ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 965 ทุบขาแกให้หัก

บทที่ 965 ทุบขาแกให้หัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 965 ทุบขาแกให้หัก!

【เส้นหมี่ : เปล่า แค่อยากบอกพี่ว่า แผนการชั่วของนังคนต่ำช้านิษานั่นไม่สำเร็จ น้องชายพี่ขู่ผู้เฒ่าตระกูลโชคศักดานั่นจนอยู่หมัดแล้ว แน่นอนว่า ม็อกโกเองเขาก็ไม่ยอมแต่งงานด้วย】

ประโยคสุดท้ายนี่สำคัญที่สุด

แต่อีกฝั่งของโทรศัพท์ทางนั้น หลังจากที่นิ่งเงียบไปหลายนาที ข้อความที่ผู้หญิงคนนี้ส่งมาให้ กลับมีเพียงไม่กี่คำ

【แสงดาว : มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันแล้ว】

【เส้นหมี่ : …………】

【เส้นหมี่ : อันที่จริงพี่สามารถบอกเขาได้ ไม่ว่าพวกพี่จะเป็นไปได้หรือไม่ได้? ฉันคิดว่า บางเรื่องคงต้องให้ตัวเองไปต่อสู้สักหน่อยเพื่อให้ได้มา พี่ไม่พูด แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าในใจเขาคิดอย่างไร?】

【แสงดาว : งั้นทำไมตอนนั้นเธอถึงยอมตาย ยอมพาลูกสองคนหนีไปต่างประเทศ ก็ยังไม่ยอมที่บอกน้องชายฉันสักคำ?】

【……】

เส้นหมี่เงียบไปอย่างสิ้นเชิง

นี่มันกระตุ้นโดนแผลเจ็บของเธอ

แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอฟังเข้าใจแล้ว จะว่าไป พวกเธอต่างก็ไม่อยากให้เอาเกลือมาโรยตรงบาดแผลตัวเองอีกในตอนที่บอบช้ำที่สุด แต่กลับเลือกหยิบเอาศักดิ์ศรีสุดท้ายที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และเลือกที่จะจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี

เส้นหมี่เองก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเธอก็ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ให้เธอ นั่นก็คือถึงแม้ว่าเธอไม่สามารถแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ได้ ถ้าอย่างนั้น ขอเพียงแค่มีเธอเส้นหมี่อยู่ ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตระกูลโชคศักดานั่น ก็อย่าคิดแม้แต่จะได้เข้าประตูของตระกูลเทวเทพ!

——

เขตทหารโซน 13

รองผู้นำเดชาพาไชยันต์มา ในที่สุดก็มาเจอม็อกโกที่กำลังเจรจาอย่างดุเดือดอยู่กับผู้นำที่นี่

“ท่านจอมพล ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”

“ท่านจอมพล รอจนท่านมาถึงสักที”

หลังจากที่ผู้นำเหล่านี้เห็นไชยันต์แล้ว แต่ละคนต่างก็เหมือนกับว่าคว้าเส้นฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้แล้ว ตื่นเต้นดีใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา

เขตทหารยังคงจงรักภักดีกับไชยันต์เป็นอย่างมาก

หลังจากที่ไชยันต์โบกมือ ส่งสัญญาณให้พวกเขาออกไป เขาอยู่ในห้องทำงานคนเดียว จ้องมองดูไอ้หลานนอกคอกที่แม้แต่เห็นว่าเขามาถึงแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีท่าทีสำนึกผิดกับประหม่าเลยแม้แต่น้อย!

“มา พูดมาซิ แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”

สุดท้ายไชยันต์ก็ฟังคำแนะนำของรองผู้นำเดชา ข่มไฟโกรธนั้นเอาไว้ก่อน แล้วเอ่ยปากถามอย่างใจเย็น

ม็อกโกอึ้ง

ประมาณว่าคิดไม่ถึงว่า ชายชราที่นิสัยโมโหใจร้อนมาแต่ไหนแต่ไร มาถึงขั้นนี้แล้ว กลับยังไม่โมโหอาละวาด ทุบโต๊ะใส่เขา

“ไม่มีอะไร ผมก็แค่อยากออกไปเที่ยวเล่น”

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้โมโห ม็อกโกเองก็ตอบมาหนึ่งประโยคอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน

“เที่ยว?” ไชยันต์พยายามอดกลั้นเอาไว้อยู่ “ไปที่ไหน?”

“เมืองนอก ผมอยากไปเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมที่เมืองY นี่คือสาขาที่ผมชอบ ได้ติดต่อทางนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว ลาออกครั้งนี้ก็สามารถไปได้แล้ว”

ม็อกโกยังคงไม่ปิดบังใดๆ

ผลคือ พอเขาพูดจบลง ชายชราคนนี้ที่อดกลั้นไว้เป็นเวลานานมากแล้ว ในที่สุดก็ระเบิดออก

เขาไม่พูดอะไรเลย ยกฝ่ามือที่ดูเหมือนใบลานขึ้นมาแล้วตบฟาดลงไปโดยตรงหนึ่งฉาด!

“เปรี๊ยะ——!“

ทันใดนั้น เสียงตบหน้าที่ดังฟังชัด แม้แต่คนด้านนอกต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน!

“แกยังคิดจะไปเมืองนอก? ใครให้ความกล้าดีนี้กับแก? แกคิดว่าพ่อแม่ของแกตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครคุมแกแล้วงั้นเหรอ? คอยดูวันนี้ฉันจะทุบขาแกให้หัก!!”

เสียงขู่คำรามที่ตะเบ็งออกมาด้วยความโกรธ สั่นสะเทือนจนได้ยินเสียงสะท้อนดังไปทั่วทั้งห้องทำงาน

รองผู้นำเดชาที่อยู่ข้างนอกได้ยินแล้ว ก็รีบบุกเข้าไปทันที

แต่พวกผู้นำเหล่านั้นกลับใช้แรงห้ามเขาเอาไว้ : “รองผู้นำเดชา คุณอย่าเข้าไปเลย เป็นเรื่องยากที่ พวกคนชั้นสูงจะจัดการเรื่องภายในครอบครัว คุณเข้าไปแล้วก็มีแต่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น”

“แต่!!”

รองผู้นำเดชาร้อนใจจนแทบจะพ่นฟองออกมาแล้ว “ถ้าผมไม่เข้าไป คุณท่านจะทุบเขาจนตายนะ!!”

“……”

คำพูดนี้ ฟังแล้วช่างน่าหวาดกลัวเสียจริง

แต่ในความเป็นจริง ด้วยนิสัยของไชยันต์ บวกกับที่เขานำทัพสู้รบมานานหลายปี มือของเขาไม่แยกหนักเบา ซึ่งมันมีความเป็นไปได้นี้จริงๆ

“แกร๊ก!”

จริงๆ ด้วย รองผู้นำเดชาเพิ่งจะพูดจบ ก็ได้ยินอีกครั้งว่าด้านในมีเสียงเหมือนอะไรบางอย่างในร่างกายแตกหัก ตามมาด้วย เสียงอู้อี้กลั้นเจ็บของผู้ชายคนหนึ่งลอยออกมา

“โอ๊ย…….”

“ฉันจะบอกแกให้นะม็อกโก วันนี้ฉันยอมตีแกไอ้เด็กเหลือเดนนี่ให้ตาย แกก็ไม่มีทางออกไปจากประตูใหญ่ของเขตทหารแห่งนี้!”

เสียงดุด่าแฝงด้วยความรุนแรงและโหดร้ายลอยออกมาจากในห้องทำงานแห่งนี้ คือแทบจะทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ม็อกโกล้มฟุบลงบนพื้น สักพัก เขาก็กระอักเลือดออกมาจากในปาก ในที่สุด เขาหัวเราะเยาะ : “ดีสิ งั้นวันนี้ปู่ตีผมให้ตาย ถ้าปู่ตีไม่ตาย ปู่ก็คือหลานชาย!”

“แก—— “

นี่เป็นต่อต้านที่สุดประโยคแรกที่ม็อกโกเคยพูดในตลอดชีวิตของเขา

ไชยันต์โกรธจนสติสัมปชัญญะทั้งหมดที่มีหายวับไปในพริบตา!

เขายกเก้าอี้ตัวหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เตรียมที่จะฟาดลงไปบนตัวของเขา

แต่ทันใดนั้น เขาสบตากับดวงตาคู่นั้นของเขา ดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เฉียบขาด ไม่เต็มใจ…….. ยังมีความดุร้ายแล้ว หลังจากที่เขาตะลึงไป ทันใดนั้นก็เหมือนกับโดนคนสะกดจุดเอาไว้

เก้าอี้ตัวนั้นก็ไม่ได้ฟาดลงไปอีกเลย!

เขาไม่เคยเห็นสายตาอย่างนี้ของเขามาก่อนเลย

เด็กคนนี้ มีความอ่อนน้อมถ่อมตนมาตั้งแต่เล็กๆ ต่อหน้าหน้าเขาก็ยิ่งเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ไม่เคยดื้อ เรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของตระกูลเทวเทพ แต่ตอนนี้ สายตาของเขาแบบนี้คือ?

“ทำไม? ไม่ลงมือแล้วล่ะ? อันที่จริงก็ดีนะ ตีตายแล้ว ผมเองก็ไม่ต้องออกไปไหนอีกแล้ว ปู่สบายใจ จะได้จบแล้วต่อกัน”

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน