกฆ่า เธอมีรอยประทับของจิตวิญญาณของเขาและสามารถใช้พลังเพื่อชุบชีวิตได้ใช่ไหม”
งูดำตื่นขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ฉันไม่กลัวตายหรอกนะ จะให้ทำงานที่เสี่ยงอันตรายใช่ไหม? สไนเปอร์ซุ่มยิงน่ากลัวมากสินะ ไหนๆ ตอนนี้ฉันเป็นลูกจ้างของคุณแล้ว ไม่ใช่ทาส เพราะฉะนั้นฉันต้องการให้ขึ้นเงินเดือน และเพิ่มโบนัสด้วย…”
เฉียวจื่อเจียงพยักหน้าทันที “รีบไปเถอะ ทุกความต้องการของนายฉันจะสนองให้”
งูดำหลงฟานได้ยินก็รู้สึกทันทีว่ามีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากเธอ เป็นเรื่องยากผู้หญิงคนนี้จะยอมให้ เป็นไปได้ไหมที่เฉียวจื่อซานไม่สามารถต้านทานกับ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ ได้หากไม่มีมาตรการป้องกันเป้าหมาย?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ มันก็ต่อรองราคาให้เพิ่มสูงขึ้นทันที “เอาล่ะ ตอนนี้ฉันได้อ่านแค่นิยายเท่านั้น ไม่เคยไดด้เล่นเกมเลย คุณต้องหาวิธีการฟาร์มขั้นสูงมาให้ฉันด้วย…”
เฉียวจื่อเจียงกัดฟัน แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง “เอาล่ะ ถ้านายพบจุดลอบโจมตีและยอมสละตัวเอง ฉันจะแลกเปลี่ยนมันให้นาย แต่ถ้าท่านมังกรเป็นคนไล่ตามศัตรูจนสำเร็จ โดยที่นายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย นั่นอาจจะทำให้นายต้องชดใช้หนักสักหน่อย”
งูดำหลงฟานรู้ว่าเขามาถึงจุดต่ำสุดแล้ว เอาแต่ตามเฉียวจื่อเจียงต้อยๆ เมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมด เขาก็รู้วิธีหาจุดลอบโจมตีโดยสัญชาตญาณ เขาพยักหน้าตอบตกลง ก่อนจะบินออกจากภูเขาเพื่อออกไปสำรวจ
เมื่อโม่ซิ่งได้ยินเฉียวจื่อเจียงพูดก็ส่งสัญญาณให้กับอัศวิน A ที่ไม่อยู่ที่นี่ ‘ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณ เกรงว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายแล้วล่ะ ภารกิจของงูดำในครั้งนี้น่าจะง่ายมากทีเดียว’
แน่นอนว่าเขาเห็น หลังจากที่เฉียวจื่อเจียงสั่งให้งูดำออกไปตรวจสอบ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีและพิมพ์อย่างรวดเร็ว คงจะติดต่อท่านทั้งสองเพื่อยืนยันเรื่องนี้เช่นกันสินะ
…………
ไม่นานหลังจากที่งูดำหลงฟานบินออกไป หมาเหลืองเซวียปาซึ่งซ่อนอยู่ข้างๆ ก็ทำจมูกฟุดฟิดสองสามครั้งแล้ววิ่งออกไปจากที่กำบัง มันวิ่งออกไปข้างนอกเงียบๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หมาดำก็เดินตามไปทันที ไม่ถึงครึ่งก้าว
งูดำหลงฟานที่กำลังบินวนอยู่ในอากาศพลันบินขึ้นไปบนยอดเขา เมื่อเขาเห็นการเคลื่อนไหวของหมาสองตัว ดวงตาก็เป็นประกายลอบตามไปกลางอากาศ ท่านทั้งสองกำลังทำอะไรอยู่น่ะ? คนอื่นคิดหาวิธีได้แล้วนะ เขายังคิดไม่ออกอีกเหรอ?
เขาและทั้งสองท่านเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว…
ไม่นานหมาสองตัวที่อยู่ในป่าก็พบเข้ากับอัศวิน A
เสียง ‘ตู้ม’ ดังต่อหน้าหมาเหลือง เป็นเสียงของร่างหญิงวัยกลางคนที่ถูกอัศวิน A จัดการ
อัศวิน A “เซวียปา ช่วยดมกลิ่นของผู้หญิงคนนี้แล้วตามหาสหายของเธอหน่อยได้ไหม?”
หมาเหลืองเซวียปาก้มศีรษะลงทันทีและดมกลิ่นของผู้หญิงคนนั้น เอ่ย “ได้เลย ก่อนหน้านี้เธอติดต่อกับคนทั้งหมดแปดคนและมีคนสามคนที่เธอเพิ่งเจอมา ดูเหมือนว่าคนสามคนที่เธอเพิ่งเจอน่าจะเป็นกลุ่มคนเดียวกับที่โจมตีไป๋หลี่ ส่วนอีกห้าคน ติดต่อมาเมื่อวันก่อนและอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ขอเวลาสิบนาทีในการติดตามว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน”
อัศวิน A “นำทางไปเลย”
เมื่อหมาเหลืองเซวียปาได้ยินคำพูดนี้ มันก็วิ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่งทันที
เมื่อเห็นอย่างนั้นอัศวิน A ก็ไม่สนใจหญิงสาวที่อยู่บนพื้นดินอีก คิดเพียงแค่ต้องตามให้ทันและต้องเป็นคนแรกที่จะสังหารปีศาจ
ภายในพื้นที่ของระบบ เมื่อฟางหนิงเห็นฉากนี้เข้าจากมุมมองของระบบก็รีบเอ่ยเตือน ‘อย่างน้อยก็ส่งผู้หญิงคนนี้ไปให้เฉียวจื่อซานสิ ถึงยังไงเธอก็เป็นอาชญากรที่สำคัญ ขืนปล่อยไว้ในป่ารอให้เธอฟื้นขึ้น เธอได้หนีรอดไปแน่ไม่ใช่หรือไง?’
ขณะนั้นหมาดำก็รีบส่งเสียง “นายท่าน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะมีค่าตัวถึงร้อยล้านเหรียญสหรัฐ…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อัศวิน A ก็ชะงักกึก ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้นทันที
เมื่อหมาเหลืองได้ยินคำพูดนั้น เขาก็ตบหัวตัวเองด้วยขาหน้าของมัน ‘คนฉลาดมีความคิดนับพันย่อมต้องมีการสูญเสีย ทำไมฉันถึงคิดแค่ไล่ตามศัตรูแล้วลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้นะ ปล่อยให้ผู้รับใช้ตัวดำนี่ขโมยเครดิตของฉันไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ยังไง!’
หมาดำกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วเมินเฉยต่อสายตาของหมาเหลืองที่มองมา ‘ฉันภูมิใจที่บอกเจ้านายเกี่ยวกับข้อมูลที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ เมื่อสักครู่นี้’
หลังจากได้ยินเรื่องนี้แล้ว อัศวิน A ก็ก้มลงลูบหัวหมาดำเบาๆ “ทำได้ดีมาก เมื่อฉันกลับแล้วฉันจะให้รางวัลใหญ่กับแก!”
เมื่อโดนลูบหัวแบบนั้นมันก็กระปรี้กระเปร่าทันที มันภูมิใจมากกว่าเดิม ‘เจ้านั่นอวดเสมอว่าไอคิวของมันดีกว่า แต่กลับพลาดไปได้’
อัศวิน A “เอาล่ะ ไป๋หลี่ นำผู้หญิงคนนี้กลับไปส่งให้เฉียวจื่อซานและคนอื่นๆ อย่าลืมขอเงินรางวัลจากพวกเขาด้วยล่ะ ถ้าในอนาคตพวกเขาสามารถหาวิธีจัดการดับ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ ได้ก็ขอให้พวกเขาทำสำเนาให้เราด้วย”
หมาดำหมอบลงและเหยียดขาหน้าออก “ตามบัญชาเจ้านาย!”
อัศวิน A พยักหน้า ดีจริงๆ ที่มีผู้ติดตามระดับสูง เขาหันไปมองหมาเหลือง “เอาล่ะเซวียปาไปกันต่อเถอะ”
ขณะที่คนและหมาทั้งสองกำลังจะแยกจากกัน ทันใดนั้นงูสีดำก็โฉบลงมาจากด้านบน
อัศวิน A ไม่ได้เคลื่อนไหว แต่หมาสีดำและหมาเหลืองกลับตกใจ มันเงยหน้าและส่งเสียงเห่า
“อย่าเห่า อย่าเห่า พวกท่านทั้งสองนี่เป็นคนรู้จัก เป็นคนรู้จัก” งูดำหลงฟานพ่นคำพูดของมนุษย์ออกมาและรีบอธิบาย
อัศวิน A โบกมือเพื่อหยุดเสียงเห่า “ฉันจำแกได้ แกชื่อหลงฟานเป็นหน่วยสอดแนมของเฉียวจื่อเจียง”
หลงฟานพยักหน้า “ใช่แล้วๆ ท่านมีความจำที่ดีจริงๆ ไม่ทราบว่าท่านมังกรขาวอยู่ที่ไหนหรือ? ครั้งสุดท้ายที่บอกลาก็ไม่เจอกันอีกเลย มัวแต่ตามคนอื่นต้อยๆ เพิ่งจะได้ออกมาพบและขอบคุณเอาป่านนี้ น่าละอายจริงๆ”
ภายในพื้นที่ของระบบ
ระบบ “โฮสต์คู่หูหนอนหนังสือของนายหลงฟานอยู่ที่นี่ อย่าแสร้งนั่งเฉยอยู่สิ อยากออกไปเจอไหม?”
ในเวลานี้ฟางหนิงนั่งอยู่บนเก้าอี้คอมพิวเตอร์ในร่างมนุษย์ วางคางไว้บนมือข้างหนึ่ง ขมวดคิ้วไม่พูดอะไรคล้ายกำลังคิดบางอย่าง
เมื่อครู่นี้เขาเกือบจะถูกบังคับให้หยุดทำท่าทางแข็งกร้าวเพราะพฤติกรรมโง่ๆ แล้ว แต่โชคดีที่เจ้าหมาดำตัวน้อยนี้ช่วยเตือนสติเขา
ตอนนี้เขาจึงเพิ่งคิดได้เกี่ยวกับประโยคที่ระบบแจ้งเตือน
“ระบบใช้สล็อตพลังปราณห้าช่องและสล็อตความโกรธห้าช่องเพื่อเปิดใช้งานการเคลื่อนไหวป้องกัน ‘ลมปราณคุ้มร่าง’“
บ้าเอ๊ย ตอนนี้มีสล็อตพลังปราณทั้งหมด 18 ช่องและสล็อตความโกรธแค่ 12 ช่อง แม้ว่าคนด้านหลังจะสามารถเสริมด้วยความโกรธของเขาเองได้ แต่สิ่งสำคัญคือเขาจะโกรธขนาดนั้นได้ยังไง
เขาเลยกังวลใจมาก เขารู้ว่ามันเป็นการลอบยิง เป็นไปได้ไหมว่าอนาคตจะมีการโจมตีแบบนี้อีก?
ระบบไม่เคยคิดเรื่องนี้จึงคอยสร้างกระแสอยู่ตลอดเวลา เมื่อเจอบอสใหญ่มันจึงสะท้อนสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่
เขาต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าเขาเล่น ระบบก็จะไม่รอด…
เมื่อได้ยินการมาเยือนของหลงฟาน เขาพลันนึกถึงสิ่งที่เฉียวจื่อเจียงได้พูดไว้ตอนนั้น สายฟ้าวาบผ่านในจิตใจของเขา ฉับพลันความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามา
ฟางหนิงกล่าวตอบทันที “มาได้ทันเวลาพอดี ฉันมีแผนการใหญ่ที่จะมอบหมายให้”
น้ำเสียงของระบบดูถูกเหยียดหยาม “ออกไปเล่นละครอีกแล้วสินะ…”
ฟางหนิงไม่สนใจระบบ รอให้ความคิดของเขาสำเร็จก่อนเถอะ ระบบห่วยนี่จะต้องคุกเข่าลงให้เขา
เขาเปลี่ยนกลับเป็นร่างของมังกรขาวในทันที ก่อนจะบินออกจากพื้นที่ระบบ ทันใดนั้นก็ปรากฏตัวต่อหน้างูดำหลงฟาน
“ฮ่าฮ่า พี่มังกร ไม่เจอกันนาน สบายดีไหม?”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชา งูดำหลงฟานก็รู้สึกยินดีกว่าเก่า “ท่านไป๋หลง ข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ต้องขอบคุณท่านที่เลิกจดจำอดีตและปล่อยวาง ท่านเทพมังกรเคยบอกกับข้าว่าตอนนี้ข้าสามารถมีชีวิตที่ดีได้แล้ว การมาที่นี่ครั้งนี้ก็เพื่อขอบคุณโดยเฉพาะ”
ฟางหนิงยิ้ม “ฮ่าฮ่า เราเป็นคู่หูหนอนหนังสือกัน ดังนั้นไม่ต้องสุภาพหรอก ขอบคงขอบคุณอะไรไม่จำเป็น ฉันเป็นคนกล้าหาญอยู่แล้วและความดีนั้นมาจากใจไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีความกระตือรือร้นขนาดนั้น งูดำหลงฟานจึงคิดว่านั่นอาจเป็นการเเสดงละคร
มันกัดฟันพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผู้หญิงด้านล่างเป็นวายร้ายที่อยากจะสังหารท่านเทพสี่ขาเมื่อครู่ใช่ไหม?”
ฟางหนิง “ใช่แล้วล่ะ พี่ชายของฉันเทพมังกรก็เพิ่งฆ่ากลุ่มนักยิงปืนไป ส่วนนี่คือคนที่ถูกจับทั้งเป็น เขาเพิ่งสั่งให้หมาดำพาเธอกลับไป”
งูดำหลงฟานคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ และเขาก็เดาไม่ผิดเลย เฉียวจื่อเจียงวางแผนมาอย่างดีแล้ว ส่งตัวเขามาและให้เขาติดต่อกับผู้อาวุโสทั้งสอง เพื่อยืนยันว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูผู้ยิ่งใหญ่
แต่เขากลับไม่รู้ว่าในเวลานี้ฟางหนิงกำลังเป็นกังวล…
งูดำหลงฟาน “ท่านทั้งสองมีพลังมาก ข้าชื่นชมพวกท่านจริงๆ”
ฟางหนิงเหนื่อยมากกับการพูดวกวนไปมา ดังนั้นเขาจึงพูดต่อทันทีว่า “เอาล่ะ เราเคยพบกันก่อนหน้านี้และเราได้ต่อสู้กันมาหลายร้อยครั้งแล้ว เราทุกคนต่างก็รู้รายละเอียดของกันและกัน นายไม่จำเป็นต้องวกวนไปมาหรอก ฉันรู้จุดประสงค์ของนายดี นายทำงานให้เฉียวจื่อเจียง ที่มาที่นี่ก็เพื่อมาเอาเครดิตใช่ไหม?”
งูดำหลงฟานหัวเราะแล้วพยักหน้าตอบรับ “นั่นก็เพราะว่าฉันไม่รู้จักร่างที่แท้จริงของท่านผู้อาวุโส อาจจะดูหยาบคายไปหน่อย ตอนนี้ฉันไม่กล้าแล้ว ท่านสายตาเฉียบแหลมมาก คราวเดียวก็มองความคิดความอ่านภายในใจออก ฉันละอายใจจริงๆ บุญคุณที่มอบให้ครั้งก่อนยังไม่ตอบแทน คราวนี้ต้องมารบกวนท่านอีก”
ฟางหนิงตอบกลับอย่างลึกซึ้ง “ยากที่จะพูดว่าลำบากใจ เพราะมันก็แค่คำพูด แต่ถ้าจะให้ช่วยอีกครั้งก็คงยากมาก…”
งูดำหลงฟานงุนงงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง หมายความว่ายังไงกัน? มันไม่เข้าใจเลย ทำไมท่านมังกรขาวถึงไม่รู้ล่ะ
ฟางหนิงยังเล่นละครตบตาไม่ทันจบ ระบบก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“หยุดเสแสร้งได้แล้ส ถ้าพูดอีกสักคำสองคำแล้วพวกเขาทั้งหมดหนีไปได้ ระบบจะชำระบัญชีกับโฮสต์”
ฟางหนิงควบคุมตัวเองและรีบสั่งการทั้งหมาสองตัว ปล่อยให้งูดำหลงฟานตามเทพมังกรต้อยๆ แน่นอนว่าตัวเขาเองเลือกที่จะหดตัวกลับเข้าไปในพื้นที่ระบบ ถึงงูดำหลงฟานจะไม่กลัวตาย แต่เขากลัวตาย…
หมาสองตัวดำเนินการตามคำสั่งของฟางหนิง หมาดำพาหญิงวัยกลางคนกลับไป ด้านหมาเหลืองก็วิ่งตามหาศัตรู
ตอนนี้ระบบพอใจมาก ก่อนจะคุมร่างของอัศวิน A ให้ตามหมาเหลืองไปติดๆ ที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าทึบ หากจะใช้วิธีบินหาคงไม่เหมาะนัก
…………………………………………