งานเลี้ยงตระกูลที่เดอะซีวิวครั้งนี้ สุดท้ายก็เริ่มขึ้นหลังจากที่ทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
ส่วนเส้นหมี่ ก็ได้พบกับตระกูลราชวงศ์ที่โดดเด่นที่สุดที่ถูกพูดถึงกันมา สมาชิกวงศ์ตระกูลทั้งหมด
“คนที่อายุมากที่สุด ก็คือพี่ชายของคุณท่าน เขาชื่อประพันธ์ เมื่อก่อนเขาเป็นข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำแหน่งถือว่าสูงเลยนะ ตอนนี้เกษียณแล้ว อาศัยอยู่ที่ตึนมูน ไม่รู้ว่าสุขสบายมากขนาดไหน”
น้าแจ๋วชี้ไปที่ชายชราหัวหงอกที่นั่งกับไชยันต์ในงานเลี้ยงวงศ์ตระกูลแล้วแนะนำขึ้น
เส้นหมี่ที่ยืนอยู่ห้องข้างๆได้ยินเข้า สายตาก็จ้องมองไปยังประพันธ์
เธอรู้จักประพันธ์ เขาคือพ่อของวุฒิพล เมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่ไชยันต์ถือครองอำนาจมากมายแล้ว ก็ฉุดเขาขึ้นมาด้วย แต่ในความเป็นจริง เขาไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย ทำงานอยู่ในตำแหน่งนั้นมาทั้งชีวิต ก็แค่นั้น
กลับกันที่ลูกชายเขาวุฒิพลมีความสามารถมากกว่า
แต่ว่า น่าเสียดายที่ถูกแสนรักฆ่าไปแล้ว
เส้นหมี่จ้องมองชายชราที่ทั้งเตี้ยทั้งอ้วน
พบว่า แม้ว่าครั้งนี้เขาจะนั่งอยู่ข้างไชยันต์ แต่ว่า ดวงตาที่เย็นชามืดมนคู่นั้น จับตาดูแสนรักที่นั่งอยู่อีกข้างของคุณท่านอย่างไม่คลาดสายตา
สายตาคู่นั้น ราวกับว่าอยากจะกลืนกินเขาเข้าไป!
นิ้วมือของเส้นหมี่กระตุก
“ถัดจากเขาลงมา ก็คือลูกชายคนรองของเขาขุนรักษ์ ลูกสาวนีรวรรณ แล้วก็สะใภ้ใหญ่เดือนใจ และลูกชายคนที่สาม สี่ เป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา
น้าแจ๋วไม่ได้สังเกตถึงสีหน้าของเธอ ยังคงแนะนำให้เธออย่างกระตือรือร้น
ขุนรักษ์ ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินคนคนนี้เลย คาดว่า คงจะไม่ได้โดดเด่นอะไร
แต่ว่าผู้หญิงที่ชื่อนีรวรรณ หลังจากที่เส้นหมี่มองแล้ว ทันใดนั้น คิ้วของเธอก็ขมวดแน่น
ผู้หญิงคนนี้ ทุกคนที่มีสายเลือดเดียวกันต่างจ้องมองแสนรักด้วยความเกลียดชัง แต่ว่า เธอกลับดูสงบนิ่งอย่างมาก เธอดื่มชาที่อยู่ในมือ
ราวกับว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย
ไม่เกี่ยวจริงหรือ?
นั่นคือน้องชายแท้ๆของเธอเชียวนะ!
ดวงตาของเส้นหมี่หรี่ลง
“พี่ใหญ่ วันนี้คุณท่านเรียกทุกคนมาที่นี่ทำไม? หรือว่า เขาคิดจะออกหน้าแทนไอ้เดรัจฉานนั่นงั้นหรือ?”
พอดีกับที่เดือนใจที่นั่งอยู่ข้างนีรวรรณ หลังจากที่เห็นรูปแบบการจัดวางภายในงานเลี้ยงวงศ์ตระกูลแล้ว ก็ทนต่อไปไม่ไหว กัดฟันด้วยความแค้นแล้วหันไปถามเธอ
นีรวรรณยังคงไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ “นี่มันเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? ทะเลาะกันมานานขนาดนี้แล้ว ครอบครัวสมัครสมานกิจการจึ่งร่วงลุผล”
“แต่ว่า……” เดือนใจได้ยินแล้วก็รู้สึกลนลานขึ้นมาทันที
แต่แค่ในชั่วขณะเดียว เส้นหมี่ที่ยืนอยู่ห้องข้างๆ เห็นเพียงนีรวรรณที่อยู่ข้างๆเธอ แววตาทั้งคู่เย็นชาเข้มงวดขึ้นเดือนใจก็ชะงักลงทันที
ไม่กล้าที่จะส่งเสียงใดๆอีก
น่าสนใจ!
ความสนใจของเส้นหมี่รวมอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้หมดแล้ว
งานเลี้ยงตระกูลในขณะนี้ เมื่อเทียบกันแล้ว สายเลือดของประพันธ์ล้วนมีแผนชั่วร้ายอยู่ในใจ ส่วนสายเลือดอีกด้าน กลับดูอบอุ่นมากกว่ามาก
“ปู่สาม ครั้งนี้รีบร้อนกลับมา ไม่ได้เตรียมของขวัญดีๆให้ท่านเลย ดูนี่สิ นี่คือสิ่งที่ผมได้มาโดยบังเอิญตอนที่ทำงานอยู่ด้านนอก ไม่รู้ว่าปู่สามจะชอบไหม?”
“จะเกรงใจอะไรขนาดนั้นล่ะ? คนบ้านเดียวกันทั้งนั้น”
ไชยันต์โบกมือ การปฏิบัติต่อความสัมพันธ์นี้ ก็ดูอ่อนโยนไม่น้อยเลย
ทุกคนนั่งอยู่กับที่แล้ว ในที่สุดงานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว เส้นหมี่เห็นเหล่าคนใช้ที่เริ่มยุ่งวุ่นวายกัน เสิร์ฟอาหาร เสิร์ฟเหล้า……
ส่วนเธอ เพราะว่าเป็นเพียงแพทย์ประจำตัวของแสนรัก ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนี้ อยู่ที่ห้องข้างๆนี้ต่อไป
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้ว งั้นก่อนที่ฉันจะเริ่มงาน จะขอกล่าวอะไรกับทุกคนสักหน่อย!”
เป็นไปดังนั้น เมื่องานเลี้ยงเริ่มขึ้น ไชยันต์ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ดวงตาที่ทั้งน่าเกรงขามและจริงจังก็กวาดมองทุกคนบนโต๊ะอาหาร เขาเริ่มพูดขึ้นแล้ว
ทุกคนได้ยินแล้ว ใครจะกล้ากำเริบอีก?
ทุกคนล้วนนั่งหลังตรงขึ้นมาทันที ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด
รวมถึงประพันธ์ด้วย!
“ช่วงนี้ ทุกคนก็เห็นแล้ว ตระกูลเทวเทพของเราเกิดเรื่องขึ้น วุ่นวายเสียจนไม่มีวันสงบเลย เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่าหลังจากที่รับประทานอาหารมื้อนี้เสร็จ ก็ให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไป ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป อย่าให้ฉันเห็นว่าเกิดเรื่องขึ้นอีก ได้ยินหรือเปล่า?”
หลังจากคำพูดที่น่าตกใจและทรงพลังอย่างมากนี้ออกมาจากปากของคุณท่านแล้ว ทันใดนั้น ทุกคนบนโต๊ะอาหารก็เกิดฟิวส์ขาดทันที!!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
นี่คุณท่าน คิดจะจบเรื่องนี้ไปทั้งๆแบบนี้หรือ?
นี่เขากำลังปกป้องไอ้บ้านั่นหรือ?!!
สายเลือดของประพันธ์ ทุกคนล้วนหน้าเขียวกันหมด รวมถึงประพันธ์เองด้วย
เส้นหมี่เองก็อึ้งไปครู่หนึ่ง เธอที่ประหลาดใจที่สุดท้ายแล้วตาเถ้านี่จะใช้วิธีนี้มาจบเรื่องนี้แบบนี้ รีบหันไปมองชายที่อยู่ตรงข้าม
กลับพบว่า เขาเองก็หันหน้าไปจ้องตาเถ้านั่นเหมือนกัน
นานมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่สายตาของเขาจดจ้องไปที่คนคนหนึ่ง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าอึ้งเล็กน้อย ……
คาดว่า เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
“จะทำแบบนั้นได้อย่างไร? อารองคะ ทั้งวุฒิพล ม็อกกาและจูเน่ของเรา ต่างก็ต้องจบชีวิตลงในกำมือของมัน จะให้มันผ่านไปดื้อๆแบบนี้ได้อย่างไร? มันไม่ยุติธรรมกับบ้านเราเกินไปไหมคะ?”
ในที่สุดเดือนใจก็ทนไม่ไหว เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ชี้ไปที่ใบหน้าของแสนรักแล้วกล่าวโทษด้วยใบหน้าที่ดุร้าย