เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 165 แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอเพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ

บทที่ 165 แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอเพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ

บทที่ 165 แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอเพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ

ฟางหนิงเดินไปรอบๆ พูดคุยกับคนงานในฟาร์ม โดยทั่วไปแล้วทุกคนยังคงเชื่อผู้มีอำนาจสูงกว่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองฉีได้เข้าสู่ยุคใหม่มานานกว่าครึ่งปีแล้วและเงียบสงบมาก กระทั่งความสงบเรียบร้อยของสังคมดีขึ้นกว่าแต่ก่อน

แน่นอนว่าที่นี่คือรังเก่าของอาชญากร อัศวิน A ต้องคอยกำจัดเป็นครั้งคราว คนชั่วไม่มีทางหลบซ่อนได้และไม่มีที่ว่างให้พวกมันเติบโตที่นี่…

แน่นอนว่ายังมีเรื่องประหลาดมากมายที่เกิดขึ้นในต่างประเทศส่งต่อกันบนโลกอินเทอร์เน็ต เพียงแต่ระยะทางที่ห่างไกล ทุกคนต่างมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

ฟางหนิงเดินวนรอบหนึ่งรู้สึกแน่ใจแล้ว เขาจึงกลับไปอ่านนิยายที่ห้องนอนด้วยความสบายใจ

ครั้งสุดท้ายที่หลงฟานพูดถึงผู้แต่ง “XXXXX” เขาค้นหาบนอินเทอร์เน็ตก็พบว่าอีกฝ่ายเริ่มอัปโหลดหนังสือเล่มใหม่เมื่อสี่เดือนก่อน

นักเขียนรักษาระดับการอัปเดตวันละ100,000 คำจริงๆ ภายในเวลาสี่เดือน 120 วัน ตอนนี้หนังสือเล่มใหม่มีถึง 12 ล้านคำแล้ว คล้ายกับพวกที่มีทัศนคติมุ่งเน้นจำนวนคำนิยายเป็นอันดับหนึ่งฟางหนิงเป็นหนอนหนังสือมานาน ไม่ใช่คนไม่มีความรู้อย่างแน่นอน หนังสือที่มีจำนวนคำ 20 ล้านกว่าคำเขาก็เคยอ่านมาแล้ว…

แต่เห็นได้ชัดว่าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง “XXXX” มีทัศนคติที่อยากจะเหนือว่า ในเมื่อความเร็วในการอัปเดตอยู่ระดับนั้น ขอแค่อีกฝ่ายยังคงรักษาระดับนั้นได้ต่อไป

ฟางหนิงถามตัวเองว่าเขาเป็นหนอนหนังสือเก่าที่มีรสนิยมเอาใจยาก เขาคงจะอ่านหนังสือยาวเหยียดแบบนี้ไม่จบแน่ๆ

แต่กลับเป็นว่าพอเขาเริ่มอ่านก็ถูกดึงดูดดำดิ่งเข้าไปทันที เดี๋ยวดีใจเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวโกรธเดี๋ยวด่า ทำให้อารมณ์ของเขาแปรปรวน

หลังจากนั้นไม่นานก็มีบางคนไม่พอใจ

ระบบ “โฮสต์ ตอนนี้เป็นเวลาว่างของคุณ ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะอ่านนิยายรึเปล่า แต่ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม”

ฟางหนิงโบกมือ “โอเค ฉันไม่หัวเราะแล้วโอเคไหม ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกชิบเป๋ง…”

ระบบ “ไม่ใช่สิ ฉันคิดว่าสภาพจิตใจของคุณมีบางอย่างผิดปกติ ฉันต้องตรวจสอบหน่อย”

การแจ้งเตือนของระบบ (คุณถูกตัดอินเทอร์เน็ต)

ฟางหนิงเอ่ย “ฉันดาวน์โหลดลงมาในเครื่องแล้ว”

การแจ้งเตือนของระบบ (คุณถูกตัดการเชื่อมต่อไฟฟ้า)

เมื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์กลายเป็นสีดำ ฟางหนิงพลันรู้สึกว่างเปล่าและชีวิตไร้ความหมายอีกต่อไป “รีบตรวจเร็วๆ อย่าขัดขวางการอ่านนิยายของฉัน”

(ระบบเริ่มตรวจสอบสภาพจิตใจของโฮสต์

ระบบกำลังตรวจสอบสภาพจิตใจของโฮสต์…

ระบบพบว่าโฮสต์มีอาการจิตฟุ้งซ่าน

ระบบคิดว่าโฮสต์ต้องรับการรักษา…)

ฟางหนิงตกใจมาก “ฉันไม่อยากรักษา!

ระบบ “ไม่ต้องกลัว กินยาเม็ดนี้เดี๋ยวก็หาย”

เห็นยาเม็ดสีดำสนิทพลันปรากฏขึ้นแล้วลอยมาอยู่ต่อหน้าฟางหนิง

“ฉันว่าถ้าฉันกินยาเม็ดนี้เข้าไปถึงจะมีปัญหา ไม่กินดีกว่า ” ฟางหนิงปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

ระบบ “คุณต้องกิน ตอนนี้คุณป่วยมาก ฉันมีทักษะการแพทย์ระดับปรมาจารย์ ไม่มีทางหลอกคุณ”

ฟางหนิงยืนกรานปฏิเสธ

ระบบ “โอเค ดูเหมือนว่าฉันต้องกินแทนแล้วล่ะ”

ฟางหนิงรู้สึกท่าไม่ดีก็เห็นว่าร่างกายของเขาสูญเสียการควบคุม หลังสภาวะล่องลอยสิ้นสุดลง ร่างกายก็กลับมาถูกครองร่าง

ฟางหนิงเห็นเพียงตัวเองอ้าปากกลืนเม็ดยาสีดำลงไป

รสเผ็ดร้อนปนขมพุ่งตรงไปที่หน้าผากของเขาและรู้สึกสมองปลอดโปร่งทันที

ฟางหนิงพูดไม่ออก “บ้าเอ๊ย แกให้ฉันกินอะไร”

ระบบ “ฉันใช้สมุนไพรที่บริสุทธิ์กับผงพริกไทผสมกับส่วนผสมยาปราณแท้สงบจิตสกัดเป็นยาสงบจิต ตอนนี้คุณรู้สึกสมองปลอดโปร่งมากขึ้นไหม”

ฟางหนิงสีหน้าหมดหนทาง “ฉันแค่รู้สึกเบื่อมาก คืนไฟกับอินเตอร์เน็ตมาได้แล้ว”

หลังจากที่อินเตอร์เน็ตกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ฟางหนิงอ่านนิยายต่อก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลังจากอ่านแล้วก็ไม่มีอารมณ์ตื่นเต้นอีก แต่กลับเข้าสู่สภาวะหนอนหนังสือเก่า

เขาสงสัย “เอ๊ะ นี่มันเนื้อหาเดียวกันชัดๆ แต่ทำไมฉันถึงไม่ได้รู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้ ยาของแกประหลาดหรือเนื้อหาของหนังสือประหลาดกันแน่”

ระบบ “ไม่รู้สิ แต่สภาพจิตใจของคุณตอนนี้ไม่แปลกแล้ว คุณอย่ามัวแต่อ่านนิยายสนุกๆ ฉันเคยบอกแล้วคุณเรียบเรียงกลยุทธ์แกล้งทำเป็นคนอ่อนแอเพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจจากในนิยายได้ วันหลังฉันเล่นอันดับมืดต่อไปได้ ก่อนหน้านี้ยุ่งอยู่กับการจัดการปีศาจตัวใหญ่ ไม่มีเวลาพูดถึงเรื่องนี้ พอดีช่วงนี้คุณว่าง ช่วยฉันหาในนิยายดูหน่อย”

ฟางหนิงจนใจ อ่านนิยายแบบต้องทำภารกิจด้วย ยังจะสนุกอีกเหรอ

ฟางหนิง “หาก็ได้ แต่ไม่แน่จะได้ผลเสมอไปนะ ในเมื่อนิยายแตกต่างกับความเป็นจริงมาก”

ระบบ “ฟังจากที่คุณพูด ดูเหมือนว่าฉันต้องมอบเควสเพื่อกระตุ้นคุณสักหน่อย”

ฟางหนิงฟังแล้วรู้สึกท่าจะไม่ค่อยดี หลังจากนั้นก็ได้ยินการแจ้งเตือนของระบบปรากฏขึ้น

การแจ้งเตือนของระบบ

(โมดูลเควสหนังสือเกมขั้นสูงเริ่มประกาศเควสเกมไปยังโฮสต์ดังนี้

เควสที่หนึ่ง: ’ไม่ด้อยกว่ามนุษย์’ เป็นเควสหลักยาวมากและไม่มีกำหนดเวลา ค้นหาสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ทุกไตรมาส เพื่อเป็นคู่เปรียบเทียบกับระบบ ทุกครั้งที่ทำเควสจะได้รางวัลเงินสดหนึ่งล้าน หมายเหตุ: ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้วหนึ่งเควส สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดครั้งที่แล้วก็คือ ปีศาจกลืนกินวิญญาณแอนเดอร์สัน ตอนนี้มีอัปเดตอีกครั้งแล้ว

เควสที่สอง: ’แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอเพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ’ เป็นเควสหลักที่ยาวมากและมีเวลาจำกัด เพื่อท้าทายการจัดอันดับมืดเป็นเวลานาน ระบบจึงตัดสินใจให้ผู้อื่นดูถูกตัวเอง ขอให้โฮสต์ช่วยหาวิธีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของระบบ ทุกครั้งที่ทำเควสจะได้รับรางวัลคือ ทุกครั้งที่ระบบสู้ในเกมอันดับมืดจะให้รางวัล 0.05% หากเควสล้มเหลวจะถูกลงโทษก็คือ หลังจากอัปเดตเควสแล้ว เควสจะต้องเสร็จสิ้นภายในหนึ่งเดือน มิฉะนั้น…)

ฟางหนิงได้ยินข้อความจากระบบก็หยิบหนังสือเกมออกมา พลิกดูเควสที่ต้องทำ พออ่านแล้วก็รู้สึกทั้งดีใจและสงสัย “แกใจกว้างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่แกรู้จักแบ่งปันให้ฉัน แต่ทำไมถึงมีการลงโทษด้วยล่ะ แล้วยังเขียน…ไว้ แล้วแกจะประกาศมันทำไม”

ระบบได้ยินจึงมองดู หลังจากนั้นก็สบถ “บ้าชิบ ไอ้หนังสือพังๆ เล่มนี้เป็นปฏิปักษ์กับฉันอีกแล้ว! ฉันเขียนชัดเจนถ้าทำไม่สำเร็จภายในหนึ่งเดือนจะต้องถูกปรับเงินและถูกตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่มันกลับละข้อความไว้…”

เมื่อฟางหนิงได้ยินก็เข้าใจสาเหตุในทันที รีบกอดหนังสือเกมจูบมันแรงๆ “ฮ่าฮ่า หนังสือเกมสุดที่รักเหมือนกับเจ้านายของมันจริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความกตัญญู ไม่เสียแรงที่ฉันเกลี้ยกล่อมให้แกช่วยมันไว้เมื่อวันก่อน…”

ระบบ “ช่างมันเถอะ ไม่ลงโทษก็ไม่ลงโทษ ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกคุณ รีบๆ ช่วยฉันคิดได้แล้ว”

ฟางหนิงพูดอย่างดูถูก “คิดก็คิด เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ ฉันอ่านหนังสือตั้งมากมายมีสารพัดกลอุบาย ฉันจะหาไม่ได้เชียวเหรอ แกอย่าโกงรางวัลของฉันเมื่อถึงเวลาก็แล้วกัน”

ระบบ “ขอแค่มันใช้งานได้ รางวัลของคุณจะไม่ถูกหัก”

ฟางหนิงฟังแล้วกลอกตาไปมา แผนการผุดขึ้นมาในใจแล้วพูดกับระบบ “มีวิธีแล้ว แกแค่ต้องทำอย่างนี้ๆ ก็ได้แล้ว…”

ระบบชม “โฮสต์ฉลาดมาก”

…………

วันรุ่งขึ้น พ่อบ้านเจิ้งถูกโทรศัพท์เรียกเข้าไปในห้องนอนของอัศวิน A

เขาเห็นเพียงท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณนั่งขัดสมาธิบนเตียง เขาหลับตาและใบหน้าขาวซีด มุมปากมีคราบเลือดจางๆ

กลิ่นอายพลังของอีกฝ่ายที่เคยถูกเก็บซ่อนไว้คล้ายกับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในเวลานี้มันผันผวน เดี๋ยวแข็งแกร่งเดี๋ยวอ่อนแอ มองแวบเดียวก็รู้ว่ามีปัญหา

สีหน้าของเจิ้งต้าวตกตะลึง เขาก้าวเข้าไปแล้วรีบถาม “ท่านเทพ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน”

ระบบควบคุมร่างของอัศวิน A ลืมตาขึ้นช้าๆ และถอนหายใจ “พ่อบ้านเจิ้ง ในที่สุดคุณก็มา เฮ่อ หลายวันก่อนข้าอยู่ในสถานที่ลึกลับ ตอนฆ่าปีศาจตัวใหญ่ฉันบาดเจ็บจากคำสาปชั่วร้ายของมัน ตอนนั้นยังไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ไม่คิดว่าผลจะร้ายแรงขนาดนี้ ตอนนี้ควบคุมไม่ได้แล้ว จิตวิญญาณบาดเจ็บสาหัส ต้องเก็บตัวพักฟื้นหลายวันหลายวัน ขอให้คุณช่วยเฝ้าประตูให้แน่นหนา อย่านำเรื่องนี้ไปแพร่งพราย”

เจิ้งต้าวรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ตอนนี้พลังพิเศษจิตใจแข็งแกร่งขึ้นมาก ย่อมแยกแยะได้ชัดเจนว่าคำพูดของท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณนั้นมาจากความจริงใจ ไม่มีการเสแสร้งแม้แต่น้อย

บาดแผลแบบนี้ มีแต่คนใกล้ตัวผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ และท่านเทพก็ถือว่าตนเป็นคนสนิท…

เจิ้งต้าวหลุดออกจากความคิดของเขาและพูดทันทีว่า “ผมจะจัดการให้เรียบร้อย ท่านเทพยังต้องการให้ผมแอบไปซื้อยารักษาให้หรือไม่”

อัศวิน A “คุณเป็นคนคิดรอบคอบเสียจริง อย่างนี้ก็ดี แต่อย่าให้คนนอกรู้เรื่องนี้เด็ดขาด เดี๋ยวจะให้รายชื่อยาที่ใช้รักษาอาการจิตวิญญาณบาดเจ็บ”

เจิ้งต้าวพยักหน้า

ฟางหนิงมองดูสีหน้ากังวลใจของอีกฝ่ายก็รู้สึกซาบซึ้งมาก ชักจะใจอ่อนขึ้นมา “ฉันทนไม่ค่อยได้ที่จะโกหกพ่อบ้านเจิ้งในตอนนี้…”

ระบบตอบแบบไม่สนใจ “ฉันมีกฎเกณฑ์และจะไม่มีทางทำอะไรที่ขัดกับการผดุงคุณธรรม คุณอย่าใจอ่อน เสนอความคิดทำนองนี้ให้ฉันอีกสักสองสามข้อ กลอุบายนี้ใช้ได้ไม่นาน”

ฟางหนิง “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีแผนมากมาย ขอแค่แกแข็งแกร่งพอ”

…………

ณ ฐานแห่งหนึ่งของสำนักงานสัจธรรมในเสินโจว เฉียวจื่อเจียงพาอาของเธอมาพักฟื้นอยู่ที่นี่

ถึงยังไงเงื่อนไขทางการแพทย์ที่นี่เหนือกว่าดินแดนมรดกมาก ที่นั่นไม่มีการก่อสร้างที่ทันสมัยเพื่อเป็นมิตรกับเผ่าปีศาจ

จิตวิญญาณของเฉียวอันผิงบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าปราณกำเนิดของเขาจะแข็งแกร่งหรือไม่ มันเกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อย พักผ่อนที่นี่ทั้งปลอดภัยและสะดวกกว่า

ขณะที่เฉียวจื่อเจียงอยู่เป็นเพื่อนคุณอาก็มีคนโทรเข้ามา

หลังจากที่เธอออกไปรับโทรศัพท์ พอกลับมาก็มีสีหน้าสับสน ทั้งละอายใจและตื้นตัน

เฉียวอันผิงไม่ค่อยเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนของหลานสาว เขาฝืนลุกขึ้นเอ่ยถาม “มีเรื่องอะไร จื่อเจียง”

เฉียวจื่อเจียงรีบตอบ “อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ สมาชิกของทีมสืบสวนพิเศษรายงานว่าพวกเขาพบพ่อบ้านเจิ้งต้าวของท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณแอบมอบหมายให้ป้าติงเซียงช่วยสั่งยาจากตลาดยาของสำนักงานสัจธรรม ทั้งหมดเป็นยาหายากที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของวิญญาณ”

ยาตามรายการที่อัศวิน A ต้องการในเสินโจวมีเพียงแค่สำนักงานสัจธรรมเท่านั้นที่ขายได้ในปริมาณมาก ที่อื่นอาจจะมีขายแต่ปริมาณไม่มากพอแน่นอน และยากที่จะหาช่องทาง แม้ต้องการเก็บเป็นความลับสุดยอด เจิ้งต้าวก็ทำได้เพียงเท่านี้ เขาคิดว่าสำนักงานสัจธรรมเป็นพันธมิตรและน่าจะช่วยเก็บเป็นความลับ

ในเมื่อเฉียวอันผิงที่ผ่านศึกมาหลายปีพอได้ฟังก็รู้สาเหตุ เขาถอนหายใจพลางเอ่ย “ไม่ผิดคาด คำสาปสังหารของงูจงอางตัวนั้นร้ายกาจอย่างยิ่ง ฉันมีกลิ่นอายสังหารคุ้มกาย พอถูกเข้ายังปางตาย แม้ว่าท่านเทพจะมีความรู้ลึกซึ้ง แต่ความแข็งแกร่งของท่านเทพสูงกว่าฉันไม่มากนัก และเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงมันด้วยเพียงแค่ชื่อเรียกแทน คิดดูแล้วตอนนั้นท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณแกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไรเพื่อให้ความมั่นใจแก่ทุกคน แล้วมอบยาวิเศษที่นำมาจากสวรรค์ช่วยชีวิตฉัน

“ตัวเขาเองกลับฝืนทนอาการบาดเจ็บ และเมื่อเขากลับมา เขาได้ปรับแต่งยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ จื่อเจียง นอกจากค่ายา 500 ล้านที่เบิกได้ก่อนหน้านี้ เธอไปหยิบส่วนผสมยาล้ำค่าหาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาดที่อาได้รับตลอดหลายปีนี้มาเลือกของที่มีประโยชน์ให้ท่านเทพเถอะ”

เฉียวจื่อเจียงพยักหน้าเงียบๆ เธอคิดอยู่เสมอว่าหัวใจของผู้คนช่างหลอกลวง เธอไม่เคยคิดเลยว่าในโลกใบนี้จะมีอัศวินที่ไม่เห็นแก่ตัวอยู่จริง คนธรรมดามีจำนวนมากจะมีคนที่มีศีลธรรมสักหนึ่งหรือสองคนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

แต่อัศวิน A เป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดในบรรดาผู้วิเศษซึ่งมีน้อยเพียงหยิบมือ การฝึกฝนไม่ง่ายเลย เหลือเชื่อเขามีคุณธรรมไม่เห็นแก่ตัว ยอมทนต่ออาการบาดเจ็บแล้วมอบยาวิเศษแก่คนอื่น กลับมาแล้วค่อยกลั่นยารักษาตัวเอง นั่นทำให้เธอซาบซึ้งมาก บางทีในโลกนี้นอกจากญาติสนิทสองคนคือพี่ชายและอาของเธอแล้ว ยังมีคนที่เธอไว้วางใจได้อีกคน

……………………………………………………………….

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท