เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 150 ถุงของขวัญประสบการณ์และการทำสงครามประจำตำแหน่ง

บทที่ 150 ถุงของขวัญประสบการณ์และการทำสงครามประจำตำแหน่ง

บทที่ 150 ถุงของขวัญประสบการณ์และการทำสงครามประจำตำแหน่ง

งูจงอางเชสไล่ฝูงเม่นไปยังฐานวัตถุดิบยาอีกแห่งหนึ่ง มันอยู่ที่นี่มาแปดปีเต็มๆ อันที่จริงมันจับตาการเคลื่อนไหวของคนเสินโจวมานานแล้ว

เพียงแต่อีกฝ่ายไม่มายุ่งวุ่นวายกับมัน มันก็จะไม่เสี่ยงบาดเจ็บไปข่มขู่อีกฝ่าย ครั้งนี้ชาวเทียนจู๋เข้ามาให้ความหวังมันในการจะทะลวงขั้นต่อไปได้ มันย่อมไม่มีความปราณี ขอแค่ทะลวงอีกขั้นได้ มันจะเป็นใหญ่สูงสุดเพียงผู้เดียวในดินแดนมรดกแห่งนี้

พวกสัตว์ปีศาจที่เป็นศัตรูในธรรมชาติไม่กี่ตัว มันบดขยี้ได้ง่ายดาย ไม่เหมือนสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้แต่อาศัยการฝึกฝนให้สูงขึ้น ข่มขู่ไม่ให้พวกมันกล้ามาล่าตนเอง

ฟางหนิงเฝ้าดูระบบควบคุมร่างกายของอัศวิน A เพิ่งจะวิ่งไปที่ฐานยาได้แค่ครึ่งชั่วโมง จู่ๆ ก็ถ่อกลับไปที่สำนักงานใหญ่อีก

ฟางหนิง “ไม่เข้าใจเลย ทำไมแกถึงย้อนกลับมา หรือว่ามีของมีค่าให้หยิบงั้นเหรอ…”

ระบบตอบ “เอ๊ะ โฮสต์ ตอนนี้คุณรู้จักฉันดีมากทีเดียว มันไม่ใช่ของมีค่า แต่เป็นหัวที่เก็บได้…”

ไม่นานฟางหนิงก็เห็นว่าในสำนักงานใหญ่มีมารเม่นตัวหนึ่งที่ถูกพิษปางตาย กำลังดิ้นรนอยู่บนพื้น

ฟางหนิงรีบหยิบหนังสือเกมออกมาอ่านข้อมูลของอีกฝ่าย “มารเม่นบ้าเลือดกลายพันธุ์ เพศผู้ ชอบทำลายล้าง ไม่ทราบอายุ สถานะ: มารเม่นกลายพันธุ์ เผ่ามารเม่น”

“แนวโน้มความดีและความชั่ว: ความชั่ว”

“การประเมินความแข็งแกร่ง: ระดับบ่อน้ำ รายละเอียดขนาด: สระว่ายน้ำ อยู่ในสภาพใกล้ตาย ระดับความอันตรายต่ำมาก”

ฟางหนิงตกตะลึง ได้ของดีจริงๆ ด้วย แผนที่ระบบนี้เจ๋งมาก

ตอนนี้ยังไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง แผนที่ระบบของดินแดนมรดกนี้ยังคงสว่างอยู่ ระบบเก็บเม่นตัวนี้ได้ ถ้าช้าอีกหน่อยมันจะตายแล้ว…

อัศวิน A ก้าวเข้าไปใช้ฝ่ามือลมตบหัวเม่น

เม่นเพียงแต่ตัวสั่นเล็กน้อย ยังคงนอนดิ้นรนบนพื้นราวกับว่ามันไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิดเดียว

ฟางหนิงเห็นอย่างนี้ก็ยิ่งตกตะลึง ให้ตายสิ นี่มันกำลังจะตายแล้ว แต่ฆ่ามันไม่ได้ในฝ่ามือเดียว

จากนั้นเขาก็เห็นมังกรเพลิงและมังกรลมปรากฏขึ้นระหว่างมือของอัศวิน A แล้วหมุนวนเป็นเกลียวเข้าหากันพุ่งเข้าใส่มารเม่นตัวนั้นพร้อมกัน

มารเม่นไม่อาจหลบหลีกได้ ถูกโจมตีอย่างจัง ในที่สุดก็จบชีวิต

การแจ้งเตือนของระบบ:

(ระบบใช้ฝ่ามือมังกรวายุโจมตีมารเม่น

มารเม่นอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ สถานะใกล้ตายและเป็นอัมพาตจากพิษของงูจงอาง

พรสวรรค์ ‘หนังแข็ง’ ของมารเม่นถูกเปิดใช้งาน ลบล้างความเสียหายส่วนใหญ่

ระบบสร้างความเสียหาย 400 ดาเมจให้กับมารเม่น

ระบบใช้สล็อตความโกรธหนึ่งช่องและสล็อตพลังปราณหนึ่งช่อง เปิดใช้งานทักษะ ‘มังกรเพลิงคำราม’

ระบบจะใช้สล็อตความโกรธหนึ่งช่องและสล็อตพลังปราณหนึ่งช่อง เปิดใช้งานทักษะ ‘มังกรวายุโจมตี’

ปราณแท้เพิ่มเอฟเฟกต์ พัฒนาเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะลึกลับชั่วคราว ‘การโจมตีคู่มังกรเพลิงวายุ’ !

มารเม่นถูกอานุภาพมังกรสยบ ตกอยู่ในสภาวะที่ใกล้จะตาย พ่ายแพ้อานุภาพมังกร ส่งผลพรสวรรค์ ‘หนังแข็ง’ ล้มเหลว

มารเม่นได้รับความเสียหาย 20,000 ดาเมจ

มารเม่นถูกฆ่าตายแล้ว

ระบบได้รับค่าประสบการณ์ 12.3 ล้านแต้ม

ระบบได้รับชื่อเสียงอัศวินเล็กน้อย

ระบบได้รับค่าพลังปราณเล็กน้อย

ระบบได้รับส่วนผสมชั้นยอดศพของมารเม่น

หมายเหตุ: มีพิษร้ายแรง กินแล้วจะถูกพิษของงูจงอางแน่นอน ถ้าผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่าบ่อน้ำไม่มีสมบัติพิเศษ กินเข้าไปจะต้องตาย หากผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำที่ไม่มีความต้านทานกินเข้าไปก็จะถูกยาพิษจนเป็นอัมพาต และเข้าสู่สภาวะใกล้ตายในที่สุด)

ฟางหนิงปรบมือ “เจ๋งสุดๆ ถุงของขวัญประสบการณ์ที่ได้มาโดยไม่ต้องลงแรงอะไรมาก ประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำล้นหลาม ครั้งก่อนฆ่าหนานคุน เพิ่งจะอัปเกรด ‘การแปลงร่างมังกร’ คราวนี้แกอัปเกรด ‘คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ ได้”

ระบบ “ต้องอัปเกรดมัน”

ฟางหนิง “ฉันคิดว่าครั้งก่อนที่อัปเกรด ‘การแปลงร่างมังกร’ แสดงว่าถึงขีดจำกัดแล้ว หลังจากที่แกอัปเกรด ‘คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ เสร็จแล้วก็ควรอัปเกรดอีกเลเวลไม่ใช่เหรอ”

ระบบ “คุณคิดจะทำอะไร ตอนนี้เลเวล 15 ก็เพียงพอแล้ว ยังมีทักษะอีกมากมายให้ฝึกฝน พิณ หมากล้อม การเขียนพู่กันและภาพวาดของฉันยังต้องอัปเกรดอีก ยังมีการกลั่นยา มีทักษะมากมายที่ต้องอัปเกรดรออยู่ ยังไม่ถึงรอบต้องอัปเกรดเลเวล…”

ฟางหนิงตอบ “แกอยากหยุดการอัปเกรดเลเวลอีกครั้งใช่ไหม คราวนี้พึ่งพากลยุทธ์ยอดเยี่ยมของฉันล้วนๆ ไม่อย่างนั้นจะไปเก็บถุงของขวัญใหญ่อย่างนี้มาจากไหน”

ระบบ “อ้อ ฉันจะไปเก็บวัตถุดิบยา คุณไปนอนเถอะ ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าปวดหัวไม่ใช่เหรอ”

ฟางหนิง “ความสามารถเปลี่ยนเรื่องของแกห่วยมาก น่าจะฝึกเพิ่มหน่อย… หลังจากที่ฉันอ่านการแจ้งเตือนระบบ ก็กำลังคิดหาวิธีเจ๋งๆ จับปีศาจ ในเมื่อแกหยุดอัปเกรดเลเวล งั้นก็ไม่จำเป็นต้องบอกแล้ว”

การแจ้งเตือนของระบบ: (ระบบใช้ค่าประสบการณ์ 500,000 คะแนนเพื่ออัปเกรดเป็นเลเวล 16)

ฟางหนิง “ขี้งกจริงๆ ช่างเถอะ ฉันฟางหนิงคนใหญ่คนโต ไม่จุกจิกกับระบบเล็กๆ อย่างแก ขอเตือนหน่อยละกัน ศพของมารเม่นมีพิษร้ายเอามาใช้ตกปลาได้ บอกว่าสัตว์ปีศาจสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์อาละวาดไร้เหตุผลไม่ใช่เหรอ น่าจะตกได้หลายตัว”

ระบบ “โฮสต์ฉลาดเป็นกรด มีคำเตือนอื่นอีกไหม”

ฟางหนิงตอบ “ไม่มีละ ฉันจะไปนอน”

หลังจากนั้นตลอดทั้งวัน งูจงอางเชสก็คว้าน้ำเหลวถึงสามที่ รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น และได้สติขึ้นมาหลังจากโมโหโกรธาแล้ว

มันเข้าใจดี ถึงแม้ตนเองจะแข็งแกร่ง แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันคือข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม งูไม่สามารถเคลื่อนไหวระยะไกลได้จริงๆ เมื่อเทียบกับศัตรูตามธรรมชาติอย่างนกอินทรีและแมว นี่คือจุดอ่อนที่ชัดเจนของมัน

มันเป็นข้อบกพร่องตามธรรมชาติ เว้นแต่ว่ามันจะทะลวงระดับ A ไปถึงระดับ S ขึ้นไป ถึงจะชดเชยข้อบกพร่องนี้ได้ อย่างเช่นมันเลือกที่จะเป็นงูบินได้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงกระตือรือร้นที่จะก้าวหน้า ขอแค่ชดเชยข้อบกพร่องสำคัญที่สุดในด้านความคล่องตัว มันก็แทบจะไม่ต้องเกรงกลัวคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันแล้ว

เกล็ดของมันแข็งแรงและมีพิษสูง และเป็นที่ชื่นชอบของเทพ ถ้ามันบินได้ มันจะสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ทั้งหมดในระดับเดียวกันได้

“ถ้าอย่างนั้น เผชิญหน้ากันเลยดีกว่า ข้าอยากจะดูหน่อย เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างพวกเจ้า สิ่งมีชีวิตที่ไม่ต่างอะไรกับมดจะต่อกรกับข้าที่เป็นร่างอวตารในโลกมนุษย์ของเทพแห่งการทำลายล้างได้หรือไม่!”

สำนักงานสัจธรรมได้ลบสำนักงานใหญ่ออกไปแล้ว สิบปีที่ผ่านมาบุกเบิกฐานยาเพียงหกแห่งในดินแดนมรดกและสถานที่ฝึกฝนอีกสี่แห่ง

อีกทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าปีศาจที่อยู่ใกล้เคียงถึงบุกเบิกได้สำเร็จ ทุกปีต้องส่งวัตถุดิบยาให้พวกมันทุกปี

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งยับยั้งกลุ่มสัตว์ปีศาจจากการทำลายสถานที่เหล่านั้น แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตของคนในเผ่าเพื่อปกป้องฐานเหล่านั้น สำหรับพวกกลายพันธุ์ที่มีความรุนแรง พวกมันไม่อยากยุ่ง เมื่อพวกมันปรากฏตัว สำนักงานสัจธรรมได้แต่ส่งกองกำลังชุดดำไปต่อสู้กับพวกมัน

หลังจากที่อัศวิน A เก็บฐานยาทั้งหกแห่งแล้วก็กลับไปที่หุบเขาและอีกสามคนก็กระจายตัวออกไป เพื่อปกป้องสถานที่คนละแห่ง เฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ตอนนี้การซุ่มโจมตีได้กลายเป็นการต่อสู้ตามตำแหน่ง และป้อมปราการได้ถูกสร้างขึ้นในหุบเขาทันที ผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำทั้งสี่มีหน้าที่เตือนและป้องกันการจู่โจมฉับพลันของงูจงอางทันท่วงที

พวกเขามีคนก่อสร้างมากพอ สมาชิกชุดดำหลายหมื่นคนที่ประกอบเป็นกระบวนทัพ ฟางหนิงเฝ้าดูอย่างระมัดระวังเป็นเวลานานและต้องการนับจำนวนคนให้ละเอียด ผลคือระบบบอกเขาทันที ตัวเลขเป๊ะๆ คือ 53,600 นาย เพื่อให้เขาไม่ต้องพยายามนับ

สมาชิกชุดดำมีระดับการฝึกฝนในระดับหนึ่ง อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นผู้เล่นระดับถ้วย พวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรหากอยู่เพียงลำพัง แต่เมื่อรวมตัวกันก็จะปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ได้

ระบบเคยประเมินกองทหารนี้มีพลังมหาศาล รับมือพลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับสูงอย่างระดับบ่อน้ำได้ ขอแค่กำหนดเป้าหมาย ก็ไม่มีพลังใดที่จะต้านทานได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แต่งูจงอางตัวนั้นก็ไม่เว้น

เป็นครั้งแรกที่ฟางหนิงได้เห็นการต่อสู้ของกลุ่มใหญ่ การแบ่งงานและความร่วมมือนั้นพิถีพิถันมาก แต่ละคำสั่งได้รับมาอย่างมีระเบียบและมีคนไปลงมือทำ ทุกคนเป็นอะไหล่ของเครื่องจักรสงครามที่มีประสิทธิภาพสูง บุคคลเดียวไม่อาจจะเทียบได้เลย

เวลาสั้นๆ แค่สองวัน ป้อมปราการไม้แข็งแรงที่ทำจากวัสดุในพื้นที่ก็ผุดขึ้นจากพื้นดิน และการวางแนวป้องกันก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมกัน มันมีคุณสมบัติกันไฟ กันลม กันกระแทกและกันระเบิด มันสามารถรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อต้านทานการโจมตีแบบระเบิดพลังของผู้แข็งแกร่ง ป้อมปราการแห่งนี้ล้อมรอบทางออกของชาวเทียนจู๋ในดินแดนมรดกให้อยู่ตรงกลาง และยังจัดรูปแบบขบวนอย่างระมัดระวัง

ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายไม่ญาติดีกันแล้วในการต่อสู้ที่ดินแดนมรดก จากนี้จะไม่มีด่านตรวจใดๆ ปิดประตูห้ามเข้าอย่างเดียว

หากพวกเขาไปรายงานตัวต่อสำนักงานประสานงานกิจการพิเศษโลก นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ อีกฝ่ายหนึ่งสมรู้ร่วมคิดกับงูจงอางเพื่อโจมตีประเทศสมาชิก ถือโอกาสส่งเรื่องเข้าไปได้ เผลอๆ พวกเขาจะถูกขับไล่จากการเป็นสมาชิก

มันเป็นเรื่องต้องห้าม ประเทศที่แข็งแกร่งอย่างประเทศมิอิจะใช้บุคคลที่สาม เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ทำเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้ เช่น ขโมยเทคโนโลยี ไม่มีทางเริ่มเปิดศึกอย่างเปิดเผยเด็ดขาด

สำนักกิจการพิเศษของประเทศมิอิมีคนฉลาดเยอะแยะ พวกเขารู้ว่าในยุคใหม่อันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะไม่มีวันมาจากเสินโจว แต่มาจากพวกปีศาจที่ไม่ใช่มนุษย์ บางทีการปรากฏตัวของเทพและปีศาจสักตัวก็คือวิกฤตชาติล่มสลาย

ระบบเศรษฐกิจเสินโจวมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายชาวมิอิ แต่ปีศาจไม่สนใจเรื่องนี้ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมีความหมายอะไรในสายตาของพวกมัน ความศรัทธา เนื้อหนัง และเลือดของคนมิอิอาจมีความหมายกับพวกมัน แต่ชิปล้ำสมัย เครื่องมือวัดความเที่ยงตรง และภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ที่ผลิตโดยชาวมิอิ…แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย

หลังจากสร้างป้อมปราการไม้เสร็จแล้ว ห้องวีไอพีก็ได้รับการจัดสรรให้อัศวิน A เพื่อทำสมาธิและฝึกฝน

ตอนนี้ฟางหนิงไม่รู้ว่างูจงอางกำลังทำอะไรอยู่ สองวันเต็มๆ แล้ว อีกฝ่ายน่าจะค้นพบว่าการโจมตีฐานย่อยไร้ความหมาย แต่ไม่ได้ฉวยโอกาสลอบโจมตีที่นี่ กระทั่งไม่มีวี่แววว่าจะโผล่หน้ามาใกล้ๆ ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างงุนงง ผลของ ‘ความช่วยเหลือพันลี้’ ที่เกิดจากหลงฝานหายไป ตอนนี้แผนที่ระบบมืดลงแล้ว

ระบบ “ทำยังไงดี เพิ่งได้รับประสบการณ์มากมาย สองวันมานี้เก็บตัวฝึกฝน ตอนนี้ออกมาแล้วกลับไม่เห็นปีศาจสักตัว จะไปตกปลาก็ไม่ได้”

ฟางหนิง “แกตั้งใจแกล้งโง่งั้นเหรอ ตามหลงฝานมา หยิบมือถือแบรนด์มังกรแห่งจิตวิญญาณที่เก็บไว้ในสต็อกให้มันเครื่องหนึ่ง… ช่างมันเถอะ เฉียวจื่อเจียงฉลาดเกินไป เธอมองเห็นปัญหาได้ง่ายๆ ฉันจะเรียกหลงฝานมาหลอกเขาหน่อย”

งูดำหลงฝานได้ยินคนแจ้งเฉียวจื่อเจียง ท่านมังกรขาวต้องการเรียกเขาไปคุย

มันไม่รอให้เฉียวจื่อเจียงตอบตกลงก็วางหนังสือนิยายที่กำลังอ่านอยู่ลงแล้วกระตือรือร้นบินออกไปทันที

มันเจออัศวินท่านนี้สองครั้ง และทั้งสองครั้งก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป แน่นอนว่ามันต้องกระตือรือร้นเต็มที่

“ท่านเทพ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครั้งที่แล้ว ท่านจะเห็นว่าในที่สุดข้าก็มีมือแล้ว” ขณะพูดหลงฝานพลันกลายเป็นมือมนุษย์ข้างหนึ่ง

ฟางหนิงเพิ่งจะกลายร่างเป็นมังกรบินออกไป พอเห็นเข้าก็ตกใจ “เจ้ามีลักษณะเช่นนี้ ข้านึกว่าเห็นมือผี รีบเปลี่ยนกลับไปเร็วๆ”

หลังจากถูกตำหนิ หลงฝานก็รู้ว่ารูปร่างของมือค่อนข้างน่าเกลียด จึงรีบเปลี่ยนกลับร่างเดิม “ท่านมังกรขาว ท่านขอให้ข้ามา มีเรื่องอะไรเหรอ”

ฟางหนิง “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่โทรศัพท์เครื่องใหม่ของข้าอาจจะมีปัญหา เจ้าช่วยดูให้ข้าหน่อย ลองกดปุ่มนี้สิ”

…………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท