Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!
“ข้า…”

ปัง!

สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน

บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้

เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว

ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล

ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน

“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”

“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”

“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”

“จนกว่าจะตายไปข้าง!”

อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ข้ายอมแพ้!”

“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”

“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”

สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง

ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน

ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!

ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน

ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว

ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย

เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น

มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ

เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”

เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”

ฟุบ!

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน

ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!

เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน

“ข้ายอมแพ้!”

แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!

หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ

เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก

เฮ!

เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!

“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”

“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”

“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”

สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!

มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?

วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?

นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?

เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?

มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?

แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!

นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?

ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ

ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน

หากพวกเขาต้องสู้กันจริงๆ แล้วแม้เฉียซวยจะเอาชนะเย่หยวนไม่ได้แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นตายลงในกระบวนท่าเดียวอย่างคนอื่นแน่นอน

แต่ว่ายอดอัจฉริยะเช่นนั้นกลับไม่คิดแม้แต่จะลองและยอมแพ้ให้แก่เย่หยวนในวินาทีที่เริ่มศึก!

“พอได้แล้วเฉียชิง! เจ้าเอาชนะเฉียซวยมาได้แล้วมันไม่มีใครว่าเจ้าอวดอ้างตัวเองอีกแน่นอนแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าถอนตัวจากงานคัดเลือกร้อยบุตรเดี๋ยวนี้!” เยียหวู่กวยร้องลั่นขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปงานคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันคงเละไม่เป็นท่าแน่

เยียหวู่กวยนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

แม้แต่เจ้าโลกยังไม่พอใจ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่ามันหมายความว่าอะไร?

เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปร้องถาม “หากข้าถอนตัวแล้วข้าจะยังเข้าสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาได้หรือไม่?”

“อึก!”

เสียงร้องนั้นมันแสดงได้ชัดเจนว่าเยียหวู่กวยกำลังกระอักเลือด

“ใช่!” เยียหวู่กวยร้องตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นข้าจะถอนตัวก็ได้ เฮ้อ ไม่มีใครใจสู้สักคนน่าเบื่อแท้ๆ”

“อ่อก!”

เสียงกระอักเลือดดังขึ้นมารอบด้าน

มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครใจสู้แต่เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไป!

เจ้าเอาชีวิตทุกคนที่ขึ้นไปประลอง ใครมันจะไปกล้าสู้กับเจ้า?

เย่หยวนเองก็รู้สึกเสียดายผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เพราะเขานั้นยังหวังอยากจะสังหารให้มากกว่านี้แต่ว่าในการแข่งขันแบบจับคู่เช่นนี้มันย่อมจะสังหารได้ไม่มากเป็นทุนอยู่แล้ว

การสังหารแค่คู่ต่อสู้ตรงหน้านั้นมันเสียเวลา ทำได้แค่เป็นการฆ่าเวลาเท่านั้น

แต่เย่หยวนก็ยังเสียดายไม่หายที่ไม่อาจจะสังหารเฉียซวยลงได้

เพราะเขานั้นรู้ว่าเฉียซวยนั้นเก่งกาจมาก!

เพราะก่อนที่เขาจะปรากฏตัวนั้นเฉียซวยคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งและเป็นว่าที่เจ้าโลก

การยกย่องเช่นนั้นมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แม้แต่ในเผ่าเลือดก็ตาม

สุดท้ายเย่หยวนจึงได้แต่ต้องเดินลงจากสังเวียนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

จากนั้นทางเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็ได้ลงมติว่าจะทำการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนขึ้นมาใหม่ในวันหลัง!

เมื่อไม่มีอะไรทำเย่หยวนจึงได้มุ่งหน้าไปดูการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงแทน

หยางชิงนั้นยังคงทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่มีเปลี่ยน แต่เขานั้นก็ทั้งเก่งและน่าหมั่นไส้ทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังของคนอย่างมาก

เขานั้นเองก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว แน่นอนว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันแทบจะไร้เทียมทาน

ศัตรูของเขานั้นเองก็ตายตกลงไปอย่างมากเช่นกัน

แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่ใช่เย่หยวน มันย่อมจะไม่สามารถสังหารจนคนกลัวกันหัวหดได้

หลังจากมาถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง หยางชิงก็ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ

เมื่อมาถึงระดับนี้เย่หยวนก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าร้อยบุตรเผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ติดสิบอันดับแรก พวกเขานั้นเก่งจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุก

เผ่าเลือดนั้นมันสามารถสร้างยอดฝีมือมากมายขึ้นมาด้วยการคัดเลือกที่อาบเลือดเช่นนี้จริง

ที่สำคัญไปกว่านั้นการคัดเลือกร้อยบุตรยังจะเกิดขึ้นทุกสิบปี แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เพราะสิบปีนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเวลาแค่พริบตาสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลาย

จนสุดท้ายแล้วหยางชิงนั้นก็พ่ายแพ้ลงและได้ตำแหน่งอันดับที่เก้ามาครอง!

มันหมายความว่าตอนนี้มีจักรพรรดิเที่ยงที่เก่งกาจกว่าหยางชิงถึงแปดคนในเผ่าเลือด

แท้จริงแล้วแค่ได้ที่เก้ามามันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่แล้วสำหรับหยางชิง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเที่ยงนั้นก็ต่างเป็นยอดฝีมือหนึ่งในแสนล้านของเผ่าเลือด!

เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งจักรพรรดิเซียนแล้วหยางชิงก็ต้องหุบปากลงทันที

ฉิบหายจะเกินหน้ากันไปแล้ว!

เย่หยวนมันเอาแต่กดหัวข้าอยู่เรื่อย!

เขานั้นทุ่มสุดตัวแล้วยังได้มาแค่ที่เก้าแต่เจ้าบ้านั่นกลับสังหารศัตรูจนคนที่เก่งที่สุดยังได้แต่ต้องยอมแพ้ทันที

ต่อให้จะเป็นอันดับหนึ่งอย่างเฉียซวยนั้นก็ไม่กล้าปะทะกับเย่หยวน

เฮอะๆ!

สักวันข้าจะทำตัวเด่นกว่าเจ้าให้ได้!

การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นจบสิ้นลงในที่สุดพร้อมประกาศรายชื่อใหม่ของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีชื่ออยู่บนนั้น

เพราะแค่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันเล็กเกินกว่าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาคนนี้

อัจฉริยะไร้เทียมทานได้ผงาดขึ้นในเผ่าเลือด

การปรากฏขึ้นของเย่หยวนนี้มันทำให้เผ่าเลือดแตกตื่นไปพักใหญ่

เพราะเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไป!

ตอนไม่ได้ออกหน้าออกตานั้นไม่มีใครรู้จัก แต่พอตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์แตกตื่น!

เหล่ายอดฝีมือที่บรรลุเจ้าโลกไปได้ในรอบพันกว่าปีมานี้ ตอนพวกเขายังเป็นจักรพรรดิเซียนมันไม่มีใครจะทำได้ถึงหนึ่งในหมื่นของที่เย่หยวนทำตอนนี้ด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นคนเผ่าเลือดจึงได้ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะพวกเขามั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานมันคงได้มีเจ้าโลกคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาแน่แล้ว!

…………………………

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท