บทที่ 81 อยากพบท่านเซียนเอ้าเทียนใจจะขาด
วันนี้เป็นวันดี พระราชวังอาณาจักรต้าเหยียนประดับโคมไฟตกแต่งเฉลิมฉลอง
ขันทีและนางกำนัลทุกคนต่างสวมอาภรณ์สีแดงตัวใหญ่ที่ทำขึ้นแบบพิเศษ ดูปีติยินดีอย่างยิ่ง
ตำหนักไร้พรมแดนเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงที่สำคัญที่สุดของราชวงศ์อาณาจักรต้าเหยียน ปกติจะใช้จัดงานของอาณาจักร แต่วันนี้กลับเปิดใช้เป็นกรณีพิเศษ เพียงแค่จัดงานเลี้ยงส่งฝ่าบาทองค์ชายหกเสิ่นเอ้า
เพราะวันพรุ่งนี้เสิ่นเอ้าจะต้องเดินทางมุ่งหน้าไปคารวะเซียนที่แดนเทวาดาวประกายพรึกอันห่างไกล!
ต้องรู้ว่าเสิ่นเอ้าเข้าแดนเทวาดาวประกายพรึกไม่ใช่แค่เข้าสำนัก
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแห่งแดนเทวาดาวประกายพรึกสนใจเขามานานแล้ว กำหนดให้เป็นศิษย์สายตรง
อะไรคือศิษย์สายตรง นั่นคือผู้สืบทอดที่เซียนให้ความสำคัญอย่างแท้จริง สำคัญอย่างยิ่ง
เซียนจากสำนักเซียนอาจจะบรรยายให้ศิษย์หลายพันคนฟังได้ แต่จะจดจำนามลูกศิษย์เพียงสิบกว่าคน ศิษย์สายตรงมีน้อยยิ่งกว่า ปกติจะมีไม่เกินสามท่าน กระทั่งอาจจะมีเพียงท่านเดียว
เสิ่นเอ้าเป็นศิษย์สายตรงแท้จริงของจื่อหยาง จะต้องได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างตั้งใจแน่ ถ้าให้เวลาเขามากพอก็แทบจะทะลวงช่วงแก่นพลังทองได้แน่นอน เฝ้ารอช่วงดวงจิตดรุณได้เลย!
…….
ต้องรู้ว่าต่อให้เป็นเสิ่นเซี่ยวจักรพรรดิเหยียนแห่งอาณาจักรต้าเหยียนก็อยู่แค่ช่วงจุดสูงสุดแก่นพลังทอง ในบรรพบุรุษสูงสุดที่ราชสำนักบูชาที่ซ่อนตัวฝึกบำเพ็ญอยู่ในส่วนลึกพระราชวังก็มีช่วงดวงจิตดรุณไม่กี่ท่าน
ทว่าช่วงดวงจิตดรุณกับดวงจิตดรุณก็มีความต่างกัน กระทั่งคนที่แข็งแกร่งสู้ร้อยคนด้วยตัวคนเดียวได้!
อาณาจักรต้าเหยียนเป็นเพียงราชวงศ์ธรรมดา มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนในแดนดินกว้างใหญ่บูรพา เทียบกับแดนเทวาดาวประกายพรึกที่อยู่สูงสุดในแดนเทวาแล้ว มรดกสืบทอดยังอ่อนแอเกินไปจริงๆ
ตอนนี้องค์ชายหกเสิ่นเอ้าได้รับการเอาใจใส่จากผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง นี่คือโชควาสนาครั้งใหญ่ ขอแค่องค์ชายหกหมั่นฝึกบำเพ็ญ ภายภาคหน้าอาจจะโชคดีทะลวงช่วงดวงจิตดรุณก็ได้
เช่นนั้น เขาจะกลายเป็นเทพพิทักษ์ที่แกร่งที่สุดของอาณาจักรต้าเหยียนได้สบายๆ ดังนั้นแล้วทั้งอาณาจักรต้าเหยียนจะสงบสุขมั่นคงขึ้นมาก
ถึงอย่างไรก็มีผู้อาวุโสแดนเทวาดาวประกายพรึกปกป้อง แคว้นรอบๆ จะต้องให้เกียรติกันบ้าง ด้วยเหตุนี้ในงานเลี้ยงส่งครั้งนี้ แขกผู้มีเกียรติขุนนางและผู้บำเพ็ญพเนจรทั้งหมดในอาณาจักรต้าเหยียนจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
พวกเขาทุกคนเตรียมของขวัญอย่างงามมาก็เพื่อประจบฝ่าบาทองค์ชายหกอย่างดี ตอนนี้องค์ชายหกเพิ่งอยู่ช่วงสร้างฐาน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการปาเงินลงทุนแลกกับความรู้สึกดีที่สุด
ไม่อย่างนั้นถ้ารอจนเสิ่นเอ้าถึงช่วงแก่นพลังทอง เขาจะไม่มองขยะที่พวกเขาให้ไปนี่เลย!
คนที่คลุกคลีกับคนฐานะเช่นนี้ได้ต่างรู้ว่าจะวางหมากอย่างไร
……
“ฝ่าบาทองค์ชายหก ไม่ได้พบท่านมาหลายเดือน ท่านดูองอาจห้าวหาญกว่าเดิมอีก”
“สุดยอด สุดยอดเลยฝ่าบาท แค่อายุสิบแปดก็สำเร็จช่วงสร้างฐาน อัจฉริยะ อัจฉริยะสุดยอดเลยฝ่าบาท!”
“บุตรสาวข้าปีนี้อายุสิบหก เลื่อมใสฝ่าบาทมาตลอดเลย หวังว่าจะได้ปรนนิบัติฝ่าบาทนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาทท่านต้องการองครักษ์หรือไม่ ขอแค่ท่านเอ่ยปากทองคำ ลูกชายข้าก็พร้อมรับคำสั่งเสมอ!”
เสิ่นเอ้าสวมชุดลายงูเหลือมสีแดงตัวใหญ่ กำลังคบค้าสมาคมกับกลุ่มคนที่ตามเป็นขบวน
เขาเดินเหมือนมังกรก้าวดั่งพยัคฆ์ ไม่แสดงตัวต่ำต้อยหรือโอหัง การกระทำเหมาะสมมาก
เพียงแค่ตรงระหว่างคิ้วยังปกคลุมด้วยความเสียดายและไม่ยอมเด่นชัด
หลายวันก่อนเขาสำเร็จช่วงสร้างฐาน จึงเดินทางไปหาของไหว้อาจารย์ที่สวนหมื่นวิญญาณ เนื่องจากรังเกียจเสี่ยวหลี่จื่อที่เคยสัมผัสน้องสิบสามมา เลยไม่ได้พาเขาไปด้วย
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น เสิ่นเอ้าก็ยังรู้สึกว่าดวงชะตาของตนได้รับผลจากเสี่ยวหลี่จื่อ ยังไม่ทันเข้าสวนหมื่นวิญญาณก็ล้มลงใต้ต้นไม้ธาตุไฟเข้าแทรกอยู่เขตนอกสวน
จนเสิ่นเอ้าฟื้นขึ้นมาก็สองวันให้หลังแล้ว เขาหมดสติไปสองวันเต็มๆ
รู้กันดีว่าการเดินทางของเสิ่นเอ้าเร่งด่วนมาก เลยอยู่ในสวนหมื่นวิญญาณได้เพียงสามวัน!
แต่สองในสามวันนี้กลับหมดไปด้วยการหลับตื่นเดียว!
…….
หลังตื่นมาแล้ว เสิ่นเอ้าไม่กล้าเสียเวลาอีก จึงรีบเดินเข้าสวนหมื่นวิญญาณ เขาได้ยินบุคคลในตำนานที่ปรากฏตัวในช่วงนี้ของสวนหมื่นวิญญาณ บุคคลในตำนานนั้นมีชื่อว่าเสิ่นเอ้าเทียน
ชื่อคล้ายกับเขามาก
แต่เสิ่นเอ้าคิดว่าตนไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายได้เลย เพราะการกระทำของเสิ่นเอ้าเทียนในสวนหมื่นวิญญาณเรียกได้ว่าเป็นตำนาน!
ผู้มีวาสนาจะไม่รับเงินแม้แต่แดงเดียว ผู้ไร้วาสนาให้หมื่นตำลึงทองก็ไม่รับ นี่คือความยึดมั่นในคุณธรรม!
หลายวันผ่าแร่มาเกือบร้อยชิ้น ทุกชิ้นอย่างน้อยได้กำไรสิบเท่า นี่คือผู้มีความสามารถ!
และเพื่อปกป้องสาวกจึงยอมทำลายคำสัญญาตัวเองผ่าแร่ให้สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นี่คือคุณธรรมยิ่งใหญ่!
โอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคมีทั้งคุณธรรมและความสามารถสูงส่ง มีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เช่นนี้ เขากลับพลาดไปได้!
เพียงเพราะตอนฝึกบำเพ็ญไม่ระวัง ธาตุไฟเข้าแทรกนอกป่าหมดสติไปสองวัน เลยคลาดไป!
พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเอ้าตีอกชกหัว อยากจะทุบหัวตัวเองใจจะขาด
ถ้าไปถึงสวนหมื่นวิญญาณก่อนสองวันก็อาจจะไม่คลาดกับท่านเซียน! กระทั่งต่อให้คลาดท่านเซียน ก็ยังมีผู้อาวุโสใหญ่ลัทธิปรมาจารย์เซียน!
บางทีอาจจะให้ผู้อาวุโสใหญ่พาไปพบท่านเซียนได้!
เดิมทีหลังจากเสิ่นเอ้าได้ยินว่าท่านเซียนหายตัวไปแล้วก็ตามผู้มีวาสนาทุกคนไปที่ร้านวิญญาณสวรรค์ พวกเขาอยากถามเถ้าแก่ซ่งที่รับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ลัทธิปรมาจารย์เซียนว่าท่านเซียนไปที่ใด
ปรากฏว่าเจอกับร้านวิญญาณสวรรค์ที่แขวนป้ายว่าปิดร้านหนึ่งเดือน
เถ้าแก่ซ่งกับคุณชายซ่งแห่งร้านวิญญาณสวรรค์ก็ไม่รู้หายไปที่ใด
นี่ทำให้เสิ่นเอ้าแทบจะเป็นบ้า
เหตุใดต้องทำถึงขนาดนี้ เหตุใดต้องทำถึงขนาดนี้น้องสิบสาม!
เจ้าแกร่งเกินไปแล้วกระมัง!
……
เสิ่นเอ้าที่จะเป็นบ้าไม่คิดจะอยู่สวนหมื่นวิญญาณอีก เพราะเขารู้สึกว่าดวงชะตาตนด่างพร้อยแล้ว จะให้อยู่สวนหมื่นวิญญาณจ่ายเงินผ่าแร่หรือ
เหอะๆ เสิ่นเอ้ารู้สึกว่าต่อให้เขาขายตัวซื้อแร่ก็เปิดไม่ได้ศิลาวิญญาณร้อยก้อน
พอนึกถึงตรงนี้ สุดท้ายเสิ่นเอ้าที่หมดอาลัยตายอยากก็ออกจากสวนหมื่นวิญญาณด้วยความจำใจ
เขายอมรับชะตาแล้ว จ่ายหนักซื้อของขวัญให้อาจารย์เลยดีกว่า!
จะมาเสี่ยงดวงอะไรไม่เหมาะกับข้าที่ด่างพร้อยแล้ว
หลังกลับมาถึงพระราชวัง เสิ่นเอ้ากลัดกลุ้มจนแทบจะเป็นซึมเศร้า
จนถึงงานเลี้ยงส่งวันนี้ ทุกคนต่างเลียขาเขา ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้รับการปฏิบัติเยี่ยงโอรสสวรรค์ จิตใจสบายขึ้นเล็กน้อย
ทว่าความเสียใจเด่นชัดก็ยังฝังลึกซ่อนในหัวใจเขา
เขาตัดสินใจว่าเมื่องานเลี้ยงจบแล้ว ตนจะไม่รีบร้อนไปคารวะอาจารย์
ข้าจะไปสวนหมื่นวิญญาณอีกครั้ง นั่งเฝ้าอยู่นั่นแปดวันสิบวัน ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ท่านเซียนก็เคยหายตัวไปสามวัน บางทีอาจจะปิดด่านบำเพ็ญอยู่
ขอแค่ข้าอดทนกับความเหงาได้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านเซียนจะไม่โผล่มาอีก!
……….
ช่วงที่เสิ่นเอ้ากำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น เสียงระฆังสนั่นหูดังขึ้น
เสียงขันทีแหลมเล็กดังในตำหนักไร้พรมแดน “ฝ่าบาทเสด็จ!”
ทันใดนั้นทุกคนในตำหนักไร้พรมแดนบ้างคุกเข่าบ้างโค้งตัว แสดงความเคารพกันอย่างนอบน้อม
เสิ่นเซี่ยวจักรพรรดิอาณาจักรต้าเหยียนก้าวดั่งพยัคฆ์มังกรท่ามกลางขันทีและนางกำนัลรายล้อมกลุ่มหนึ่ง
ใบหน้าเขาเคร่งขรึมจริงจัง ชุดคลุมมังกรสีทองอมแดงคลุมกาย แผ่อำนาจน่าเกรงขามมาทั้งตัว
“ทุกท่านลุกขึ้นเถอะ” เสิ่นเซี่ยวยิ้มพลางเบนสายตามองเสิ่นเอ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ
ฝ่าบาทองค์ชายหกเสิ่นเอ้า พรสวรรค์เลิศล้ำมีโชควาสนาเซียน ภายภาคหน้ามิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
ไปแดนเทวาดาวประกายพรึกครั้งนี้ก็เหมือนปลาคาร์ฟทองกระโดดข้ามประตูมังกร หมุนม้วนเมฆลมกลายเป็นมังกร!
เสิ่นเซี่ยวยิ่งคิดยิ่งปลื้มใจ ยิ้มพูดกับเสิ่นเทียนว่า “วันนี้เป็นวันมงคลของบุตรชายข้า เอ้าเอ๋อร์ เจ้าต้องการอะไรบอกพ่อมาได้เลย พ่อจะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด”
คำพูดของเสิ่นเซี่ยวทำให้เสิ่นเอ้าซาบซึ้งใจพร้อมๆ กับเสียดายยิ่งกว่าเดิม
เฮ้อ ต่อให้เสด็จพ่อจะรักข้าเช่นนี้แล้วอย่างไร
ข้าอยากจะพบท่านเซียนใจจะขาดมากกว่า!
ชีวิตช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน!
……
ยามนี้
หนุ่มหล่อบางคนมาสายเพราะซื้อของขวัญให้พี่หก และกำลังเดินช้าๆ มาถึงนอกตำหนักไร้พรมแดนแล้ว
จู่ๆ ก็คัดจมูกจามออกมาทีหนึ่ง!
………………….