บทที่ 103 ดาร์ก เดม่อนกลายเป็นนักสืบจิ๋ว
บทที่ 103 ดาร์ก เดม่อนกลายเป็นนักสืบจิ๋ว
“ดูเหมือนว่ามันได้ผลนะ”
“ยังดีที่พวกเขาไม่ได้สังเกตว่านี่เป็นเอฟเฟกต์สะกดจิตของยานอนหลับฝันดี”
“สุดท้ายก็ยังเป็นแค่นักเรียนปีหนึ่ง”
“นักเรียนปีหนึ่งดีที่สุด!”
เมื่อเห็นว่าเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตได้รับเอฟเฟกต์จริง ๆ ปลาหมึกกับปลาปักเป้าก็แทบจะน้ำตาไหล
เมื่อก้าวผ่านความล้มเหลวมาหลายครั้ง พวกเขาก็เติบโตขึ้นเช่นกัน
ปลาหมึกระงับความอยากจะพุ่งออกไปได้สำเร็จ เขาคว้าปลาปักเป้าแล้วพูดว่า “ไม่ เราควรระวังให้มากกว่านี้ จะทำเสียเรื่องไม่ได้”
จากนั้นเขาก็หยิบการ์ดวิญญาณใบใหม่ออกจากซองการ์ดแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ “นักเรียนปีหนึ่งยังไม่มีนิสัยชอบซ่อนการ์ดไว้ตามร่างกายของพวกเขา ตราบใดที่เราปลดกระเป๋าใส่การ์ดออกมาได้ก่อน พวกเขาก็จะไม่สามารถโต้เรากลับได้”
“นั่นสินะ งั้นเดี๋ยวฉันช่วยนายเอง” ปลาปักเป้าถอยหลังมาหนึ่งก้าว ก่อนจะหยิบการ์ดออกมา
ทันทีหลังจากนั้น สปิริตขนาดเล็กสองตัวก็ออกมาจากการ์ดของพวกเขา
สปิริตของปลาหมึกคือวานรน้ำ ส่วนสปิริตของปลาปักเป้าคือหนูอ้วน
ความเร็วของสปิริตทั้งสองตัวนั้นเร็วมาก พวกมันพุ่งตัวออกไปในพริบตาทำให้ยากต่อการมองเห็นด้วยตาเปล่า
โรเบิร์ตยังไม่ทันจะได้ตอบสนอง กระเป๋าใส่การ์ดที่ห้อยอยู่รอบเอวของเขาก็ถูกวานรน้ำดึงออกมา!
หนูอ้วนก็ทำแบบเดียวกัน ทว่าเวอร์เธอร์ถอยห่างออกมาได้ทัน หนูอ้วนจึงตัดสายด้วยตะปูไม่ได้ ถึงอย่างนั้นมันยังกรีดกระเป๋าเก็บการ์ดจนเป็นรอยขาดขนาดใหญ่ได้อยู่ดี
การ์ดเวทมนตร์ของเวอร์เธอร์หล่นออกมาทันที
ในนั้นมีการ์ดคัดสรร [สัตว์อสูรมายา: กวาง] [โทรลล์] และการ์ดเวทมนตร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่อีกหลายใบอยู่ด้วย
ทันทีที่การ์ดตกลงมา สติของเวอร์เธอร์ก็ชัดเจนแจ่มแจ้งในทันที เขาพุ่งเข้าไปหยิบการ์ด [โทรลล์] ที่หล่นออกมา!
แต่จู่ ๆ เงาดำพลันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ปัดการ์ด [โทรลล์] กระเด็นออกไป!
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผนสักเท่าไหร่ ปลาปักเป้าก็รีบออกไปพร้อมกับ [มนุษย์ปักเป้า] ซึ่งเป็นสปิริตของเขาอีกตัว
[มนุษย์ปักเป้า] มีสองขาที่ขนดก มันยิงหนามแหลมคมออกจากผิวกาย ป้องกันไม่ให้เวอร์เธอร์หยิบการ์ดขึ้นมา
“ใคร… เป็นนายอีกแล้ว!”
สายตาของเวอร์เธอร์กวาดผ่านร่างของปลาปักเป้า ก่อนจะไปหยุดที่ปลาหมึกซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากมุมหลบซ่อน
“แล้ว?”
ปลาหมึกเดินออกมาช้า ๆ ตามด้วย [หมึกสามตา] ตัวใหญ่
เวอร์เธอร์รู้สึกโกรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “อย่าลืมว่าตอนนั้นใครเป็นคนปล่อยนายไปนะ!”
ปลาหมึกตอบอย่างเศร้าโศก “แน่นอนว่าฉันยังจำรอยฟกช้ำบนร่างกายของตัวเองได้! ถึงแม้ว่านายจะปล่อยฉันไปเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ แต่มันก็ไม่สามารถล้างความอัปยศอดสูที่นายมอบให้ฉันได้ บุตรแห่งวีรบุรุษ! นายและผู้ติดตามของนายจะต้องตกลงไปในห้วงลึกด้วยกัน!”
ดวงตาของเวอร์เธอร์เป็นประกาย คำพูดนี้ทำให้เขาอดนึกถึงหนังสือ ‘สู่ห้วงลึก’ ไม่ได้
เขาเอามือไขว้ไว้ข้างหลัง จากนั้นการ์ด [ความรักต้องห้าม] ก็หลุดออกมาจากช่องที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อทันที
เมื่อเห็นปลาหมึกใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เวอร์เธอร์ก็สะบัด [ความรักต้องห้าม] ไปข้างหน้าและคำรามว่า “ห้วงลึกไม่ต้อนรับนายหรอก!”
หมอกสีชมพูที่ออกมาจากการ์ด [ความรักต้องห้าม] พลันก่อตัวขึ้นร่างเป็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่ง และพุ่งเข้าใส่ [หมึกสามตา] ตัวใหญ่ทันที!
เมื่อตาทั้งสามของ [หมึกสามตา] เปลี่ยนเป็นรูปหัวใจ เวอร์เธอร์ก็รู้สึกดีใจมาก!
แต่ตัวปลาหมึกเองไม่ได้สังเกตเลย จนกระทั่ง [หมึกสามตา] ที่เป็นสปิริตของเขา ยกตัวเขาขึ้นด้วยหนวดของมัน ใบหน้าของปลาหมึกพลันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และตื่นตระหนกจนร้องเสียงหลง “ปลาปักเป้า ช่วยฉันด้วย!”
เวอร์เธอร์สั่งให้หมึกสามตาโจมตีอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของเขาทันที
พร้อมกับถือโอกาสนี้หยิบการ์ดที่ตกขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เวอร์เธอร์ก้มลงไป พลันมีหนามแหลมคมหลายสิบลูกพุ่งปักรอบเท้าของเขา!
ปลาปักเป้าหันไปมองปลาหมึกที่ถูกสปิริตตัวเองจับไว้ ก็อดด่าอีกฝ่ายไม่ได้ “ไอ้โง่เอ๊ย!”
นับตั้งแต่แรกเริ่มที่ยังให้ความเคารพปลาหมึก จนถึงตอนที่ยืนยันได้ว่าเขาเป็นเพียงคนงี่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น ปลาปักเป้าก็ได้ผ่านเรื่องชวนป่วยจิตมามากมายแล้ว
โดยไม่รอช้า เขาควบคุม [มนุษย์ปักเป้า] ให้ปล่อยหนามแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนใส่ [หมึกสามตา] ทันที!
หนามแหลมแต่ละอันมีพิษสีดำ และเกือบทั้งหมดถูกยิงเข้าไปในร่างของ [หมึกสามตา]!
[หมึกสามตา] พยายามวิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนที่สารพิษของปลาปักเป้าจะระเบิดในร่างกายของมัน เมื่อร่างกายของมันเริ่มแข็งทื่อ มันก็อาเจียนหมึกพิษออกมาเป็นจำนวนมาก
…
“ไม่!”
เวอร์เธอร์ไม่คาดคิดมาก่อนว่า [หมึกสามตา] ของสก็อตต์จะไร้ประโยชน์ได้ขนาดนี้ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เมื่อสก็อตต์หลุดพ้นจากการรัดกุมของ [หมึกสามตา] แล้ว เขาก็ร้องตะโกนทันทีว่า “วานรน้ำ!”
วานรน้ำมีแขนที่ยาวมาก มันเงยหน้าขึ้นและพ่นน้ำออกมา
เวอร์เธอร์รีบยกแขนขึ้นเพื่อกันกระแสน้ำ แต่เขายังคงถูกกระแสน้ำผลักให้ถอยหลังออกไปอยู่ดี
การ์ดเวทมนตร์บนพื้นก็ถูกน้ำซัดไปด้วย
โรเบิร์ตในเวลานี้เพิ่งจะฟื้นคืนสติได้เล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปคว้าการ์ดเวทมนตร์ที่ถูกน้ำซัดโดยจิตใต้สำนึกทันที
เขาโยนการ์ดเวทมนตร์ให้เวอร์เธอร์อย่างไม่ต้องคิด “เวอร์เธอร์ รับ!”
เวอร์เธอร์ดีใจมากเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาคว้าการ์ดด้วยหลังมือ แล้วร้องตะโกนออกมา “จงออกมา!”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงที่ปล่อยออกมาจากการ์ดก็กลายเป็นของแข็ง
ลูกขนสีเหลืองครีมตกลงมา
ลูกขนตัวน้อยแลบลิ้นสีชมพูเรียวยาวออกมา หลังจากตกลงมาถึงพื้นแล้ว มันก็เลียน้ำที่นองอยู่บนพื้นก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่ารัก
นี่คือสปิริต [พัฟฟ์สกีน] ที่เวอร์เธอร์สร้างขึ้นโดยใช้วัตถุดิบที่ซื้อจากร้านสิบคะแนน!
“ไม่นะ!”
เสียงร้องอันสิ้นหวังของเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตดังขึ้นมาจากทางเดินอีกครั้ง…
…
ดาร์กที่กำลังเดินมาทางห้องลับ พลันได้ยินสุ้มเสียงนั้นอย่างแผ่วเบา
เขาส่งสัญญาณให้รุกกี้เดวิมอนรีบเร่งไปยังทิศทางของเสียงอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อมาถึง สถานที่แห่งนี้กลับมีเพียงแอ่งน้ำ และการ์ดเวทมนตร์สองสามใบตกอยู่ที่ทางเดินใกล้กับห้องลับเท่านั้น
“ไปตรวจสอบที” ดาร์กไม่ได้เดินออกไปทันที แต่สั่งให้รุกกี้เดวิมอนไปตรวจสอบก่อนเช่นเคย
หลังจากที่รุกกี้เดวิมอนบินกลับมา ดาร์กถึงเดินไปยังบริเวณแอ่งและหยิบการ์ดเวทมนตร์ขึ้นมาจากน้ำ
[สัตว์อสูรมายา: กวาง] [โทรลล์] และ [น้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์] จำนวนสองใบ
ห่างออกไปเล็กน้อย มีการ์ดอีกใบ [พัฟฟ์สกีน]
รวมแล้วมีการ์ดเวทมนตร์ทั้งหมดห้าใบ
“กวางกับโทรลล์ พวกนี้มันการ์ดเวทมนตร์ของเวอร์เธอร์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาหล่นอยู่ไปทั่วตรงนี้?”
ดาร์กเดินตามรอยน้ำที่หลงเหลือ ก่อนจะมองไปยังทิศทางของกำแพงห้องลับ
เขานึกเหตุผลอื่นไม่ออก “พวกเขาเข้าไปในนั้นเหรอ?”
…
ดาร์กวิเคราะห์ “แต่จากที่การ์ดเวทมนตร์กระจัดกระจายอยู่บนพื้นแบบนี้ เวอร์เธอร์ไม่น่าเข้าไปในทางลับโดยสมัครใจ”
“เขาถูกบังคับให้เข้าไปที่นั่น หรือว่าถูกจับเข้าไปกันแน่?”
“เดิมทีเขาก็เป็นที่คนระมัดระวังตัวมากอยู่แล้ว เพราะงั้นก็ไม่น่าจะถูกจับไปได้ง่าย ๆ หรอกใช่ไหม?”
“การ์ดเวทมนตร์พวกนี้น่าจะหล่นลงมาหลังจากถูกโจมตี”
“แต่ไม่มีการ์ดของโรเบิร์ตวางอยู่แถว ๆ นี้เลยนี่สิ พวกเขาอยู่ด้วยกันเสมอ ดังนั้นก็อาจยังพอโต้กลับได้อยู่บ้าง”
“จะว่าไป คู่ต่อสู้ของพวกเขาเป็นผีหรือมนุษย์กันแน่?”
“พวกเขาไม่น่าถูกผีต้อนจนมุมหรอกใช่ไหม?”
“แล้วฉันควร…ไปตรวจสอบไหมนะ?”