ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 470 เขตแดนที่สูงที่สุดของการเกาะผู้หญิงกิน
กลับเห็นว่า หลังจากคนๆ นี้ฟังแล้ว ก็ยิ้มอย่างแผ่วเบา:“มีอยู่แล้ว บริษัทใหญ่แบบนั้น จะไม่มีเรื่องแบบนั้นได้ไงกัน?”
“จริงหรือ?งั้น……พี่จัดการอย่างไรหรือ?”
“ง่ายมาก ก็เหมือนตกปลาไง คุณอยากให้ปลาติดเบ็ด ก็ต้องใส่เหยื่อ ถ้าคุณเอาเบ็ดเปล่าๆ ปลาจะติดเบ็ดได้ไง?”
“……”
เส้นหมี่ได้ยินก็อึ้งทันที
เพราะว่า เธอไม่เคยได้ยินคำอุปมาที่ตรงประเด็นแบบนี้มาก่อน และก็ไม่เคยได้ยินวิธีการที่ฉลาดและยอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อนด้วย!
อย่างที่คิดไว้เลย เทียบกับเขาแล้ว เธอยังอยู่ห่างไกลจากเขาหลายพันไมล์
เส้นหมี่ลุกขึ้น“พึ่บ”ทันที!
“ภรรยา?”
“……พี่คะ เอ่อ วันนี้ฉันไม่ไปบริษัทแล้ว จู่ๆ ฉันก็คิดได้ว่ายังมีธุระต้องไปหาคุณลุง งั้นฉันไปก่อนนะ”
เส้นหมี่ตื่นเต้นมากจนพูดไม่ถูก เธอก้มลงจูบไปที่แก้มของชายหนุ่ม แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
แสนรัก:“……”
เก็บของพวกนั้นแทนเขา เธอมีความสุขขนาดนี้เชียว?
เขามองไปยังแผ่นหลังของเธอที่หายไป สักพัก จึงลูบแก้มตัวเองที่ดูเหมือนจะยังมีร่องรอยของริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธออยู่ แล้วยืนขึ้นมา
“ดลธี!”
“ครับ ประธาน”
นอกลานบ้านปรากฏร่างแข็งแรงร่างหนึ่งทันที ราวกับผีที่วาบเข้ามาในประตูนี้
แสนรักปัดขี้เถ้าออกจากตัว ใบหน้าเยือกเย็นและคมกริบนั้นดูไม่แยแส:“เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว?”
“โยนศพไปหน้าบ้านเขาแล้วครับ เชื่อว่าต่อไปเขาไม่กล้ามารังควานคุณนายอีกแน่ครับ”
“อือ”
สำหรับผลลัพธ์นี้ ชายหนุ่มคนนี้พึงพอใจ
ดังนั้นหลังจากเขาลูบหน้าตัวเองแล้ว ก็กำชับไปอย่างอารมณ์ดีว่า:“โอนเงินหมื่นล้านไปบัญชีอีริค”
อะไรนะ?!!
ประโยคนี้ทำเอาดลธีตกใจ เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที จ้อง BOSS ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อย่างตกตะลึง
“หมื่นล้าน?!!ประธาน คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับ?ทำไมจู่ๆ คุณก็ให้เงินอีริคเยอะขนาดนี้?เขา……”
“คุณนายจะใช้ เธอกำลังช่วยผมแย่งมรดกคืน”
เขายังมีหน้ามาโชว์ ใบหน้าที่ภาคภูมิใจและพึงพอใจ ช่างไร้เดียงสาอย่างกับเด็ก
ดลธีจะอ้วกออกมาเป็นเลือด!
ช่วยเขาแย่งมรดกคืน?
ตัวเองออกไปหมื่นล้าน จากนั้นค่อยให้ภรรยาไปยืมหมื่นล้านกลับมาจากคนอื่น?!!
ห่า!ตัวเองไปแย่งคืนมาเองเลยไม่ดีหรือไง?
ให้คนอื่นทำอะไรอ้อมโลกแบบนี้ สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เงินหรอกหรือ?นี่เขาว่างมากจริงๆ หรือนี่?ถึงได้เล่นเกมพลีชีพเพื่อสัจธรรมเช่นนี้!
“ยังจะงงอะไรอีก?รีบไปสิ”
“ไม่ใช่ครับ ประธาน คือผมไม่ค่อยเข้าใจ ในเมื่อคุณไม่ยอมแพ้เรื่องบริษัท แล้วทำไมต้องให้คุณนายทำอะไรอ้อมๆ แบบนี้ด้วย?คุณออกโรงเองไม่ได้หรือครับ?”
“ทำไมฉันต้องออกโรงเองด้วย?อีกอย่าง ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันจะกลับไป?นั่นคุณนายอยากทำแบบนี้ ฉันแค่ทำให้เธอสมปรารถนา เข้าใจไหม?”
“……”
“ใช่สิ ผมลืมไปว่าคุณไม่มีภรรยา พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ ออกไปเถอะ!”
“!!!!”
ดลธีโดนทำลายอย่างรุนแรง เขากุมหน้าอกแล้วออกไป
ไม่มีความเป็นคนเลย!
ทำไมประธานถึงได้ทำร้ายคนโสดแบบเขาเช่นนี้!
——
เส้นหมี่ก็หาแสงดาวเจอ
“ฉันคิดหาทางได้แล้ว พวกเราไปร่วมมือกับอีริคได้ พวกเราซื้อหนังสือโอนสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นนี้แล้ว ก็แบ่งให้เขา!”
ในร้านกาแฟตรงใจกลางลานกิจกรรม เส้นหมี่ที่ในที่สุดก็คิดหาวิธีได้ ก็ดีใจจนดวงตาทรงแอปริคอทนั้นเป็นประกาย
แสงดาวไม่ได้เก่งเท่าเธอขนาดนี้
แต่ว่า เธอก็เคยเป็นคนที่ควบคุมหิรัญชากรุ๊ปมาก่อน ดังนั้น เส้นหมี่พูดขึ้นมา เธอก็เข้าใจทันที
“นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่เขาจะยอมตกลงหรือ?”
“แน่นอน นี่เป็นถึงสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นหิรัญชากรุ๊ปของพวกคุณเชียว คนข้างนอกจำนวนมากต่างอยากได้ เขาจะไม่ตกลงได้ไง?”
พูดจบ เส้นหมี่ก็โทรหาอีริคด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง
อย่างที่คิดไว้ หลังจากโทรไปครั้งนี้ อีริคฟังข้อเสนอของเธอแล้ว ก็ไม่ได้ด่าว่าสมองเธอมีปัญหาอีก แต่ดูสนใจอย่างรุนแรง
“คุณหมายความว่า ผมเซ็นสัญญากับคุณ?”
“ใช่ เพราะว่าหิรัญชากรุ๊ป จะไม่ขายสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นไปให้คนนอกตามอำเภอใจ ฉันเป็นลูกสะใภ้ของเขา เขาไม่มีทางต่อต้านแน่ คุณวางใจเถอะ พอฉันได้มาแล้ว เงินปันผลที่หิรัญชากรุ๊ปให้ฉันทุกปี ฉันจะให้คุณ 20%”
เส้นหมี่กลัวว่าคนๆ นี้จะไม่เห็นด้วย จึงเพิ่มผลประโยชน์ให้เขายิ่งขึ้น
20% จากทรัพยากรทางการเงินของหิรัญชากรุ๊ปแล้ว น่าพิจารณามาก
ในที่สุดอีริคก็ตกลง
เส้นหมี่ได้ยิน จึงสางสาย แล้วก็กระโดดขึ้นมากับแสงดาวด้วยความดีใจตรงนั้นทันที
“เธอดูสิ ฉันบอกแล้วไงว่าได้ ในที่สุดพวกเราก็ทำได้”
“อือๆ งั้นฉันก็จะไปหาพ่อฉันด้วย ใช่สิ เธอจะใช้เอสเอฟของตระกูลวชิรนันท์ของเธอมาซื้อจริงหรือ?ถ้าหากเป็นแบบนี้ เท่ากับว่าเธอจะโยนครอบครัวของเธอทั้งหมดไปอยู่ในนั้นนะ”
แสงดาวที่ดีใจ ก็พูดเตือนอีกครั้ง
เส้นหมี่พูดไม่ออก
ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นบริษัทเธอที่เพิ่งก่อตั้ง ก็เท่ากับว่าไม่มีแล้ว ทำแทนผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ยอมเสียทุกอย่างเพื่อเขา
เส้นหมี่เงียบสักพัก ครู่หนึ่ง เธอก็มองไปยังผู้หญิงคนนี้ด้วยรอยยิ้ม:“ฉันแน่ใจ ฉันเชื่อว่าครั้งนี้ เขาจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีก”
แสงดาว:“……”
ช่างเป็นผู้หญิงที่โง่เสียจริง!