เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 174 ลูกพี่ ตอนกลางคืนว่างไหม

บทที่ 174 ลูกพี่ ตอนกลางคืนว่างไหม

บทที่ 174 ลูกพี่ ตอนกลางคืนว่างไหม

การแจ้งเตือนของระบบ (ระบบใช้ ‘ทักษะการกลั่นยาอายุวัฒนะ’ ขั้นต้น ใช้วัตถุดิบยาพลังชีวิตคุณภาพต่ำเพื่อสร้างยาบำรุงผิวขั้นต้นสามเม็ด)

ระบบ “โฮสต์ คุณวาทศิลป์ดี ไปหลอกเขาให้ซื้อยาทุกเดือนดีกว่า…”

ฟางหนิง “เรื่องไร้ยางอายโยนให้ฉันทำหมดใช่ไหม ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกให้แกทำสัญญาธุรกิจการกลั่นยากับพวกเขาไม่ใช่เหรอ แกยังบอกว่ามันลำบากอยู่เลย…”

ระบบ “พวกเขามีตั้งหลายแสนคน ฉันจะกลั่นยาให้ไหวได้ยังไง ถ้าทำธุรกิจระดับไฮเอนด์หนึ่งหรือสองรายการยังพอทำได้”

เมื่อฟางหนิงได้ยินเรื่องนี้ก็สมองแล่น “ถ้าอย่างนี้ ต่อไปเจาะกลุ่มเป้าหมายยอดฝีมือระดับบ่อน้ำดีกว่า เปิดร้านค้าออนไลน์ละกัน ฉันจะให้เจิ้งต้าวเป็นคนดูแล ทักษะระบบของแกยอดเยี่ยมจะตาย เอาแต่เกียจคร้านก็เสียเวลาเปล่า แกไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่เจียดเวลาว่างมาทำนิดๆ หน่อยๆ จำนวนน้อยก็มีข้อดีของมัน ของที่หายากย่อมมีราคาแพง…”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์ คุณหัวไวมากเลย”

ฟางหนิง “งั้นเพิ่มค่าคอมมิชชั่นให้หน่อยได้ไหม”

ระบบ “ยังคง 0.0.5% เหมือนเดิม”

ฟางหนิงเหนื่อยหน่ายเกินจะต่อรอง “แกกลับมาถึงบ้านก็ ‘งก’ เลยนะ ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับแกแล้ว คืนร่างมาให้ฉัน ฉันจะลองดูสรรพคุณของยาเม็ดนี้สักหน่อย”

ฟางหนิงรับสถานะอัศวิน A กลับคืนมา หลังจากอ่านคำแนะนำแล้ว เขาก็ถือยาเม็ดบำรุงผิวสามเม็ดไปหลอกเหรินรั่วเฟิง

เมื่อเหรินรั่วเฟิงเห็นในมือของอัศวิน A ปรากฏยาสีเขียวแวววาวสามเม็ดส่งกลิ่นหอมของสมุนไพร เพียงได้สัมผัสเล็กน้อยก็รู้ได้ทันทีว่ามันต้องไม่ธรรมดา

สินค้าระดับไฮเอนด์ชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่นักกลั่นยาของสำนักงานสัจธรรมจะสามารถทำได้ พวกเขาไม่มีเวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ พวกเขามียุทโธปกรณ์ไม่เพียงพอ…อาจจะมีคนทำในบางที่ แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาไม่มีทางสิ้นเปลืองเวลาและวัสดุทำของใช้ของชาวบ้านทั่วไป”

เมื่อคิดได้ดังนั้น ในหัวของเขาก็วาดแผนการหาเงินเพิ่มขึ้นมาอีกแผนหนึ่ง เขาขายหุ้นลงทุนกับพวกในชั้นเรียนฝึกอบรมเศรษฐีได้…

ฟางหนิงชี้ไปที่ยาเม็ดทั้งสามพลางเอ่ย “นี่คือยาเม็ดบำรุงผิวสูตรลับของตระกูลมังกร เพียงแค่แช่ในน้ำสะอาดให้ละลายเล็กน้อยใช้ล้างหน้าทุกวัน ใช้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้นก็จะลบเลือนรอยแผลเป็นและสิวเสี้ยนได้…หากใช้ต่อเนื่องระยะยาวจะเห็นผลมหัศจรรย์ เพิ่มออร่าและช่วยสละโสดด้วย”

สรรพคุณที่เขากล่าวอ้างมาเป็นจริงทุกประการ สินค้าที่ผลิตโดยระบบย่อมเป็นสินค้าคุณภาพสูง ไม่ใช่คำพูดโกหกหลอกลวง

ทว่าเรื่องที่เขาต้องการจะหลอกไม่ใช่สรรพคุณของมัน แต่เป็นราคาขายต่างหาก

เหรินรั่วเฟิงพยักหน้า ด้วยสติปัญญาของเขา คนที่คิดจะหลอกเขาซึ่งๆ หน้ามีไม่มากนัก

เขาดูยาไม่กี่ครั้งและดมกลิ่นไม่กี่ที ก็รู้แล้วว่ากระบวนการผลิตดีเยี่ยมและซับซ้อนแค่ไหน ไม่ใช่คนธรรมดาจะทำได้

เขาอดไม่ได้ที่จะถาม “ไม่ทราบว่าท่านจะขายราคาเท่าไร”

ฟางหนิงพูดเสียงราบเรียบ “ยานี้ใช้บัวหิมะเทียนซานพันปีและเหอโส่วอู[1]หมื่นปี…ปรุงยาพิถีพิถัน เพราะข้ายุ่งอยู่กับการฝึกปราณเพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้าย ทำได้สูงสุดสิบเม็ดต่อเดือนเท่านั้น”

เมื่อเหรินรั่วเฟิงได้ฟังก็พยักหน้า เอ่ยขึ้น “ผมเข้าใจๆ”

จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปวาดกลางอากาศ ราคาพลันปรากฏขึ้น

มีทั้งเงินสดและวัตถุดิบยา

เหรินรั่วเฟิงยังมีสมอง ราคาที่เขาเสนอมานั้นไม่ได้สูงเสียดฟ้า แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนของระบบแล้ว นับว่าทำกำไรได้มากโขทีเดียว

ฟางหนิงดูแล้วได้แต่ทอดถอนใจ ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นโฆษณาความงามและบำรุงผิวพรรณทั่วบ้านทั่วเมือง คนที่เอาแต่อยู่บ้านไม่เคยสนใจหน้าตัวเองอย่างเขา ขาดความสนใจในอุตสาหกรรมนี้จริงๆ มันทำเงินได้มากเหลือเกิน…

ฟางหนิงพูดต่อ “อืม ข้าเชื่อมั่นในชื่อเสียงสำนักงานสัจธรรมของท่าน สามเม็ดนี้มอบให้ท่านไปใช้ก่อน ส่วนการชำระเงิน ชำระมาพร้อมกับวัสดุกระบี่บินครั้งหน้าแล้วกัน”

เหรินรั่วเฟิงรับยาสามเม็ดจากอีกฝ่าย หลังกล่าวขอบคุณ เขาก็โบกมือลาอัศวิน A ไปทำธุระอย่างอื่น

อัศวิน A จากไปแล้ว เหรินรั่วเฟิงมองเม็ดยาที่ลอยเหนือฝ่ามือ ท่าทางครุ่นคิด

“ช่างเป็นฤกษ์งามยามดีจริงๆ ลมไม่พัดมา เมฆก็ไม่ก่อตัว แต่กลิ่นความละโมบลอยมาไม่น้อย…” อัศวิน A เพิ่งจากไป เสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เหรินรั่วเฟิงไม่มีทีท่าตกใจหรือโกรธแต่อย่างใด เพียงเอ่ยเสียงเรียบ “หงอวิ๋นเจียว ฉันจะแบ่งให้หนึ่งเม็ดอุดปากเธอ อย่าเอาเรื่องฉันไปแพร่งพราย”

หงอวิ๋นเจียว “ไม่เลวนี่ เดือนหน้าล่ะ”

“ยังคิดว่าจะมีเดือนหน้าอีกเหรอ เดือนหน้าต้องประมูลแน่นอน อัศวิน A ไม่ใช่คนโง่” เหรินรั่วเฟิงกล่าวเสียงเรียบ

หงอวิ๋นเจียวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง น้ำเสียงของเธอพลันเปลี่ยนไป “ตอนนี้เครือข่ายส่งความเคลื่อนไหวผิดปกติมา ไม่มีเวลาคุยเล่นกับคุณแล้ว ฉันต้องไปดูก่อน ส่วนคุณก็ไปเร่งพวกนั้นช่วยแก้บั๊กของหุ่นยนต์พลังจิตละกัน”

อัศวิน A รีบตรงกลับบ้าน ด้านฟางหนิงมุดอยู่ในพื้นที่ของระบบ เปิดหนังสือเกมที่รักเพื่อหาข้อมูลของเหรินรั่วเฟิง

“เหรินรั่วเฟิง เพศชาย งานอดิเรก: ให้คำปรึกษาและดูแลความงามผิวพรรณ อายุ 73 ปี หมายเหตุ: การฝึกวรยุทธ์ทั้งหมดทำให้หน้าตากลับไปเป็นอายุ 18 สถานะ: หัวหน้าคณะที่ปรึกษาของสำนักงานสัจธรรม”

“แนวโน้มความดีและความชั่ว: ความยุติธรรมที่เป็นกลาง”

“การประเมินความแข็งแกร่ง: ผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ ขนาดโดยละเอียด: สระน้ำ ไม่ทราบความลึก ไอคิวสูงมากและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง”

ฟางหนิงพูดไม่ออกหลังจากอ่าน “มิน่าทำไมชายชราคนนี้มีหน้าอ้างว่าตัวเองอายุ 18 ปี ฉันตั้งใจใส่อายุ 18 ปีลงบนบัตรประจำตัวของมังกรขาวก็แค่เล่นๆ เอาสนุก เหลือเชื่อเขาจะพูดว่าตัวเองอายุ 18 ปี”

ระบบ “ฉันไม่สนใจหรอกว่าเขาอายุเท่าไร ฉันสนใจแค่ว่าเขาจะส่งวัสดุของกระบี่บินและค่ายามาเมื่อไรเท่านั้นแหละ”

ฟางหนิงครุ่นคิดก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ตอนนี้อุปกรณ์ที่แกกำลังจะสร้างมีอยู่สองชิ้น หนึ่งคืออุปกรณ์มิติในตำนานและสองคือชุดเกราะในตำนาน นอกจากนี้ยังมีกองอาวุธเทพดึงดูดปีศาจที่ขาดค้อนสุดท้ายถูกแกโยนเข้าไปเก็บในโกดังดองจนจะขึ้นราแล้ว แถมตอนนี้แกยังจะสร้างกระบี่บินอีก งานเยอะแยะขนาดนี้จะทำเสร็จชาติไหนไม่ทราบ”

ระบบ “ฉันเติมค่าประสบการณ์หน่อยจะทำไม่ได้เหรอ ถึงยังไงตอนนี้ในดินแดนมรดกก็มีสัตว์ปีศาจกระหายเลือดตั้งมากมาย เพียงพอให้ฉันใช้อยู่แล้ว จริงสิ พอคุณพักผ่อนเสร็จแล้ว ฉันก็ต้องไปจับเหยื่อที่นั่น แต่ไหนแต่ไรยังไม่เคยใช้เนื้อเม่นพิษงูนั่นมาก่อนเลย”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “ฉันรู้อยู่แล้วแกยังนึกถึงเรื่องนี้ตลอด แต่ฉันก็ต้องเตือนแก เนื้อเม่นพิษงูนั่นใช้ได้อย่างมากครั้งสองครั้ง พอที่จะจับสองสามตัวแล้ว สัตว์ปีศาจพวกนั้นมีสัญชาตญาณ ไม่อาจหลอกได้เสมอไป การที่แกจะไปจับมันตัวเดียวไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ไว้รอให้ถึงสิ้นปีค่อยออกไปจับครั้งใหญ่”

ระบบ “ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากอัศวิน A กลับมา ก็ประกาศกับสุนัขสองตัวที่ห้องนั่งเล่นว่าตนเองต้องเก็บตัวฝึกบำเพ็ญสิบวัน

สุนัขเหลืองที่ฝึกได้สำเร็จจึงได้หยุดพักสิบวัน ขณะที่สุนัขดำเกียจคร้านไม่มีความคืบหน้าจึงจำเป็นต้องฝึกล่วงเวลา

เจิ้งต้าวไม่ต้องให้ฟางหนิงเป็นกังวลคอยจัดการ นิสัยมีระเบียบวินัยนำหน้าเขาไปหลายโยชน์…

สุนัขดำไป๋หลี่เท่อคอตก พยักหน้ายอมรับหมดแรง

ทันทีที่ฟางหนิงออกไป สุนัขสีเหลืองเซวป้าก็วางมาดใช้อุ้งเท้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรออก

“ไฮ ตันตัน ฉันหยุดสิบวันรวด พรุ่งนี้คุณมาเที่ยวเล่นที่บ้านฉันได้นะ”

“เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะชวนคุณอ่านหนังสือและกินอาหารมื้อใหญ่”

“ใช่แล้ว เป็นร้านอาหารตระกูลฟาง เจ้านายของฉันคุ้นเคยกับเจ้าของร้านมาก เมื่อถึงเวลาฉันจะเชิญเขามาทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณเอง…”

สุนัขเหลืองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้เจ้าของร้านอาหารตระกูลฟางจะเปลี่ยนจากมนุษย์กลไกตัวแทนของฟางหนิงกลับไปเป็นตัวจริง

ด้วยอุปนิสัยของฟางหนิง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาไม่มีทักษะการทำอาหารของระบบ แม้ว่าเขาจะทำได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำอาหารอยู่ดี ฉะนั้น พรุ่งนี้สุนัขเหลืองมีหนาวแน่นอน…

สุนัขดำฟังแล้วก็เอียงหัวถาม “ตันตันคือใคร ฉันฟังดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้”

สุนัขเหลืองสีหน้าเรียบเฉย “แกคุ้นหูอยู่แล้ว ตอนที่เราเพิ่งมาถึงเมืองฉี แกจำครั้งแรกที่เราไปจีบสุนัขสาวเจอกับสุนัขลาบราดอร์สีขาวแสนสวยได้ไหม”

สุนัขดำจำได้ทันที ใบหน้าเข้าใจแจ่มแจ้ง “อ๋อ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเราสองคนผลัดกันไปจีบแต่ก็คว้าน้ำเหลวทั้งคู่ เพราะเจ้าของเธอไม่ชอบฉันที่เป็นสุนัขพื้นเมืองไม่มีป้ายห้องคอ ส่วนเธอก็รังเกียจที่แกไม่มีทะเบียนบ้านท้องถิ่น ให้แกไปไกลๆ…”

สุนัขเหลืองพอใจอยู่ลึกๆ ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “ตอนนี้เธอกำลังตามจีบฉันอย่างแข็งขัน นี่คงเรียกได้ว่าความรู้เปลี่ยนโชคชะตา…”

สุนัขดำหันไปมองชั้นหนังสือในห้องนั่งเล่นแล้วมองร่างกายตนเองที่กำยำขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของมันเลื่อนลอย ทำได้เพียงถอนหายใจ

เฮ่อ อนิจจาชีวิตของสุนัขช่างแตกต่างกันจริงๆ ผ่านไปไม่กี่เดือน สุนัขเหลืองก็พลิกสถานการณ์ได้สำเร็จ ในขณะที่ฉันได้แต่ฝึกวิดพื้นอยู่เพียงลำพังทุกวัน…

ดูเหมือนว่าท่านมังกรขาวไม่ได้โกหก หลังจากฝึกฝน ‘คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล’ แล้วเพิ่มออร่าได้ และสลัดความโสดได้ผลจริงๆ ด้วย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มันก็กัดฟันก้มหัวไปทางสุนัขเหลือง เอ่ยขึ้น “ลูกพี่ ตอนกลางคืนว่างไหม”

เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านอาหารตระกูลฟาง

ฟางหนิงกลับสู่สถานะเดิม เขานั่งอยู่ในรถเบนซ์ที่ร้านจัดเตรียมให้เดินทางมาถึงเขตถนนซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร

ทันทีที่มาถึงก็พบว่าที่นี่กำลังดำเนินการก่อสร้าง เครื่องจักรหลายชนิดเวียนเข้าออกคึกคักมาก กลายเป็นสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ เขาไม่ได้มาที่นี่กว่าครึ่งปีแล้ว แทบจะจำลักษณะเดิมของถนนสายนี้ไม่ได้เลย

เมื่อคืนก่อน ฟางหนิงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับมนุษย์กลไกตัวสำรองในพื้นที่ระบบ โดยอาศัยพลังสมองที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากหลังการฝึก เขาจำข้อมูลได้ชัดเจนและเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ร้านอาหารตระกูลฟางกว้านซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงด้วยความช่วยเหลือจากการจัดหาเงินทุนของแพลตฟอร์มหอการค้าเมืองฉี เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสร้างให้มันเป็นเมืองร้านอาหารระดับไฮเอนด์

คนขับเบนซ์ใบหน้ามีสง่าราศี เขาทำงานที่ร้านอาหารตระกูลฟาง ทั้งเงินเดือนและสวัสดิการดีเยี่ยม เขาเอ่ยเยินยอ “เถ้าแก่ครับ ช่วงนี้ท่านจะรวยอีกแน่ ผมได้ยินมาว่าบุคคลสำคัญหลายคนทั่วประเทศกำลังจะมาลงทุนก่อสร้าง ซื้อบ้านและตั้งรกรากกันที่เมืองฉี เมื่อถึงตอนนั้นร้านของเราจะรุ่งเรืองขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งยังมีท่านอัศวินอีกคนที่นี่ ไม่มีใครกล้ากำเริบเสิบสานในร้านของเรา ท่านวางใจเรื่องการทำมาหากินได้เลย”

ฟางหนิงหัวเราะ ‘ฮิฮิ’ มีมังกรแท้คอยบัญชาการประจำอยู่ที่นี่ ในยุคสมัยใหม่นี้ช่างมีเสถียรภาพจริงๆ

บุคคลสำคัญพวกนั้นต่างทราบดีกันอยู่แล้ว ใครแหยมได้ ใครแหยมไม่ได้

ข่าวที่ว่าร้านอาหารตระกูลฟางเป็นร้านอาหารประจำของอัศวิน A แพร่ออกไปทั่วนานแล้ว ชื่อเสียงของอัศวิน A ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เขากำเนิดจากมังกรแท้ การประเมินของเขาจัดอยู่ในผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำหรือการประเมินทางการคือระดับ A นอกจากนี้หน่วยข่าวกรองฮัมมิ่งเบิร์ดยังได้บันทึกไว้แล้ว เขาสามารถซื้อได้ด้วยเงิน

เขาคนนี้คือยันต์คุ้มกันที่สำคัญ

น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือเพราะคนพวกนั้นล่วงรู้ข้อมูลเป็นอย่างดี เขาจึงไม่ค่อยมีโอกาสที่จะเสแสร้งในร้าน ผู้จัดการร้านจ้าวอิ๋งไม่เคยติดต่อเขาเลย หากมีเรื่องที่จัดการไม่ได้ ต้องให้เขาเรียกอัศวิน A ออกหน้า

เขาขอให้คนขับรถขับไปที่ลานจอดรถหน้าร้านชั่วคราว ที่นี่เดิมเป็นร้านหม้อไฟสูงหกชั้น ร้านอาหารตระกูลฟางได้เช่าไว้เพื่อใช้ชั่วคราว

เมื่อมาถึงห้องทำงานของผู้จัดการร้านบนชั้นหก ฟางหนิงก็ได้พบกับจ้าวอิ๋ง

เพียงเห็นหนูแฮมสเตอร์สีขาวราวหิมะนั่งหมอบบนโต๊ะ มันกำลังแทะเม็ดเกาลัดคำเล็กคำน้อย ดวงตาเล็กๆ คู่นั้นสุกใสเต็มเปี่ยม

ครั้นเห็นฟางหนิงเดินเข้ามา มันเพียงเงยหน้าขึ้นมองเขาและกินต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฟางหนิงไม่ถือสา ที่นี่อยู่ชั้นหกไกลจากห้องครัวและร้านอาหารชั้นล่าง หากเธอชอบที่จะเลี้ยงสัตว์ก็เลี้ยงไป เขาคร้านเกินกว่าจะมาจู้จี้

ฟางหนิงจำได้ว่าจ้าวอิ๋งชอบสัตว์ตัวเล็กมาก สุนัขดำกับสุนัขเหลืองเคยเล่าว่าพวกมันอยากกินอาหารที่ร้านอาหารตระกูลฟาง เธอเลือกที่จะให้ของเหลือแก่พวกมันแทนที่จะขับไล่ออกไปทันที ตอนนั้นดูเหมือนว่าพวกมันจะเข้าใจผิดว่าเธอดูถูกพวกมัน

………………………………………..

[1] เหอโส่วอูเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทำให้ผมดำ

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท