ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 485 ฆ่าถึงที่
“ไปไหน?”
แสงดาวยังอยู่ที่ตระกูลหิรัญชามันไม่ง่ายเลยที่หล่อนจะได้รับอนุญาตให้กินข้าวได้สองคำ เมื่อได้ยินอย่างนั้นถึงกับกลืนไม่ลง: “เขาจะไปไหน?“
“ฉันไม่รู้ ฉันเห็นมีคนแนะนำกัปตันให้เขา และยังบอกอีกว่าถ้าแสนรักจะไปให้บอกเขาก็ได้แล้ว?
“……”
แสงดาวไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
เพราะว่าตอนนี้หล่อนไม่รู้สถานการณ์ของน้องชาย ไม่ต่างกับผู้หญิงคนนี้
หลังจากถูกหิรัญชากรุ๊ปยึดอำนาจรายได้ทางเศรษฐกิจทั้งหมดก็ถูกตัด ดังนั้นเส้นหมี่จึงบอกว่าเขาไปกำลังหาคนพาเขาออกไปจากที่นี่ แต่หล่อนดูไม่มีทีท่าสงสัยอะไรเลย
“เธอไม่ได้อธิบายให้เขาฟังเหรอ?
“ฉันอธิบายแล้ว แต่เขาก็ไม่ฟัง และฉันก็ทำตามที่เธอบอกแล้วว่าให้ใช้บัญชีเกมบอกเขา แต่เขาบอกอีกอย่างทำอีกอย่าง”
เส้นหมี่นั่งบนริมทางในมือถือโทรศัพท์แล้วร้องไห้
แสงดาว:“……”
แสงดาวอดทนอดกลั้นจนในที่สุดหล่อนก็พูดออกมา:“จะโทษเขาก็ไม่ได้วันนั้นที่เขามาหาพวกเรา คำพูดที่พ่อฉันพูดกับเขามันแรงจริงๆ”
“อะ…อะไรนะ?”
“พ่อฉัน! เขาคิดว่าพวกเราไปจะไปขโมยของที่หอบรรพบุรุษ เขาเป็นคนสั่งเองและด่าเขา พูดว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่จริงๆแล้วเขาไม่กล้าปล่อย และยังบอกอีกว่าถ้าอยากได้มากนัก ก็พูดความจริงกับเขา ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงสองคนเพื่อบังหน้าทำเรื่องเลวๆแบบนี้”
“……”
ในหัวเขาดัง “หึ่งๆ”
เส้นหมี่กำลังหยิบโทรศัพท์แล้วเดินต่อ ในหัวของหล่อนรู้สึกมีบางอย่างระเบิด หล่อนหยุดก้าวเท้าและไม่ขยับอีกเลย
นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปลอม?
คำพูดแบบนี้สมควรออกมาจากคนเป็นพ่อหรือไม่? เขารู้หรือไม่ว่านี่แสดงถึงอะไร? และรู้หรือไม่ว่าบาดแพลที่เขาทำร้ายนั้นลึกแค่ไหน?
เส้นหมี่ถึงกลับร้องไห้ไม่ออก
กลับถูกแทนที่ด้วยความเยือกเย็นของตาย และความเจ็บปวดราวกับถูกแทงเข้าที่หัวใจด้วยมีด ทั้งเสียใจ รู้สึกผิด และสำนึกผิด…
หล่อนทำอะไรลงไป?
หล่อนจะปล่อยให้เขาถูกด่าว่าขนาดนี้ได้อย่างไร? หล่อนมีสิทธิ์อะไรมากล่าวโทษเขาว่าทำไมยังโกรธ?
เส้นหมี่หัวใจแทบสลาย
หล่อนไม่สนใจอะไรแล้ววิ่งไปขวางรถที่ริมทาง: “ไปที่ตระกูลหิรัญชาคฤหาสน์หลังเก่าถนนทองสาร”
“ได้ครับ คุณผู้หญิง”
แท็กซี่พาหล่อนขับออกไปด้วยความเร็วทันที
แต่สิ่งที่ทำให้หล่อนผิดหวังมากที่สุดคือเมื่อหล่อนไปถึงหน้าประตูบ้านคฤหาสน์หลังเก่า คนที่เดินออกมาบอกกับหล่อนว่า ตาเฒ่าไม่ได้อยู่ด้านใน
“สามพี่น้องทำไมเธอถึงมาที่นี่? เธอสร้างปัญหาให้น้องสามยังไม่มากพออีกเหรอ? ดาวยังคุกเข่าอยู่ด้านใน”
คนที่เดินออกมาคือธวัชลูกพี่ลูกน้องของแสนรัก
พี่ใหญ่ของตระกูลหิรัญชาบ้านสองในคฤหาสน์หลังเก่าเมื่อเห็นเส้นหมี่ก็มีสีหน้าที่แย่ลง
เส้นหมี่ได้ยินอย่างนั้น ตาของหล่อนก็แดงจะร้องไห้ทันที:“พี่ใหญ่เข้าใจผิดแล้ว ที่ฉันมาวันนี้เพื่อมาอธิบายให้คุณท่าน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรักเลย”
ธวัชไม่มีทางเชื่อเรื่องแบบนี้?
เขากำลังจะปิดประตูด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง
เส้นหมี่ร้อนใจรีบวิ่งเข้าไปสกัดเขาให้หยุด: “พี่ใหญ่จริงๆนะคะ พี่เชื่อฉันเถอะ ฉันอยากจะอธิบายให้ตาเฒ่าเข้าใจ และขอให้เขาไปขอโทษรัก ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ต้องร้ายแรงมากแน่”
ร้ายแรง?
สีหน้าของธวัชเปลี่ยนไป เมื่อคิดถึงลูกพี่ลูกน้องในที่สุดเขาก็ยอมจำนน
“เขาไปบ้านพักคนชราแล้ว เมื่อวานพวกเธอทำให้เขาโกรธมาก”
“……”
บ้านพักคนชรา?
บ้านพักคนชราที่หล่อนเคยไปตอนที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ?
เส้นหมี่ฟังอย่างอื่นไม่เข้าหูแล้วเมื่อได้ที่อยู่ที่นี่ หล่อนหันหลังแล้ววิ่งทันที
ไม่ว่าจะยังไงหล่อนก็ต้องหาเขาให้เจอ ไม่ว่าจะยังไง หล่อนไม่น่าปล่อยให้เขาด่าว่าเขาแบบนั้นเลย สำหรับคนที่เซนซิทีฟอยู่แล้ว หล่อนนึกไม่ถึงเลยว่าคำพูดแบบนี้จะสร้างบาดแผลลึกแค่ไหน?
เส้นหมี่รีบเร่งตลอดทาง
เมื่อนึกถึงเบื้องหลังความจริง ผู้ชายคนนั้นโกรธแทนหล่อนถึงได้เป็นแบบนี้ ตลอดทางที่อยู่ในรถหล่อนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
สี่สิบนาทีต่อมา
โชคยังดีที่หล่อนรู้เร็ว เมื่อมาถึงที่นี่หล่อนเห็นรถโรลส์-รอยซ์ที่คุ้นเคยอยู่ด้านนอกบ้านพักคนชรา
เส้นหมี่รีบลงจากรถทันทีและวิ่งเข้าไปข้างใน
นี่เป็นภาพที่น่าปวดใจจริงๆ
ยังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่หล่อนเดินเข้าไปในบ้านพักคนชรา หล่อนฟื้นจากความตายและก้าวเข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก
แต่ในขณะนั้น ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ข้างในรู้สึกปลาบปลื้มใจที่จำหล่อนได้ ตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหล
แต่ในตอนนี้?
เส้นหมี่ต้านลมหนาวที่พัดมากระทบหน้า มีเพียงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวังกับใจห่อเหี่ยวออกมาจากกระดูก!
“เดี๋ยวก่อน คุณเป็นใคร เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
“ฉันกำลังตามหาธนากร เขาอยู่ที่ไหน”
โกรธถึงขีดสุด หล่อนทักทายโดยการเรียกชื่อของเขา
พยาบาลสีหน้าเปลี่ยนทันที
ธนากร?
ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงได้เรียกชื่อท่านประธานพวกนาง? หล่อนเป็นใครกันแน่?
กำลังจะให้คนมาพาตัวคนบ้าคนนี้ออกไป ในขณะนั้นเองมีเงาคนหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
ตรงระเบียงทางเดินด้านหลังของเจาทั้งสอง
“ปล่อยให้หล่อนเข้ามา หล่อนเป็นแขกของคุณท่าน”
“อ้อ ได้ค่ะ”
หลังจากนั้นเส้นหมี่ก็เดินเข้าไป