ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 312 บีบบังคับเธอต่อไปไม่ได้

บทที่ 312 บีบบังคับเธอต่อไปไม่ได้

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 312 บีบบังคับเธอต่อไปไม่ได้
แต่เขาไม่ได้มอง เขากำลังสูบบุหรี่ สูบม้วนแล้วม้วนเล่า ควันได้พุ่งพวยขึ้นในคืนที่เงียบสงบ ที่ใส่ขี้เถ้าบุหรี่จะกลายเป็นกองภูเขาอยู่แล้ว

“โกรธงั้นหรอ?”

เขาพูดแซะขึ้นด้วยควันบุหรี่ที่ออกมาจากมุมปาก “พี่คิดเกินไปแล้ว เธอไม่เคยคิดที่จะต้องการพวกเขาด้วยซ้ำ”

“เป็นไปได้ยังไง?” พี่ภาเบิกตาโต

“คุณผู้หญิงรักเด็กออกอย่างนั้น ทำไมจะไม่ต้องการพวกเขา? เพียงแค่ตอนนี้เธอคิดไม่ตก สิ่งที่เธอแบกรับนั้นเยอะมากเหลือเกิน คุณผู้ชายให้เวลาเธอนะคะ คุณบีบบังคับเธออย่างนี้ต่อไป พอถึงเวลาก็รังแต่จะทำให้เรื่องยิ่งแย่เข้าไปอีก ถ้าถึงเวลาเกิดอะไรขึ้นมา พวกเด็กๆจะทำยังไงคะ? เพราะนี่เป็นแม่ของพวกเขา”

คนรับใช้คนนี้กำลังพูดโน้มน้าวอย่างปากเปียกปากแฉะให้กับคุณชายที่เธอดูแลมาตั้งแต่เด็ก

จริงๆแล้ว เธอมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งมากกว่าแสนรักจริงๆ เธอมองออกถึงความขื่นขมของเส้นหมี่ แล้วก็ความดิ้นรนของเธอ จะพูดแบบไม่เว่อร์เลยคือตอนนี้เธอได้เดินมาถึงจุดที่สูงสุดแล้ว

ถ้าบีบบังคับเธออีกก็ไม่กล้าที่จะรับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีกจริงๆ

พี่ภาออกไปแล้ว

และในวิลล่า ไฟในห้องหนังสือยังคงสว่างสไหวอยู่อีกนาน

เช้าวันที่สองแครอทเข้ามา

“คุณแครอทมาเช้าจังคะ?”

“ค่ะ วันนี้ฉันมีธุระต้องให้ไปจัดการเลยเข้ามาดูผู้หญิงคนนั้นก่อน เป็นยังไงบ้างคะ? เมื่อคืนเธอโอเคไหม?”

แครอทได้ถือเอาที่นี่เป็นบ้านของตัวเองไปเรียบร้อย หลังจากที่เข้ามาก็หยิบแอปเปิ้ลที่วางอยู่บนโต๊ะยัดเข้าปาก แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป

พี่ภาตามหลังเธอไป

“ดีมากเลยค่ะ เงียบสงบทั้งคืน อย่างนี้คงไม่เป็นอะไรนะคะ?”

“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ถูกรถชน เลยสำลักออกเป็นเลือดเท่านั้น แค่สมองไม่ได้รับบาดเจ็บก็พอแล้ว” แครอทพูดไปพลางตั้งหน้าตั้งตาเดินมาถึงห้องรับแขกที่อยู่ชั้นสอง

แต่คาดไม่ถึงพอประตูห้องได้ถูกเปิดออก คนทั้งสองให้ตกใจยิ่งนัก!

“คุณเส้นหมี่ตื่นแล้วหรอคะ? ทำไมคุณไปยืนอยู่ที่ด้านหน้าหน้าต่างล่ะคะ? ลมแรงขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมอีกด้วย”

พี่ภาให้ตกใจจริงๆ เพราะหญิงสาวที่ปรากฏเข้ามาในม่านตาของพวกเธอใส่แค่เสื้อนอนมาบางๆยืนอยู่ที่หน้าต่าง ลมก็แรงออกอย่างนั้น

เธอกลับไม่ขยับตัว

แครอทก็ตกใจเหมือนกัน ขนาดแอปเปิ้ลที่กัดเข้าปากไปก็ลืมกลืน

ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้ถูกรถชนจนจำอะไรไม่ได้แล้วนะ?

ยังดีที่หลังจากพี่ภาไปเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้ เส้นหมี่ที่ก็ไม่รู้ว่ายืมเหม่อมองอยู่ที่หน้าต่างนานเท่าไหร่ก็ค่อยๆหันหน้ากลับมา

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่อยากดูว่ามันกี่โมงแล้ว”

เธอตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากที่พี่ภาช่วยประคอง เธอก็กลับมานั่งบนเตียง สีหน้าให้ดูแย่อย่างที่สุด

แครอทได้เห็นก็ให้กลืนแอปเปิ้ลที่อยู่ในปาก หลังจากนั้นก็เข้าไปหา “คุณทำให้ฉันตกใจหมด ฉันคิดว่าสมองคุณได้รับความกระทบกระเทือน คุณเป็นยังไงบ้าง?”

เธอมาที่ข้างเตียงของเธอ ยื่นมือออกเพื่อที่จะตรวจดูอาการ

แต่ว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ริมขอบเตียงพูดเลี่ยงเหมือนไม่มีแรง

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องลำบากคุณแครอทหรอกค่ะ”

แครอท “……”

สีหน้าของเธอในตอนนั้นไม่ดีนัก เธอหันหน้ากลับแล้วกัดแอปเปิ้ลเดินออกไป

พี่ภาเห็นก็รีบพูดขึ้นว่า “คุณเส้นหมี่ทำไมไม่ให้คุณแครอทดูอาการคะ? เมื่อวานเธอเป็นคนทำแผลให้คุณนะคะ”

ในเวลานี้สายตาของเส้นหมี่อ่อนโยนลงแล้วก้มลงต่ำ “หนูไม่เป็นไรค่ะ หนูก็เป็นหมอเหมือนกัน รู้อาการของตัวเอง พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

“เอ่อ ก็จริง พี่ลืมไปสนิทเลย”

พี่ภาได้ยินก็รู้สบายใจขึ้น

ตอนนั้นคนทั้งสองก็พูดคุยกันอยู่ในห้องเรื่องที่ว่าเมื่อวานเส้นหมี่เป็นลมสลบไป หลังจากนั้นพี่ภาก็เดินออกไป

ไม่นาน เด็กทั้งสามก็ถูกเธอพาเข้ามา

“หม่ามี๊ ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมคะ? เมื่อวานหม่ามี๊ทำรินจังลูกรักตกใจหมด มาให้หนูดูหน่อยนะคะว่าหม่ามี๊ยังเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“รินจัง อย่าทำแบบนี้สิ หม่ามี๊ยังไม่หายดี ระวังทำหม่ามี๊เจ็บ”

“อื้ม ลงมาเร็ว”

เจ้าเด็กทั้งสามมาปรากฏตัวที่หน้าของเส้นหมี่ทีละคนๆพวกเขาต่างแย่งกันดูแลเธอ ดูจนเธอรู้สึกเหมือนว่ากำลังฝันไป

“เอ่อ….”

“ขอโทษค่ะคุณเส้นหมี่ พี่ต้องไปซื้อผักที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณช่วยดูแลเด็กสามคนนี้แทนพี่ได้ไหมคะ? ที่นี่พี่เป็นคนรับใช้แค่คนเดียว แต่ก่อนตอนที่พี่ไปซื้อผัก พวกเด็กๆยังไม่เข้าอนุบาล พี่ก็พาไปส่งให้คุณแครอท”

พี่ภาอธิบายอย่างรู้สึกผิด

เส้นหมี่ให้เบิกตากว้าง ทันใดนั้นบริเวณที่รกร้างในใจก็เหมือนได้กลับมามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เธอตัวสั่นไปทั่วร่าง ไม่ต้องคิดอะไรให้รีบพยักหน้ารับคำทันที

“ได้ๆค่ะพี่ เดี๋ยวหนูดูแลพวกเขาเอง พี่ไม่ต้องไปส่งให้คุณแครอท หนูจะดูแลพวกเขาอย่างดีค่ะ”

“ค่ะ”

พี่ภายิ้มแล้วเดินออกไป

เด็กแบบนี้ เธอจะมีพิษภัยที่ไหน?

ก็แค่แม่ที่อยากจะเจอลูกตลอดเวลา แล้วก็คนที่น่าสงสารที่ต้องแบกรับภาระต่างๆไว้เท่านั้นเอง

ดังนั้นในที่สุดวันนี้เส้นหมี่ก็มีบุญได้อยู่กับลูกๆของเธอ

เพียงแต่ว่าเธอกังวลแค่ผู้ชายคนนั้นจะมา พอเขามาเธอรู้ว่าตัวเองจะถูกไล่ออกไปอีกแน่ ดังนั้นเธอเลยแกล้งป่วย ยังไปไม่ได้ บางทีก็เวียนหัวปวดหัวอะไรแบบนั้นบ้าง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท