เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 144 ฉันมีกลยุทธ์เด็ดแล้ว

บทที่ 144 ฉันมีกลยุทธ์เด็ดแล้ว

บทที่ 144 ฉันมีกลยุทธ์เด็ดแล้ว

นักบวชผิวขาวพูดคุยกับทุกคนอีกครู่หนึ่งก็กลับมานั่งในเต็นท์ เขาถือแผนที่ในมือเรียกให้หมองูเซ่อถีเข้ามาเพียงลำพัง

นักบวชผิวขาว “เซ่อถี คุณลองดูสองสามจุดนี้บนแผนที่ว่าเป็นสถานที่ดีเยี่ยมที่ชาวเสินโจวบุกเบิก มีสถานที่ฝึกฝนและยังมีฐานยา และสถานที่ดีสำหรับการใช้งานสองประเภท พวกเราควรเอาที่ไหนไปจากพวกเขาดี”

เซ่อถีที่อยู่ข้างๆ โน้มตัวลงมองแผนที่แล้วประจบทันที “ท่านนักบวช ตราบใดที่ชาวเสินโจวรับมือกับสัตว์ปีศาจดุร้ายที่เชสขับไล่ไปไม่ได้ เราจะเอาอีกหลายจุดเลยก็ไม่เป็นไร แค่จุดเดียวพวกเขาไม่เสียเปรียบหรอก”

นักบวชผิวขาวส่ายหน้าพลางหัวเราะ “เซ่อถี นั่นจะโลภเกินไปแล้ว เนื้อต้องกินทีละคำ ค่อยเป็นค่อยไป ขอแค่พวกเขาให้ที่ดินเราครั้งแรกเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะ พวกเขาจะให้เราเป็นครั้งที่สอง อย่าลืมว่าที่นี่มีเชสงูจงอาง เพราะฉะนั้นเราได้เปรียบแน่นอน”

“แต่เราไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนพวกเขาที่อยู่ข้างนอก ต้องคำนึงก่อนว่าพวกเขาอาจจะแก้แค้นเราข้างนอกก็ได้ ในเมื่อความเข้มข้นของปราณกำเนิดที่นี่ค่อนข้างต่ำ ไม่มีทางขับไล่เชสงูจงอางกับพวกเราออกไปได้ เพราะฉะนั้นขอแค่ได้สถานที่สำหรับลงหลักปักฐานสักที่หนึ่ง ครั้งนี้ก็ถือว่าเราทำสำเร็จมากแล้ว อย่าโลภจนเกินไป”

เซ่อถีเอ่ยเยินยอทันที “ท่านนักบวชพูดถูก ผู้น้อยมองอะไรสั้นๆ เชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่ถึงจะไม่เดินทางพลาด”

นักบวชผิวขาวพอใจมาก “ดีมาก คุณฉลาดมาก ขอแค่คุณเอาใจว่าที่อวตารของเทพแห่งการทำลายล้างให้ดี ให้ชาวเทียนจู๋ปักหลักในดินแดนมรดกแห่งนี้ ส่วนเรื่องที่คุณขอวิญญาณจุติ รอพวกเราออกไปแล้ว ฉันจะขอให้ใต้เท้าสามคนนั้นแลกเปลี่ยนสิ่งสำคัญเพื่อขอร้องให้นายท่านทอมแห่งสมาคมดุลอำนาจช่วยวิญญาณจุติ เพื่อให้คุณได้ไปเกิดใหม่ในร่างคนที่มีชาติกำเนิดสูงศักดิ์โดยสมบูรณ์ นับแต่นี้ไปคุณจะมีนามสกุลสูงศักดิ์ด้วย”

พอได้ฟังเช่นนั้นเซ่อถีก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นทันที โค้งตัวต่ำจนหัวเกือบแตะพื้น “ขอบคุณท่านนักบวชเหลือเกิน เซ่อถีจะตั้งใจรับใช้ท่าน”

ขณะที่ทั้งสองสนทนากัน กลางป่าไม่ไกลจากเต็นท์ที่พวกเขาพัก อัศวิน A ซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น

เนื่องจากการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่เคยเจอมาก่อน หลังจากที่ระบบมาถึงก็ไม่ได้จับคนเหล่านี้ทันที แต่คอยแอบฟังเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม

น่าเสียดายที่บทสนทนาของทั้งสองไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก นอกจากเนื้อหาบางอย่างที่ทำให้ฟางหนิงค่อนข้างโมโหแล้ว ก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับงูตัวนั้นน้อยมาก

ตอนนี้ฟางหนิงรู้แค่ว่ามันคืองูจงอาง งูจงอางในธรรมชาติมีพิษร้ายแรง ขนาดตัวใหญ่มากทีเดียว แต่เดิมงูจงอางอยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหาร และไม่ใช่อะไรที่หนูและเต่าจะเทียบได้

ตอนนี้แผนที่ระบบไม่แสดงว่ามันอยู่ที่ไหน หนังสือเกมก็แสดงข้อมูลของคู่ต่อสู้ไม่ได้ แต่ฟางหนิงมั่นใจว่าระดับพลังของงูจงอางที่พัฒนาเป็นสัตว์ปีศาจย่อมเหนือกว่าผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำทั่วไปแน่นอน

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ตอนนี้พวกที่อยู่ในเต็นท์คือไก่อ่อน และข้อมูลในหนังสือเกมก็เป็นแค่ระดับช้อนส้อมหรือไม่ก็ระดับถังน้ำเท่านั้น มีแต่นักบวชผิวขาวคนนั้นที่มีระดับอ่างน้ำ ความสามารถแค่นี้ยังกล้าออกมาป่วน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาต้องหดหัวซ่อนตัว…

ระบบดูไปสักพักก็พูดขึ้นว่า “พวกเขาบอกว่างูจงอางเป็นอวตารของเทพแห่งการทำลายล้างอะไรทำนองนั้น โฮสต์ฟังเข้าใจไหม”

ฟางหนิง “น่าจะเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งที่พวกเขาบูชา ได้ยินมาว่าชาวเทียนจู๋ศรัทธาเทพเจ้าสามองค์ ได้แก่ เทพแห่งการสร้างสรรค์ เทพแห่งการทำลายล้าง และเทพแห่งการปกป้อง แกจำได้ไหมว่าแอนเดอร์สันเคยพูดว่าทอมแมวดำอวดอ้างว่าเป็น ‘อวตารของเทพแห่งความตาย’“

ระบบ “ถ้าอย่างนั้นโฮสต์ลองไปถามแอนเดอร์สันอีกครั้งได้ไหม เผื่อเขาจะรู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับงูจงอางตัวนั้น”

ฟางหนิงไปถามแอนเดอร์สันทันที แต่ผลที่ได้ก็น่าผิดหวังมาก

แอนเดอร์สันบอกว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงูจงอางเลย ไม่เคยมีข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน แต่ยืนยันได้ว่าสมาคมสมดุลมีความสัมพันธ์อันดีกับชาวเทียนจู๋ ทั้งสองฝ่ายช่วยสนับสนุนการพัฒนาซึ่งกันและกันเต็มที่เพื่อตรวจสอบและสร้างดุลอำนาจกับสำนักสัจธรรมในเสินโจว

หากพวกเขาเต็มใจจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ทอมแมวดำคงจะตอบตกลงทำพิธีจุติวิญญาณ

แอนเดอร์สันยังเล่าด้วยว่าคนเทียนจู๋มีเส้นสนกลในลึกมาก และมีระบบการฝึกฝนที่เป็นเอกลักษณ์

พวกเขามียอดฝีมือสามคนที่ไม่ด้อยกว่าหกผู้นำของสำนักงานสัจธรรมเสินโจว คนเหล่านี้ภายนอกเหมือนไก่อ่อน คงเป็นแค่คณะลาดตระเวน แต่พวกเขาน่าจะพบว่างูจงอางรับคำสั่งพวกเขาได้ นักบวชผิวขาวหัวหน้าคณะคงอยากจะใช้งูตัวนั้นสร้างผลงานแล้วค่อยกลับไป

ระบบเห็นว่าข้อมูลนั้นแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็เอ่ยขัดขึ้นทันที “ช่างเถอะ ระบบจะแอบฟังอีกหน่อย ระบบไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะไม่พูดถึงจุดอ่อนของงูตัวนั้น”

ฟางหนิงฟังแล้วก็จนใจ แม้ว่าระบบจะฉลาดขึ้นบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้ จิตใจที่มุ่งมั่นฆ่าปีศาจของมันร้อนแรงเสมอ…

ฟางหนิงถอนหายใจแล้วจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา เขาพูดไม่ออก ตนเองเคยชินกับการเชื่อฟังหมอนี่ในการต่อสู้ แต่ไม่เคยคิดว่าที่จริงแล้วมีวิธีที่ดีกว่า…

ฟางหนิงกล่าวเสียงเรียบ “อันที่จริง แกไม่ต้องเสียเวลาดักฟังแบบนี้แล้วก็ได้ ตอนนี้เรามีแอนเดอร์สันแล้ว โยนพวกเขาทั้งหมดเข้าไปในคุกของระบบ เชื่อเถอะว่าพวกนี้ไม่ปากแข็งเหมือนหนานคุนหรอก ไม่น่าจะรีดข้อมูลยากขนาดนั้น”

ระบบ “…”

วินาทีต่อมาการแจ้งเตือนของระบบก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

ระบบจับหมองูเซ่อถีชาวเทียนจู๋โยนเข้าไปในคุกของระบบ

ระบบจับนักบวชชาวเทียนจู๋โยนเข้าไปในคุกของระบบ

ระบบจับซินโรซาทหารลาดตระเวนชาวเทียนจู๋โยนเข้าไปในคุกของระบบ

ระบบหยุดยั้งการคุกคามร้ายแรงต่อเสินโจว โฮสต์ได้รับระดับความโปรดปรานห้าคะแนนคุณสมบัติทั้งหมดของเทพเจ้ามังกร

ระบบได้รับชื่อเสียงอัศวินปริมาณมหาศาล

ระบบได้รับสล็อตพลังปราณปริมาณมาก ปัจจุบันมีทั้งหมด 21 สล็อตพลังปราณเต็ม

ฟางหนิงอ่านแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้ระบบจับไก่อ่อนแล้วโยนพวกมันเข้าไปในคุกของระบบเรียบร้อยแล้วสินะ

อย่าลืมว่าครึ่งปีก่อน ระบบเผชิญหน้ากับผู้เล่นแค่ระดับอ่างล้างหน้าที่เป็นอาจารย์ปีศาจงูของเขา มันทำได้เพียงต่อสู้อย่างสูสี แต่ตอนนี้ระบบเผชิญหน้ากับนักบวชผิวขาวที่เป็นผู้เล่นระดับอ่างน้ำ อีกฝ่ายกลับไร้พลังที่จะตอบโต้ระบบ

ครู่หนึ่งฟางหนิงก็สงสัยอีก “คนผิวดำพวกนี้เป็นภัยคุกคามต่อเสินโจวมาก เหลือเชื่อว่าจะทำให้เทพเจ้ามังกรมอบระดับความโปรดปรานห้าคะแนนในคราวเดียว ระดับความโปรดปรานนี้ต้องสูงเท่าไหร่ถึงจะอัญเชิญมังกรจริงได้”

ระบบ “ไม่รู้สิ มันคือโทเท็มตระกูลเสินโจวของพวกโฮสต์ อย่ามัวแต่ถามระบบสิ รีบทรมานเจ้าพวกนี้ก่อน ระบบอยากจะรู้รายละเอียดของงูจงอางตัวนั้น ลองดูว่าจะขโมยอะไรจากมันได้บ้าง…”

ฟางหนิงได้ยินแบบนั้นก็แน่ใจว่าตนเองไม่ได้คิดผิดจริงๆ ระบบยังต้องการจับงูจงอางตัวนั้นอยู่

ขณะที่เขาเดินไปที่ห้องขังของระบบ ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองเสนอความคิดที่ไม่เข้าท่า รู้ทั้งรู้ว่าระบบจะคิดเรื่องงูจงอาง เขาควรเตือนมันให้ไว้ชีวิตหมองูเซ่อถี…

อีกฝ่ายออกคำสั่งงูจงอางได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้งูตัวนั้นฆ่าตัวตาย แต่อย่างน้อยก็เสนอวิธีอื่นที่สะดวกกว่านี้ได้เช่นกัน อีกอย่างหมอนั่นดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนกระดูกแข็ง ไม่ต้องใช้งานแอนเดอร์สันผู้เชี่ยวชาญด้านการทรมานจิตใจหรอก…

โชคดีที่ระบบงี่เง่ายังไม่รู้สึกตัว ไม่เช่นนั้นถ้ามันรู้ว่าเขาเสนอความเห็นไม่ได้เรื่องแล้วทำผิดพลาดใหญ่หลวงแบบนี้ มีหวังโดนตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตครึ่งเดือนแน่นอน มันใหญ่สุดในพื้นที่ของระบบ โหมดเกมพลังจิตก็ไร้ประโยชน์…

ฟางหนิงคิดแล้วเหงื่อก็ไหลท่วมตัว รีบคิดอ่านหาวิธีแก้ไข ดูจากการสนทนาระหว่างหมองูกับนักบวชผิวขาวเมื่อครู่ ตอนนี้น่าจะยังมีทางแก้ไขได้

ฟางหนิงเดินเข้าไปใน ‘เรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์’ ตอนนี้เขาทำได้เพียงหวังว่าระบบจะไม่คิดถึงเรื่องนี้สักพัก ให้เวลาเขาได้ใช้สมอง

ขณะนี้นักบวชผิวขาวกับหมองูเซ่อถีถูกขังอยู่ในห้องขังใหม่สองห้องกำลังส่งเสียงกรีดร้อง

“ใต้เท้าแอนเดอร์สัน เราเคยเป็นพันธมิตรกัน อย่าทรมานฉันอีกเลย ฉันเป็นแค่หัวหน้าคณะสำรวจ ไม่รู้อะไรมาก”

แอนเดอร์สัน “ขอโทษด้วย คุณโครว์ลี่ กฎของเรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าคุณจะให้ข้อมูลมากแค่ไหน ผู้มาใหม่จะต้องใช้เครื่องมือทรมานวิญญาณ 18 ประเภทก่อน อย่างนี้ฉันเลือกได้ว่าอันไหนที่ได้ผลกับพวกคุณมากที่สุด ต่อไปก็จะใช้อันนั้น…”

โครว์ลี่ “ไอ้สารเลว! คนต่ำช้าหักหลังเจ้านายเพื่อหวังประโยชน์ ไม่ช้าก็เร็วแกจะถูกว่าที่อวตารของเทพแห่งการทำลายล้างใต้เท้าเชสกลืนกิน!”

แอนเดอร์สัน “เฮ้อ ดูเหมือนว่ากระดูกของคุณโครว์ลี่จะแข็งมากทีเดียว ตอนแรกเห็นแก่เคยเป็นพันธมิตรเก่า ตั้งใจจะลงโทษเพียงครั้งเดียว พอได้ฟังแบบนี้ งั้นสามครั้งละกัน ผู้เฒ่าเฝิง อย่าลืมให้คุณเค่ยหลู่รุ่ยสองครั้งก่อน…”

ผู้เฒ่าเฝิง “รับคำสั่ง หัวหน้านักโทษแอนเดอร์สัน”

โครว์ลี่ “…”

หลังจากนั้นฟางหนิงก็เข้ามาหาแอนเดอร์สันและขอให้เขาทรมานเพื่อรีดข้อมูลเกี่ยวกับงูจงอาง

แอนเดอร์สัน “คุณโครว์ลี่ ตอนนี้มีโอกาสที่คุณจะไม่ถูกลงโทษ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะคว้าโอกาสนั้นหรือไม่”

โครว์ลี่ “อ้อ อยากจะถามอะไรก็รีบถามมาเลย สั่งให้ตาแก่บ้านั่นหยุดซะที…”

แอนเดอร์สันขอให้ผู้เฒ่าเฝิงหยุดการทรมานวิญญาณแล้วเริ่มซักถามเรื่องงูจงอาง

โครว์ลี่รีบพูด “ฉันรู้ว่างูจงอางมีอานุภาพไร้ที่สิ้นสุด มันคือว่าที่อวตารของเทพแห่งการทำลายล้าง มันชื่อเชส มีพิษร้ายแรงและสามารถสั่งฝูงสัตว์ได้…”

ตอนนี้หมองูเซ่อถีที่ถูกลงโทษในห้องขังข้างๆ ก็ดูเหมือนจะได้สติขึ้นแล้ว

เขารีบแย่งตอบทันที “ใต้เท้า ใต้เท้าทุกท่าน ท่านนักบวชทราบเรื่องไม่มากนักหรอก มาถามฉันสิ ฉันเป็นหมองูคอยเจรจากับงูจงอางตัวนั้น ฉันเลี้ยงมันมาตั้งแต่ยังเด็ก และในที่สุดมันก็เข้ามาในดินแดนมรดกแห่งนี้และยังคงฟังคำสั่งของฉัน…”

โครว์ลี่ “หุบปากซะ เจ้าคนชั้นต่ำ ตอนที่ฉันกำลังพูด ใครใช้ให้ขัดจังหวะ!”

หมองูเซ่อถีไม่กล้าพูดอีก ความเคารพต่อพวกชนชั้นสูงฝังแน่นในกระดูกตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

แอนเดอร์สัน “เอาล่ะ ผู้เฒ่าเฝิง เพิ่มการลงโทษให้คุณโครว์ลี่ผู้สูงศักดิ์อีกสักหน่อยเถอะ ลงโทษเขาที่ตะโกนใส่นักโทษของท่านพัศดีและยังเย่อหยิ่งออกคำสั่งอีก ตอนนี้หยุดการลงโทษหมองูคนนี้ได้แล้ว”

โครว์ลี่ยังคงกรีดร้องโหยหวนต่อไป ส่วนหมองูเซ่อถีที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทรมานวิญญาณอีกแล้ว ก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าตอนนี้ท่านนักบวชผู้สูงศักดิ์มีค่ากับคนลึกลับน้อยกว่าตนเองมาก

เซ่อถีไม่ได้รู้สึกผิดที่หักหลังงูจงอาง เดิมทีงูเป็นสัตว์เลือดเย็น มันไม่สนใจบุญคุณอะไรทั้งนั้น มิฉะนั้น เมื่อแปดปีก่อนมันคงจะไม่จากไปโดยไม่ได้กล่าวคำอำลา

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับงูตัวนั้นก็แค่ผลประโยชน์เท่านั้น

เขาพูดทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับงูจงอางออกไปจนหมดสิ้น

ฟางหนิงฟังแล้วก็รู้สึกผิดหวังมากเพราะเซ่อถีพูดรายละเอียดงูจงอางเพียงเล็กน้อย

งูจงอางฝึกฝนในดินแดนมรดกจนกลายเป็นสัตว์ปีศาจ เซ่อถีรู้เพียงว่ามันมีความสามารถประเภทหนึ่งที่สั่งสัตว์ปีศาจบ้าคลั่งได้ แต่ไม่รู้เรื่องอื่นๆ เช่น ระดับของความรุนแรงของพิษและความสามารถที่ซ่อนอยู่ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ค่อยเข้าใจความน่ากลัวของงูตัวนั้นเท่ากับระบบด้วยซ้ำ

ฟางหนิงถามขึ้นว่า “ถ้าฉันปล่อยวิญญาณแกออกไป งูจงอางน่าจะยังจำแกได้ใช่ไหม แกจะยังสั่งมันต่อไปได้ไหม”

ระบบได้ยินก็แย้งทันที “อะไรนะ โฮสต์ถามเขาแบบนั้นทำไม หรือว่าลืมแล้วที่เคยเตือนว่าระบบต้องเก็บเขาเอาไว้”

ตอนนี้ฟางหนิงคิดหาวิธีแก้ไขแล้ว เขาจะทำให้หัวหน้าระบบคุกเข่านับถือตนเองแน่นอน ฟางหนิงโต้กลับทันที “น่าขัน สิ่งที่ฉันคิดได้ระบบเล็กๆ อย่างแกจะคิดได้เหรอ เดี๋ยวแกก็จะรู้เอง…”

เซ่อถีตอบคำถามนั้น “เชสนั่นเป็นว่าอวตารของเทพแห่งการทำลายล้าง ย่อมระบุจิตวิญญาณได้อย่างง่ายดาย ไม่อย่างนั้นผู้น้อยจะกล้าขอจุติวิญญาณได้ยังไง โครว์ลี่ไม่มีทางเห็นด้วย หลังจากวิญญาณผู้น้อยออกไปได้น่าจะสื่อสารกับมันต่อไปได้เช่นกัน แต่เกรงว่าเพราะตอนนี้ฉันเป็นวิญญาณแล้วมันจะเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติและไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไป ถึงอย่างไรมันก็เป็นงูที่ฉลาดแกมโกงมาก”

ฟางหนิงพยักหน้าพลางเอ่ยขึ้น “อืม เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลหรอก ขอแค่แกไม่ตุกติกทำตามคำแนะนำของฉัน ทุกอย่างจะเรียบร้อย หลังจากเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว รับประกันว่าแกอยู่ในคุกนี้สบายแน่นอน ไม่แย่ไปกว่าข้างนอกหรอก”

เซ่อถีตอบรับด้วยความเคารพ “รับทราบๆ ผู้น้อยจะเชื่อฟังคำพูดทุกอย่างของท่านพัศดี”

ฟางหนิงออกมาจาก ‘เรือนจำมังกรศักสิทธิ์’ เอ่ยกับระบบ “ไม่ต้องกังวล ความจริงเมื่อกี้ฉันจงใจไม่ได้เตือนแก เพราะอยากรอให้แกนำวิญญาณเซ่อถีเข้าคุกก่อน ฉันคิดกลยุทธ์เด็ดไว้แล้ว รับประกันได้ว่าระบบเล็กๆ อย่างแกจะมีความสุขแน่นอน”

ระบบ “อย่ามาทำพูดไปหน่อยเลย เห็นได้ชัดว่าโฮสต์ลืมเตือนให้ระบบเก็บเขาไว้ ต่อไปถ้าแผนนี้ล้มเหลว ระบบจะตัดอินเทอร์เน็ตสักครึ่งปี…”

ฟางหนิงยิ้มเยาะ “หึ ถ้าไม่เชื่อฉัน ก็รอดูละกัน…”

……………………………………………………………………

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท