ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 282 ประสบการณ์ชีวิตจริงของสาวน้อยเป็นอย่างไร

บทที่ 282 ประสบการณ์ชีวิตจริงของสาวน้อยเป็นอย่างไร

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 282 ประสบการณ์ชีวิตจริงของสาวน้อยเป็นอย่างไร
เมื่อแสนรักฟื้นขึ้นมา แสงอาทิตย์ก็สาดส่องสว่างสไหว

ที่นี่ที่ไหน?

เขาถูกตีจนสลบไป หลังจากฟื้นขึ้นมา เขามองไปทางหัวเตียงที่แกะสลักอย่างประณีตเหนือหัวของเขา เขานิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง

ไม่นานนัก คุณท่านก็ค้ำไม้เท้าเดินเข้ามา เมื่อเห็นเขาฟื้นท่านเลยนั่งลงที่ปลายเตียง

“ฟื้นแล้วเหรอ? หิวไหม? ให้พ่อบ้านสมมาตรเอาโจ๊กมาให้ไหม”

“……”

ในที่สุดแสนรักก็เริ่มได้สติกลับมา จากนั้นหลังนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นก็เย็นลงทันที เขาปัดผ้าห่มออกลุกขึ้นนั่ง เตรียมจะเดินออกไป

คุณท่านมองไปที่เขา แต่ก็ไม่ได้รั้งเขาไว้

แต่เมื่อเขาลุกจากเตียงและก้มตัวเพื่อสวมรองเท้า ท่านมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มและพูดอย่างช้าๆว่า “แกไม่ต้องห่วง ฉันส่งคนไปตามหาเส้นหมี่แล้ว และฉันก็ไม่ได้ส่งคนไปฆ่าลูกสาวของธนาตย์จริงๆ ฉันกล้ายอมรับในเรื่องที่ฉันทำเสมอ ตลอดหลายปีมานี้แกก็คงรู้ดี”

เมื่อท่านพูดจบ ชายหนุ่มที่ก้มตัวอยู่ก็ชะงักเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดเกี่ยวกับความจริงสิ่งที่ท่านพูด

เมื่อคุณท่านเห็นก็ยื่นแผ่นซีดีที่ท่านพกมาด้วยให้กับเขา

“ถ้าแกยังไม่เชื่อ นี่เป็นบันทึกเหตุการณ์เมื่อคืนทั้งหมดของลูกน้องที่อยู่ในมือฉัน ฉันอุตส่าห์ให้พ่อบ้านสมมาตรหามาให้กลางดึก แกเอากลับไปดูเองสิ”

“……”

แสนรักเหลือบไปมอง แต่ไม่ได้รับแผ่นซีดีนั้นไว้ เขาก้มหน้าและสวมรองเท้าต่อ

สองนาทีต่อมา เมื่อสวมถุงเท้ารองเท้าและเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาหันกลับมา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูดีขึ้นมาก และยังคงมองดูผู้เป็นพ่อ

“ไม่ใช่คุณ แล้วจะเป็นใคร”

“ฉันไม่รู้ แต่ฉันให้คนไปตามสืบแล้ว สำหรับคนนี้ เมื่อคืนฉันใช้เวลาคิดอยู่นานและพบว่าภายนอกของเขานั้นมักจะทำให้แกและผู้หญิงคนนั้นแปลกแยกกัน แต่จริงๆคนที่เขาอยากให้ขัดแย้งกันคือเราสองคนพ่อลูก แกคิดว่ายังไง?”

ไม่สำคัญหรอก ว่าคุณท่านจะถูกลูกชายของตัวเองดูหมิ่นสักแค่ไหน แต่ไม่ว่ายังไงน้ำเสียงของเขายังคงสงบและอ่อนโยนเสมอ

แต่ประโยคสุดท้ายที่ท่านพูดนั้น กลับมีความไม่ชัดเจน ดูคลุมเครือและยังสัมผัสได้ถึงความเย็นชา

พวกเขาสองพ่อลูกงั้นเหรอ?

ริมฝีปากบางของแสนรักยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา

เมื่อวานเขาอารมณ์เสียมากจนไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาสงบลงมากแล้ว เขาคิดไปคิดมา ที่จริงกลัวว่าอาจจะไม่ใช่แค่ความขัดแย้งกันระหว่างพวกเขาสองพ่อลูกแค่ภายนอก

แต่อาจจะถึงขั้นผิดใจกัน

“เป็นผู้ถือหุ้นเก่าพวกนั้นอีกแล้วเหรอ? หรือเป็นคนตระกูลหิรัญชา?เห็นผมเริ่มป่วย เลยอยากจะผลักผมลงจากตำแหน่งผู้บริหารหิรัญชากรุ๊ปงั้นเหรอ?”

“แกหุบปากไปเลยนะ!”

เส้นเลือดของคุณท่านปูดขึ้นในทันที “ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ แกอย่ามั่วแต่คิดเรื่องนี้”

คุณท่านไม่อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ของเขาจริงๆ เพราะในตอนนั้นเขาใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อที่จะให้เขาได้นั่งตำแหน่งนี้

ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับผู้คนเหล่านั้น หรือต้องรับมือกับตัวของเขาเอง

แสนรักก้าวเท้าเดินออกไป

“แกจะไปไหน ไม่ต้องไปหาเส้นหมี่แล้ว ฉันส่งคนไปหาแล้ว แกควรกลับบ้านไปก่อน เมื่อเช้าภาโทรมาบอกว่านังหนูหาแม่ของหล่อนไม่เจอร้องไห้ทั้งคืนจนป่วยเลยต้องส่งตัวไปโรงพยาบาล”

“อะไรนะ นังหนูป่วยเหรอ?”

แสนรักแสดงสีหน้าที่แตกต่างออกไป จากนั้นเขาก็หายตัวไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

——

รินจังป่วยจริงๆ

แต่ว่าหล่อนไม่ได้ป่วยเพราะร้องไห้หาแม่ทั้งคืน แต่ไม่สบายเลยหาแม่ทั้งคืนต่างหาก

“ทำไมพวกคุณพึ่งส่งหล่อนไปหาหมอตอนนี้ล่ะ ดูก็รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นภูมิแพ้ โชคยังดีที่อาการไม่รุนแรง ไม่อย่างนั้นเกิดเรื่องใหญ่แน่”

เมื่อหมอรับรินจังที่ถูกส่งตัวมาเข้ารับการรักษา เขามองดูผื่นแดงทั่วร่างกายของเธอ เขาตำหนิตัวเองและรู้สึกเจ็บปวดใจ

เมื่อพี่ภาได้ยินอย่างนั้น เธอรู้สึกผิดมาก

หล่อนไม่รู้ว่ารินจังจะเป็นภูมิแพ้ อีกอย่างเมื่อคืนนี้หล่อนก็ไม่ได้ให้รินจังกินอะไรเลย หล่อนแค่ใช้กุยช่ายที่ขึ้นราขาวนิดหน่อยทำอาหารให้รินจังกิน

ใครจะไปคิดว่าแค่กุยช่ายก็ทำให้เป็นภูมิแพ้?

หมอให้น้ำเกลือรินจัง และเด็กที่ร้องไห้เพราะคันก็ผล็อยหลับไปบนเตียงในโรงพยาบาลอย่างหมดแรง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา แสนรักก็มาถึงโรงพยาบาล

“คุณผู้ชาย ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นภูมิแพ้ ฉันคิดว่าเธอถูกยุงกัด เลยทำได้แค่ไล่ยุงให้เธอ ฉันทำให้เธอต้องทุกข์ทรมาน ขอโทษจริงๆนะคะ”

เมื่อพี่ภาเห็นพ่อของรินจังมาถึงแล้ว พี่ภาขอโทษเขาทั้งสำนึกผิดและเสียใจ

ภูมิแพ้?

แสนรักเดินไปที่เตียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆแล้วมองดู เมื่อเห็นว่าในคืนเดียว ใบหน้าสีชมพูของเกี๊ยวตัวน้อยซูบผอมลงไปมากและเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์โดยไม่มีเหตุผล

“หล่อนเป็นภูมิแพ้ได้ยังไง? หล่อนกินอะไรบ้าง? ก่อนหน้านี้แม่ของหล่อนไม่ได้บอกเธอเลยหรอ?”

“เปล่าค่ะ กินแค่กุยช่ายที่เป็นราขาวนิดหน่อย หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณผู้ชายคะมีคนแพ้ด้วยเหรอคะ? พี่ภารู้สึกหดหู่ใจมาก

แต่ทันทีที่แสนรักได้ยินชื่อนี้ เขาก็ต้องตกตะลึงนิ่งอยู่ตรงนั้น

เพราะว่าแสนรักก็แพ้กุยช่ายเหมือนกัน

เมื่อตอนยังเด็ก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ครอบครัวของเขาทำเกี๊ยวซึ่งยัดไส้กุยช่าย เขาดูแล้วมันน่ากินเลยกินไปเยอะมาก แต่แล้วเขาก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในวันนั้น

หลังจากนั้น ในบ้านก็ไม่เคยมีกุยช่ายอีกเลย

เขาไม่เคยกินเกี๊ยวอีกเลย จนกระทั่งครั้งนี้ที่เส้นหมี่ถูกเขาพาตัวกลับมาจากเคลียร์ เธอทำสิ่งนี้อยู่เสมอ จนเขาทำลายแหวน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท