“แม่ ? ผู้หญิงคนนี้คือแม่เหรอ ? แล้วคนเมื่อกี้ที่ยืนอยู่ตรงคันนากับเขาคนนั้นล่ะ ? เธอไม่ใช่แม่ของเด็กๆเหรอ ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว นี่คุณดูไม่ออกหรือไง ? คนเมื่อกี้ พ่อของเด็กเขาสนใจซะที่ไหนกัน ? ดูเขาสิไม่ให้เธอดำนาแล้ว งานที่ทั้งหนักและสกปรกเก็บเอาไว้ทำเอง แล้วไล่เธอให้ไปแยกต้นกล้า ”
ในกลุ่มของผู้ปกครอง ก็ยังพอมีคนที่ฉลาดอยู่
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็รู้แจ้งในทันที
และในตอนนี้เอง ก็ประจวบเหมาะกับ แครอทที่พาหนูรินจังไปเก็บผลไม้ ก็ได้ทำภารกิจสำเร็จกลับมา
เธอปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลไม้ตรงถนน เดิมทีก็มีความสุขอย่างมาก แต่พอเห็นภาพที่ตรงคันดิน และเสียงพูดคุยกันของผู้ปกครองคนอื่นๆ
ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ค่อยๆเลือนหายไป
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกอย่างมาก
หลายปีมานี้ เธอมีความสุขกับความสัมพันธ์ของหมอกับคนไข้ ใช่ ในใจของเธอ มันคือความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ คนไข้ที่เธอดูแลรักษามานานหลายปี
แต่ในตอนนี้ หลังจากที่เธอเห็นภาพนี้ ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเล็กน้อย
ราวกับของบางสิ่งที่เป็นของเธอ ถูกใครมาแย่งไปซะอย่างนั้น และความรู้สึกนี้ ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วที่เส้นหมี่คนนี้ ไปที่บ้านเธอเพื่อไปตามหาแสนรัก
อารมณ์ความรู้สึกของเธอคือแบบเดียวกัน
ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของแครอท……
——
เส้นหมี่พวกเขาได้ดำนาเสร็จก่อนเที่ยงในที่สุด
“ว้าว ในที่สุดก็ทำเสร็จแล้ว หม่ามี๊ ตอนนี้เรามีข้าวกินกันแล้วใช่ไหม?”
เมื่อเด็กน้อยสองคนเห็นว่าทำเสร็จแล้ว ก็ดีใจอย่างมาก รีบถามคนเป็นแม่ ว่ามีข้าวกินกันแล้วใช่ไหม?
ทำกันอยู่นานขนาดนี้ พวกเขาก็รู้สึกหิวแล้วจริงๆ
เส้นหมี่อุ้มคิวคิวที่ลงมาแปลงนาด้วยกันขึ้นมาก่อน“ แน่นอนสิ เดี๋ยวเราเอาป้ายภารกิจที่เสร็จสมบูรณ์นี้ไปให้กับเจ้าของแปลงนาก็ได้แล้ว หม่ามี๊จะล้างเนื้อล้างตัวพวกเราให้สะอาดก่อน ”
จากนั้นเธอก็อุ้มลูกไปที่ลำธารบริเวณใกล้ๆ
เมื่อแสนรักเห็น ก็จูงมือลูกชายคนโตตามไปด้วย
“แด๊ดดี้ ผมไม่ต้องล้าง ผมไม่สกปรก แด๊ดดี้ไปล้าง” ชินจังมาถึงที่ลำธาร เห็นขาของแด๊ดดี้เลอะไปด้วยดินโคลน ที่กางเกงก็เลอะไปด้วยไม่น้อย ก็จึงพูดไล่คนเป็นพ่อ
แสนรักต้องล้างอยู่แล้ว
ทว่า เมื่อเขามองไปยังกางเกงรองเท้าและถุงเท้าที่ทั้งเปื้อนและทั้งเปียก ใบหน้าที่เคร่งขรึมก็เผยความรังเกียจออกมาอีกครั้ง
“เป็นอะไรไป ? ไม่อยากจะใส่ตัวนี้แล้วเหรอ ?”
เส้นหมี่ที่ล้างตัวให้ลูกชายคนเล็กเสร็จพอดี หันกลับมาเห็นภาพนี้ ก็จึงเอ่ยปากถามไปคำหนึ่ง
แสนรักจ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่ดูแย่หนักขึ้นไปอีก“ เป็นคุณจะอยากใส่หรือไง ?”
เส้นหมี่“……”
เธอใส่ได้อยู่แล้ว เมื่อครู่เธอก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าออกมา ล้างจนสะอาดแล้วใส่กลับเหมือนเดิมอยู่นี่ไง ?
แต่ว่า เธอไม่ได้พูดมันออกไป เพราะเธอรู้ ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่คนธรรมดา เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณชาย เคยสกปรกแบบนี้ที่ไหนกัน ?
เส้นหมี่ถอนหายใจ เดินเข้ามาหา“เอาล่ะ คุณนั่งลง ฉันจะช่วยคุณล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด ใส่ถุงเท้าที่ใช้แล้วทิ้งนี้ไปก่อน ถึงที่หมู่บ้าน ค่อยไปดูว่ามีร้านขายของหรือเปล่า แล้วค่อยซื้อคู่ใหม่ให้คุณ โอเคไหม?”
เธอพูดเกลี้ยกล่อมเขาราวกับพูดกล่อมเด็ก
โชคดีที่ หลังจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอหยิบเอาถุงเท้าแบบใช้แล้วทิ้งออกมา ในที่สุด เขาก็นั่งลงบนโขดหินที่ลำธารด้วยความจำใจ
“ทำไมคุณถึงเอาไอ้เจ้านี่มาด้วย?”
กระแสน้ำที่เย็นยะเยือกไหลผ่านขาของเขา หญิงสาวก็นั่งยองๆลง มือที่เรียวเล็กและนุ่มนวลของเธอจับไปที่เท้าทั้งสองข้างของเขาด้วยสองมือ ช่วยเขาล้างทำความสะอาด
ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็ราวกับถูกอะไรกระแทกเข้ามา
อ่อนปวกเปียก ยากที่จะควบคุมมันได้
“มันเป็นเรื่องปรกติทั่วไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ? ทำไร่ไถนา เด็กๆต้องตัวเลอะเปรอะเปื้อนอยู่แล้ว ฉันเตรียมไว้สำหรับพวกเขา”
เส้นหมี่ที่ก้มหน้าอยู่ไม่ได้สนใจอะไร ตอบออกไปส่งๆ นิ้วมือที่อ่อนนุ่ม กำลังทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนเท้าของชายหนุ่มอย่างเอาใจใส่
เธอรู้ว่าเขารักความสะอาด ดังนั้นก็จึงตั้งใจล้างให้เป็นพิเศษ
แสนรักก็สูดหายใจลึกอีกครั้ง!
ผู้หญิงคนนี้มันช่างจริงๆเลย
เขารีบเบนความสนใจ แล้วหันมองไปที่อื่น
เรื่องปรกติทั่วไป ?
เขาไม่เคยมีนิสัยแบบนี้มาก่อน แม้ชินจังจะถูกเขาเลี้ยงมาจนโต แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ก็ให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน ดังนั้นสิ่งที่เธอพูดมา เขาไม่เคยทำมันเลยสักครั้ง
ถ้าอย่างนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมา เด็กสองคนนั้น เธอเป็นคนทำทุกอย่างให้ทั้งหมดเลยเหรอ ?
แต่ว่า ก่อนที่เธอจะให้กำเนิดพวกเขา ก็เป็นคุณหนูที่ไม่เคยหยิบจับอะไรมาก่อน เธอคนเดียวเลี้ยงดูพวกเขาลำพังที่ต่างประเทศ ไม่มีใครคอยสอนเธอ ทำได้ขนาดนี้ ย่อมต้องลำบากกว่าแม่คนอื่นๆหลายเท่าตัวเป็นแน่
แสนรักนิ่งเงียบไป ภายในใจ ความเย็นชาที่เคยมีอยู่ในอก ก็ราวกับจะละลายลงไปอีกครั้ง……
“เส้นหมี่ คุณกำลังทำอะไร ? นี่คงไม่ใช่ ? กำลังล้างเท้าให้เขาอยู่หรอกนะ ? คุณคงไม่คิดว่าทำแบบนี้แล้วก็จะได้ลูกกลับคืนไปหรอกนะ ? ฉันจะบอกอะไรให้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้โง่นะ!”
ในตอนที่บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกำลังผ่อนคลายลงนั้น จู่ๆ แครอทก็เดินเข้ามา
เธอถือตะกร้า ยืนอยู่บนฝั่งด้วยความตกตะลึง จ้องมองไปที่คนทั้งสองแล้วเอ่ยปากพูดคำนั้นออกมา
ทันใดนั้นสีหน้าของเส้นหมี่ก็เปลี่ยนไปทันที
“แครอท นี่คุณพูดอะไรกัน ? ฉัน……”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ที่ลำธาร เท้าของชายหนุ่มที่กำลังถูกเธอล้างให้อยู่ จู่ๆก็ชักกลับในทันที