ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 529 ธนากรตายยังไงกันแน่?
“คุณหมอแครอท?”
“ไม่ ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่……”
แครอทยิ่งไม่สามารถสงบนิ่งลงมาได้
หวาดกลัวอย่างเหลือคณา ภายในใจไม่รู้ว่าจะสู้หน้าชายหนุ่มคนนั้นได้อย่างไร สุดท้ายเธอเลือกที่จะหลบหนี หลังจากนั้นก็ดึงเครื่องมือทั้งหมดออกจากร่างกายของแสงดาวเหมือนคนบ้า
แล้วก็หันหลังวิ่งออกไป!
พยาบาล:“……”
ประมาณหนึ่งนาทีกว่าๆ ห้องวิจัยนี้ก็อื้อฉาวขึ้นมา
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง แสนรักกับเส้นหมี่ที่ได้รับโทรศัพท์จึงรีบตามมา
พวกเขารีบพุ่งเข้ามาในห้องปฏิบัติการทดลอง มองเห็นแสงดาวที่นอนอยู่บนเก้าอี้ได้หมดลมหายใจลงแล้ว ในเวลานี้แสนรักจึงพังโต๊ะในห้องปฏิบัติการลงกระจัดกระจาย
“แครอทล่ะ ไปเรียกเธอมาให้ผมเดี๋ยวนี้!!”
เขาตะโกนออกมาอย่างแรง ห้องปฏิบัติการทดลองทั้งห้องต่างสะท้อนเสียงกลับมา
ทันใดนั้นพยาบาลตกใจกลัวจนวิญญาณเกือบจะหนีออกจากร่าง:“คุณหมอแครอทเธอ……เธอกลับบ้านแล้ว คุณแสนรัก คุณหมอแครอทของพวกเราเธอไม่ได้ตั้งใจนะคะ เธอเคยบอกแล้วว่า สารพิษนี้ เดิมทีเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ที่วิจัยออกมา ทุกๆก้าวนั้นมีอันตราย……”
“ดังนั้น ตอนนี้เธอทำให้เธอตายแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ฉัน——”
พยาบาลตกใจกลัวจะตายอยู่แล้ว แม้แต่น้ำตายังไหลออกมา
เส้นหมี่ที่อยู่ด้านข้างมองเห็นแล้ว จึงดึงห้ามปรามชายหนุ่มที่กำลังระเบิดความโมโหไว้
“เอาน่า คุณสามี พวกเราใจเย็นๆก่อน เรื่องราวก็มาถึงขนาดนี้แล้ว อย่าพูดอะไรมากความเดี๋ยวจะดึกดื่นมืดค่ำ พวกเราพาพี่สาวส่งไปที่โรงพยาบาลใหญ่ก่อนเถอะ”
“โรงพยาบาลใหญ่?”
ดวงตาทั้งสองข้างที่แดงฉานของชายหนุ่ม จ้องมาที่เธอ
เส้นหมี่เคยเห็นสีหน้าท่าทางทำลายล้างของเขามาก่อน ทันใด จึงสูญเสียการควบคุมจนสั่นเทาขึ้นมา
“ใช่……ใช่น่ะสิ พี่สาวก็ไม่อยู่แล้ว พวกเรา……ต้องพาเธอไปที่ห้องเก็บศพไม่ใช่เหรอ คุณสามีถ้าคุณ……จะไปตามแครอทมารับผิดชอบล่ะก็ พวกเราเรียก……เรียกนิติเวชมาทำกายวิภาคศาสตร์ก็ได้”
เธอที่ยืนอยู่ตรงนั้น พูดความคิดเห็นของตัวเองออกมาอย่างติดๆขัดๆ
ห้องเก็บศพ?
กายวิภาคศาสตร์?
แสนรักหรี่ตาลง มีอยู่กี่วินาที ที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
แต่สุดท้ายแล้ว เขากัดฟันแน่นกำหมัดแน่นแล้วอดทนเอาไว้ หลับตาลงอย่างแรง ผ่านไปไม่นาน ได้ยินเขาเปิดปากออกมา:“อืม ผมจะให้ดลธีเข้ามา คุณกลับไปก่อนเถอะ”
“ค่ะ ลำบากคุณแล้วคุณสามี คุณอย่าเสียใจให้มากไปเลย นี่เป็นสิ่งที่พวกเราต่างก็ไม่อยากเห็น”
เส้นหมี่ก่อนที่ออกไป จึงปลอบใจเขาหนึ่งประโยค
หลังจากนั้น เธอก็เดินออกไป
หลังจากนั้น พี่ภาที่อยู่บ้านเห็นคุณผู้หญิงกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นอย่างมาก
“พี่ภา พวกเด็กๆรับกลับมาหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ เมื่อกี้ปอร์เช่บอกว่ากำลังจะไปรับ”
“แบบนี้แล้วกัน งั้นบอกเขาว่า ไม่ต้องแล้ว ฉันไปรับเอง”เส้นหมี่ที่อารมณ์ดีเป็นอย่างมากเรื่องไปรับเด็กๆเธอจึงดักเอาไว้เอง หลังจากนั้นก็ถือกระเป๋าเดินออกไปอีกครั้ง
ตกกลางคืน ณ โรงพยาบาลซิตี้วัน
แสนรักยืนอยู่ในออฟฟิศของผู้อำนวยการโรงพยาบาลชั้นบนสุด มองไปด้านนอกไฟตามบ้านที่เปิดเอาไว้เป็นหมื่นดวงของเมืองนี้ ในดวงตาเหมือนถูกเคลือบด้วยน้ำหมึก ดำจนทำให้คนต้องตระหนกตกใจ
ดลธีเข้ามาในเวลานี้พอดี เปิดประตูมาเห็นภาพนี้ เขากลืนน้ำลายลงคอ
“ท่านประธาน คุณชายม็อกโกได้ช่วยพวกเราติดต่อสอบถามทางโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหารไปแล้ว คุณท่านมีอาการขึ้นอย่างกะทันหัน แน่ใจแล้วว่าไม่ได้จะมาจากยาที่ท่านกำลังทานอยู่ทำให้มีอาการเช่นนั้น”
“แล้วยังไงล่ะ”
“คุณหมอบอกว่า ยาที่ทานปกติทั่วไป แม้ว่าจะกินเกินขนาด ก็ไม่ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งตัวแบบนั้น”
“ดังนั้น สาเหตุเดียวที่เป็นไปได้ มีคนเปลี่ยนยาของเขา อีกทั้งยาชนิดนี้ หลังจากคุณชายม็อกโกได้ไปหาหมอแล้ว คุณหมอก็ได้ให้คุณท่านอยู่ที่นั่นก่อนเพื่อทำการทดสอบอย่างละเอียด พบว่า เป็นสารพิษที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน!”
ดลธีส่งผลการทดสอบที่มาจากโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหารในเมืองหลวงให้กับBOSSคนนี้ได้ดู
แสนรักมองดูแล้ว
เรื่องการแพทย์ เขาไม่เข้าใจ
แต่ว่า เขามีสมองที่มีไอคิวสูง อีกทั้งมีความคิดพิจารณาที่ละเอียดอ่อน
ดังนั้น หลังจากมองไปที่ผลทดสอบอันนี้แล้วรอบหนึ่ง เขาจับใจความได้ถึงเลขโค้ดของสารเคมีที่คุ้นเคยตัวหนึ่งทันที
“บูลดรีม”
“อะไรนะ”
ตอนแรกดลธียังไม่มีปฏิกิริยาใด
แสนรักชี้ไปที่เลขโค้ดในผลการทดสอบ:“ตอนนั้นที่แครอทดูดเลือดแสงดาวไปทดสอบ ผลที่ออกมา ก็เป็นสิ่งเดียวกัน เธอบอกว่า มันเรียกว่าบูลดรีม”
ดลธีตาโตแล้วนิ่งไป!
บูลดรีม?
นั่นมันคือสารเสพติดชนิดใหม่ที่เมืองเถื่อนวิจัยออกมาไม่ใช่เหรอ?
เหี้ย!ไอ้พวกเดรัจฉานจอมบ้าคลั่ง ทำกับคนในตระกูลหิรัญชาได้ลงคอ หนึ่งคนสองคนก็ใช้มันแล้ว ทำไมพวกมันไม่ไปตายซะ? ไม่ถูกดาบพันเล่มกรีดสักหมื่นครั้งล่ะ?
เป็นครั้งแรกที่ดลธีโมโหมากขนาดนี้ เกลียดมากจนอยากจะเอาพวกคนเหล่านั้นมาสับจนเนื้อละเอียด
“แครอทบอกว่า ยาชนิดนี้ หลังจากทานเข้าไปแล้ว จะอยู่ในภาวะที่มีความสุขเป็นอย่างมาก แล้วสุดท้ายก็จะสูญเสียสติสัมปชัญญะ แสงดาวยังสาว ดังนั้นเธอจึงเป็นคนสุดท้ายที่เสียสติ”
“งั้นคุณท่านเขาก็……”
ดลธีทั้งร่างสั่นเทา ดวงตาแดงฉาน โหดร้ายทารุณมากจนเขาพูดอะไรไม่ออกสักคำ
แสนรักจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
แต่ว่า สายตาของเขา จ้องมองไปด้านนอกมองลึกลงไปในเมืองที่อยู่ในเวลากลางคืน เขาแสดงสีหน้าออกมาอย่างน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
เหมือนความมืดแบบมืดสนิทก่อนที่จะเข้าสู่รุ่งอรุณ ความเยือกเย็นบนใบหน้าของเขา เมื่อทุกเส้นของความเย็นลดลงมา ก็เหลือเพียงความอาฆาตที่เข้มข้น เมื่อมองแวบหนึ่งก็ทำให้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น